ติดต่อสอบถาม กรุณาแอด Line @astroneemo

  • Slider 1
  • Slider 2
  • Slider 3
  • Slider 4
  • Slider 5
  • Slider 6
  • Slider 7
  • Slider 8

Website แห่งแรกและแห่งเดียวในเมืองไทย ที่ให้บริการฤกษ์ยามชั้นสูงของโหราศาสตร์ภารตะจากคัมภีร์พระเวทของพราหมณ์อันศักดิ์สิทธิ์ และได้ผลตอบรับดีสูงสุดเป็นปีที่ 15 แล้ว WebSite ของเราให้การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในระดับสูงสุด ด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงจากยุโรป "SiteGuarding" บริการดูฮวงจุ้ย แก้ฮวงจุ้ย เสริมฮวงจุ้ย ด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปี***

สารบัญ



คัมภีร์ :  รับอัปยศไม่แค้น


อธิบาย :  ถึงแม้จะได้รับความอัปยศจากคนอื่น ก็ควรที่จะโทษตนเองที่มีบุญน้อยกุศลเบาบาง  ไม่สามารถทำให้คนเขาเกรงใจ ด้วยเหตุนี้ควรที่จะสั่งสมบุญกุศล จะไปแค้นเคืองผู้อื่นไม่ได้

ต้องรู้ว่า เมื่อได้รับความอัปยศจากผู้อื่น เราต้องรีบกลับมาสำรวจตนเอง เป็นความผิดของเราเองใช่หรือไม่ ถ้าหากใช่ก็เป็นเหตุผลพอที่คนอื่นจะทำอัปยศเรา เราควรยอมรับโดยดี ถ้าความชั่วอยู่ที่ผู้อื่น การทำอัปยศก็ไม่สมควร  ถึงแม้จะอับอายมาถึงตนก็เหมือนไม่มีความอัปยศ ไม่เพียงไม่ควรโกรธแค้นเพราะไม่มีที่จะแค้น  ตั้งแต่โบราณมา คนที่มีปัญญามีความกล้าหาญ ก็สามารถอดทนต่อความละอายเล็กๆ นี้ได้ จึงจะสามารถทำงานใหญ่ให้สำเร็จได้  คนที่มีใจคับแคบความรู้น้อยก็จะไม่สามารถทำงานใหญ่ให้สำเร็จได้  คนที่มีใจคับแคบความรู้น้อยก็จะไม่สามารถที่จะเข้าใจหลักธรรมนี้ได้

ในสมัยซ่ง นายหยวนโม่วอิ๋ว  เป็นชาวอำเภอติงหู มณฑลเจ๋อเจียง เขาสอนลูกหลานเขาว่า “คนที่ไม่มีประสบการณ์ต่อความอดทน  ฝึกฝนมาก่อน  ก็จะไม่รู้จักคำว่า อดทน  นี้มีความยากลำบากแค่ไหน  ถ้าในใจมีความดีความชั่วต่อสู้กันแล้ว  ก็จะไม่เข้าใจได้ความลึกซึ้งของตัวอักษรอดทนล้ำลึกนัก  คนเราถ้าไม่สามารถอดทนต่ออัปยศได้  ถ้าจะเนคนมีใจดี  แต่พอถูกคนกระทุ้งก็ดีแตก  พอถูกคนหักหน้าก็ร่วงหล่นแล้ว  เพราะฉะนั้นท่านเมิ่งจื่อจึงกล่าวว่า “เมื่อเบื้องบนจะให้ภาระหนักแก่ใครแบกรับ ก็ต้องให้เขาได้ฝึกฝนใจเสียก่อน ให้ฝึกฝนใจที่เคลื่อนไหวว่ามีบารมีของจิตขันติหรือไม่ นั่นคือต้องการให้คนพิจารณาด่านอันนี้  ส่วนใหญ่แล้ว  การให้ทานสงเคราะห์ผู้อื่น ถ้าไม่ระวังก็จะได้รับการโกรธแค้นจากบางคน การคิดแทนคนอื่นก็ไม่ต้องหลบหลีกการโกรธแค้นกล่าวโทษจากคนอื่น  ต้องยอมรับการกล่าวโทษ  ทำง่านต้องขยันชี้นำอบรมโดยไม่หนีการนินทาว่าร้ายของใคร ต้องจริงใจอภัยคนอื่น  หรือได้รับการเยาะเย้นถากถางจากคนอื่น วิสัยอันธพาลต่างๆ เหล่านี้ ล้วนติดมากับใจที่ดี การกระทำที่ดีหากไม่สามารถเข้าใจหลักธรรมนี้ ก็ไม่ใช่คนดีที่เพียงพอแท้จริง”


นิทาน ๑ :   ในสมัยซ่ง เฉินปู่ปี้ สอนลูกของเขาว่า “ตัวอักษรอดทนนี้อัศจรรย์นัก  คนถ้าหากมีความสุจริต  สะอาด  และประหยัด ถ้ามีความอดทนเพิ่มอีกอย่าง ก็ไม่มีเรื่องอะไรที่ทำไม่ได้”  ในสมัยที่เฉินปู่ปี้ยังหนุ่ม มีคนด่าเขา คนที่ยืนอยู่ข้างๆ พูดกับเขาว่า “นี่ ! มีคนกำลังด่าเจ้าอยู่”  เขาตอบว่า  “เขาคงกำลังด่าใครอยู่มั้ง”  คนข้างๆ ก็พูดว่า   “เขาออกชื่อออกแซ่ของเจ้าอยู่นา”  เขาตอบว่า  “โลกนี้กว้างใหญ่คนที่มีชื่อแซ่เหมือนกันจะไม่มีหรือ  เขาไม่ได้ด่าฉันหรอก”  ภายหลังคนที่ด่าเฉินปู่ปี้   ได้ยินแล้วก็รู้สึกละอายมาก

คุณหยวนกวงชง  กล่าวว่า “อักษรอดทนนี้ยากที่สุด”  คนที่สามารถอดทนได้  คุณธรรมและใจกว้างของเขาต้องใหญ่มาก  แต่เมื่อถึงจุดที่เขาอดทนต่อไปไม่ได้  ก็เป็นเวลาที่นิสัยหยิ่ง่ยโสในใจเขาเพิ่มพูนจนล้นออกมา”  ก่อนนี้มีกลอนบทหนึ่งว่า  “ตอนหนุ่มลอดใต้ขาได้ไม่ขัดขืน  พ่อเฒ่าข้างสะพานสะดุ้งไม่สงบ ชีวิตหากมีมองตอนชรา ที่ไอ๋อินลดบทความสำเร็จได้”  กลอนบทนี้พูดได้ดีมาก  ในสมัยฮั่น ขุนพลหันซิ้น  สมัยหนุ่มเขามีความอดทนมาก  ยอมรับความอัปยศ  ยอมลอดใต้ขาคน  ต่อมาเขาประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่ ฮ่องเต้ฮั้นเกาจง สถาปนา

ให้เขาเป็นเจ้าฉีอ๋อง แต่ภายหลังการสำเร็จแล้วก็หยิ่งทะนง  ไม่สามารถอดทนอะไรได้ ในที่สุด  เพราะไปทำอัปยศแก่โจวฝา  และพันหุ้ยจึงถูกฆ่า นี่ก็เหมือนการดื่มสุรา  ดื่มจนเต็มแล้วก็ดื่มไม่ได้อีก


นิทาน ๒ :  สมัยก่อนที่เมืองเจียงอิน  มีเศรษฐีเซี่ยคนหนึ่ง  วันหนึ่งเขากำลังเล่นหมากอยู่กับแขก  ทันใดก็มีคนถลันเข้ามาหาเขาด้วยความโกรธ  พูดว่า  “คนแซ่เซี่ย  ข้าเป็นหนี้เจ้าแค่ดอกเบี้ 2 ตำลึง เท่านั้น  ทำไมจึงส่งคนมากดดันทวงหนี้ทุกวัน”  ไม่ทันที่คุณเซี่ยจะตอบเขาก็ด่าเอาๆ ทั้งผลักโต๊ะล้ม  หมากบนกระดานหกหมด  คุณเซี่ยก็หัวเราะขึ้น  “เจ้ามาบอกข้าด้วยจุดมุ่งหมายเรื่องนี้หรือ  ก็ยกเลิกหนี้ 2 ตำลึงให้ก็แล้วกัน”  เสร็จแล้วก็เอาพู่กันเขียนหลักฐานยกหนี้ 2 ตำลึงให้ เขาได้หลักฐานแล้วขอบใจรีบกลับออกไป  แขกของเศรษฐีเซี่ยเห็นเข้ากับตาเช่นนี้  รู้สึกชื่นชมยกย่องว่า “คุณเซี่ยช่างเป็นผู้เจริญธรรมที่แท้จริง”  คุณเซี่ยกล่าวว่า “ความอดทนเป็นประตูวิเศษที่สุด  ใช้ปฏิบัติต่อคน  หากมีคนกำลังขวางใส่เรา ก็เหมือนวิ่งเข้าไปในดงหนาม ตอนนี้ต้องเดินช้าๆ  ค่อยเอาหนามที่ขวา

งตัวดึงออกไปเท่านั้น  เจ้าหนามนี้จะสามารถทำให้ข้าโกรธได้หรือ  ก็เจ้าคนนี้หน้าตาโหดเหี้ยม พูดจาก้าวร้าว  เขาตั้งใจมาเล่นงานเรา  ถ้าเราไปทำให้เขาโกรธก็จะเกิดเรื่อง เพราะฉะนั้น จึงอภัยเลิกเงินดอกเบี้ยไ”  พอตกตอนเย็นก็ได้ข่าวว่า  คนนี้ตายอยู่หน้าห้องน้ำในบ้าน  ถามได้ความว่า เพราะเขาถูกกดดัน  เร่งรัดให้ใช้หนี้  ไม่มีทางออก  เพราะฉะนั้นจึงกินยาพิษเข้าไปก่อน  เพื่อที่จะมาใส่ร้ายคุณเซี่ย  แต่กลับรู้สึกขอบคุณที่คุณเซี่ยลดหนี้ให้  จึงอดไม่ได้ที่จะไปใส่ร้ายคุณเซี่ย  จึงรีบกลับบ้าน  จะเอาอุจจาระสดมาแก้พิษ  แต่พิษกำเริบเสียก่อน  มาไม่ทันถอนพิษ  คุณเซี่ยฟังแล้วก็ไหว้ฟ้า  ขอบคุณ  ทุกคนก็นับถือยกย่องคุณเซี่ยอย่างยิ่ง

ถ้าปกติคุณเซี่ยไม่บำเพ็ญบ่มเลี้ยงจิตยามปกติแล้ว  การจะละลายความโกรธในใจนั้น ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญ  จะเก็บซ่อนอดทนอยู่หรือ เพราะฉะนั้น การอัปยศค่อการบำเพ็ญตนที่สำคัญและเป็นเคล็ดลับในการรักษาความร่ำรวย ก็คือการรู้จักฝึกกินความขาดทุนละ !

นิทาน ๓ :  ในนิพพานสูตรว่า “สมัยก่อน มีคนหนึ่งกล่าวสรรเสริญถึงพุทธลักษณะว่า เป็นมีบุญญาธิการมาก”  ก็มีคนถามเขาว่า “จะเห็นได้อย่างไร”  เขาว่า “ตอนที่พุทธองค์กำลังวัยฉกรรจ์ บารมีของพื้นจิตก็บรรลุถึงขั้นที่ไฟสะอาดใสแล้ว  ในใจไม่มีไฟราคะแม้แต่น้อย  ถูกคนตีก็ไม่เกิดโกรธแค้น ถูกคนด่าก็ไม่มีโทสะ  นี่มิใช่ผู้มีบุญญาธิการมากหรอหรือ แล้วจะเป็นอย่างไร”

ในปัจจุบันกำลังเผชิญหน้ากับอันธพาลนักเลง ก็พูดว่า “โอ้ ! เขามาส่งเสริมบุญบารมีของฉันนะ !  ฉันควรรู้สึกโชคดีและมีเกียรติจึงจะถูกนะ !”  ถ้าทำได้ดังคำพูด ในขณะที่ฉันสามารถแก้แค้นเขาได้กลับไม่ถือสาเขา  ถ้างั้นเขาก็จะถูกฉันอภัยให้ถูกกล่อมเกลาจนบรรลุรู้ได้ซินะ !


คำคม  :   เจิ้นซวงพูดว่า  “เงียบๆๆ เทพเซียนเหลือคณานับเป็นตรงนี้ปล่อยๆๆ  ภัยเคราะห์เป็นหมื่นละลายทันที ทนๆ ๆ เจ้ากรรมนายเวรหลบซ่อนตรงนี้  หยุดๆ ๆ  เกียรติยศทั้งโลกไม่อิสระเสรี”