มีหลายๆคนถามผมว่า...เรื่องเผากระดาษเงินกระดาษทองนี่มันได้ผลจริงไหม ผู้ตายได้รับเงินทองบ้านช่อง ฯลฯจริงไหม เป็นจริงหรือเป็นความงมงาย หรือมันแค่ประเพณีที่ปฏิบัติสืบทอดกันมาแบบผิดๆ
ปกติแล้วธรรมเนียมการเผากระดาษเงินทอง สิ่งของต่าง ๆของชาวจีนตามคติของลัทธิเต๋า โดยมีวัตถุประสงค์กระทำเพื่อ
1.อุทิศแก่ญาติผู้ล่วงลับหรือบรรพบุรุษ เพื่อตอบแทนพระคุณ
2.อุทิศแก่วิญญาณไร้ญาติ (ฮอเฮียตี๋) เพื่อสงเคราะห์แก่สัมภเวสี
3.บูชาถวายแด่เหล่าเทพเจ้าทั้งหลายเพื่อเป็นการขอพรและตอบแทนพระคุณที่ช่วยปกปักษ์รักษา และช่วยให้เจริญรุ่งเรือง
ซึ่งการเซ่นไหว้ด้วยกระดาษเงินทองหรือของไหว้อย่างอื่นๆ ก็มักจะกระทำในช่วงเทศกาลหรือวันพระจีน(ชิวอิด-จับโหงว) หรือ วันอื่น ๆที่เหมาะสมของพิธีกรรมแต่ละประเภท ซึ่งก็จะมีชนิดหรือประเภทของกระดาษที่เหมาะสมแก่กาละและเทศะนั้นๆ เช่น กระดาษไหว้เจ้า ก็จะใช้เฉพาะไหว้เจ้า ก็จะไม่นำไปไหว้วิญญาณผู้ตาย ดังนี้เป็นต้น
ผมมีเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงกับตัวผมเอง อยากจะนำมาเล่าสู่กันฟัง เพื่อให้ผู้อ่านได้ช่วยวิเคราะห์และพินิจพิจารณาด้วยตัวของท่านเอง
สมัยผมเรียนหนังสืออยู่เมื่อเกือบ 30 ปีก่อนได้รู้จักเพื่อนสนิทที่เป็นชาวจีนชื่อ”อาหลง” เป็นคนเมืองฉางซา มณฑลหูหนาน ได้มาอยู่เมืองไทย และได้คบหากับอาหลงมานานนับสิบปี สนิทกันมากและมีอะไรก็ได้ช่วยเหลือเกื้อกูลกันตลอดมา
ต่อมาประมาณ10 กว่าปีที่แล้วอาหลงจำเป็นต้องกลับไปเมืองจีน เพื่อทำไปธุรกิจให้กับทางบ้านและได้ทิ้งเบอร์โทรศัพท์(เบอร์บ้าน)ไว้ให้ผมก่อนกลับเพื่อจะได้ติดต่อกัน และในสมัยนั้นก็ไม่มีอีเมล์ ไม่มีเฟส ไม่มีไลน์ และโทรศัพท์มือถือก็ยังไม่แพร่หลายนัก
ช่วงปีสองปีแรกเราก็โทรคุยกันบ้าง แต่ไม่บ่อยครั้งนักเพราะค่าโทรต่างประเทศสมัยนั้นมันแพงมาก ในระหว่างนี้อาหลงมักจะเทียวไปเทียวมาระหว่าง จีน-ไทยอยู่เสมอครั้ง เวลามาเมืองไทยก็มักจะซื้อข้าวของมาฝากผมเสมอๆ แล้วพวกเราก็ไปทานข้าวกับเพื่อนๆ กลุ่มใหญ่ เป็นแบบนี้เสมอๆทุกครั้งที่อาหลงกลับมาเมืองไทยแต่ทุกครั้งก็อยู่แค่ 2 อาทิตย์ก็กลับไปเมืองจีน
แต่พอปีที่สามก็ติดต่ออาหลงไม่ได้อีกเลย โทรไปก็เหมือนกับสัญญาณถูกตัด จนติดต่ออาหลงไม่ได้อีกเลยมาตลอดหลายปี
ผมก็นึกสงสัยว่าทำไมติดต่ออาหลงไม่ได้และอาหลงก็ไม่ยอมโทรมาหาผม ซึ่งมันนานกว่าที่ควรจะเป็น
พอย่างเข้าปีที่ 7 นับจากอาหลงจากไป ผมบังเอิญได้พบกับเพื่อนของอาหลง ในร้านอาหารจีนแห่งหนึ่งในกรุงเทพ ผมก็รีบเข้าไปทักทายสารทุกข์สุกดิบกับเพื่อนคนนั้น แล้วก็ถามถึงอาหลงว่าเคยได้เจอกันบ้างไหม เค้าตอบผมมาว่าก็ติดต่ออาหลงไม่ได้มาหลายปีแล้วเหมือนกัน แต่ได้ข่าวจากเพื่อนที่เมืองจีนว่าอาหลงได้ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตไปนานแล้ว
ผมฟังก็ตกใจและเสียใจมาก ที่เพื่อนรักได้จากเราไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ และก็ได้รู้สาเหตุที่แท้จริงว่าทำไม อาหลงไม่ยอมติดต่อกลับมาหาผม
เนื่องจากอาหลงเป็นคนจีนแผ่นดินใหญ่ เกิดในช่วงที่สังคมจีนมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านความคิด และอุดมการณ์ของลัทธิคอมมิวนิสต์ซึ่งต่อต้านความเชื่อทางศาสนาว่าเป็นสิ่งงมงาย ดังนั้น อาหลงจึงเป็นคนไร้ศาสนา ไม่มีความเชื่อเรื่องบุญปาป กฎแห่งกรรม และก็ไม่เคยไหว้พระไหว้เจ้า
ผมคิดว่าตอนอาหลงตาย คงไม่มีพิธีกรรมทางศาสนาใดใด ผมก็เลยตั้งใจที่จะทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่อาหลง โดยตั้งใจว่าอาทิตย์นี้จะไปทำพิธีแบบจีนก่อนและอาทิตย์ถัดไปจะไปทำสังฆทานให้อีก
พอถึงวันหยุดซึ่งเป็นวันอาทิตย์ ผมก็ไปที่ศาลเจ้าขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในกรุงเทพ ซึ่งทางศาลเจ้ามีชุดกระดาษไหว้เจ้า ไหว้บรรพบุรุษ ไหว้ดวงวิญญาณที่ล่วงลับไปแล้ว ให้เช่าบูชา ผมก็เลยเช่าบูชากระดาษเงินกระดาษทองมาชุดใหญ่ เขียนชื่อแซ่อาหลงลงพร้อมชื่อผู้อุทิศส่งให้ลงในกระดาษที่ทางศาลเจ้าจัดเตรียมให้
ซึ่งตอนนั้นผมก็ไม่ได้คิดว่าจะได้ผลอะไรนักนอกจากทำตามธรรมเนียม แต่กลับคิดว่าจะไปทำสังฆทานอาทิตย์หน้า น่าจะมีผลมีอานิสงค์มากกว่ามาเผากระดาษ
เมื่อได้ชุดกระดาษไหว้มาก็นำอธิษฐานต่อองค์เทพเจ้าแล้วก็ยกชุดกระดาษเงิน-ทองขึ้นจบเหนือศีรษะ(คนจีนเรียกว่า เหี่ยม ) แล้วก็นำไปเผาที่เตาเผากระดาษ เผาไปน้ำตาก็ซึมไป คิดถึงสมัยก่อนที่เราเคยเป็นเพื่อนร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมานับสิบปี
หลังจากนั้นเพียง 3 วันเชื่อไหมครับว่า ปาฏิหาริย์ได้เกิดขึ้นจริง ๆ มีโทรศัพท์โทรเข้ามาจากเมืองจีน (ตอนนั้นมือถือโชว์เบอร์ได้แล้ว) เป็นอาหลงโทรกลับมาหาผม ผมตกใจมาก บอกว่าลื้อนี่เป็นคนหรือผีกันแน่ ไหนเพื่อนบอกว่าตายไปแล้ว แล้วทำไมตั้งนานไม่ยอมติดต่อกลับมา แล้วก็แถมด่าไปอีกชุดใหญ่
มันก็ตอบกลับมาว่า อยู่ ๆสองวันนี้มันฝันเห็นผมแล้วก็รู้สึกคิดถึงผมมากเป็นพิเศษจนร้อนรนทนไม่ได้ ที่หายไปก็คือมันย้ายบ้านแล้วทำสมุดพกที่จดเบอร์มือถือผมหายไปเลยติดต่อไม่ได้ ช่วงหลายปีที่ผ่านมา มันก็มาเมืองไทยทุกปี แล้วก็พยามตามหาผมตามที่ต่างๆ ที่ผมเคยอยู่ แต่แล้วก็หาผมไม่เจอ
แต่พอสองสามวันนี้คิดถึงผมมาก ก็เลยไปบ้านแม่ที่เคยฝากของและเอกสารต่างๆ เอาไว้ ค้นอยู่ 2วันเต็มๆ ก็ได้เบอร์บ้านพ่อแม่ผม (ซึ่งไม่ใช่เบอร์ผมที่ผมเคยให้) ก็เลยโทรไปถามจนได้เบอร์ผมมา
อาหลงบอกว่า ที่ค้นเจอก็เป็นเรื่องแปลกมาก เพราะไปหาเจอในสมุดพกเล่มเก่า และเป็นเบอร์บ้านพ่อแม่ผมที่เคยให้ไว้สมัยเกือบ 30 ปีก่อน มันบอกว่าเล่มนี้เขียนจนเต็มก็เลยทิ้งไว้ไม่สนใจ เพราะมันนานมาก
เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์สอนใจคน ที่กำลังคิดว่าการเผากระดาษอุทิศให้แก่ผู้ล่วงลับนั้นเป็นเรื่องเหลวไหลไร้สาระ นี่ขนาดคนยังไม่ตายแถมอยู่แสนไกลก็ยังสื่อไปถึงได้ มันก็เป็นเรื่องแปลก แต่ผมก็ไม่ได้เล่าเรื่องเผากระดาษให้มันฟัง เดี๋ยวมันด่าผม ก็เลยไม่ได้ถามมันว่าเงินที่เผาไปให้น่ะ มันได้รับด้วยหรือเปล่า
(กรุณาอ่านต่อ ตอน 2 )....