人在福中不知福,有幾多人能夠珍惜現在呢?
คนเราเมื่อกำลังเสวยสุขอยู่ ย่อมไม่รู้ว่าเป็นเพราะบุญกุศลที่เคยสั่งสมมา และจะมีสักกี่คนที่จะสำนึกถึงคุณค่าของช่วงเวลา(ที่กำลังเสวยสุข)อยู่ในขณะนี้
古人有謂:‘井涸而後知水之可貴,病而後知健康之可貴,兵燹而後知清平之可貴,
คำของคนโบราณกล่าวว่า "เมื่อบ่อน้ำแห้ง จึงจะรู้สำนึกถึงคุณค่าของน้ำ ,เมื่อหายจากการเจ็บป่วยจึงจะสำนึกถึงสุขภาพว่ามีค่าแค่ไหน,และหลังจากภัยสงครามได้จบสิ้น จึงจะรู้สำนึกถึงคุณค่าของความสงบและสันติภาพ"
失業而後知行業之可貴。凡一切幸福之事,均過去方知。幸福之事過後方知,除了徒增悔恨與追憶外,於事何補?
คนเราเมื่อตกงานแล้วจึงรู้สำนึกของคุณค่าของการทำงาน, เรื่องของการเสวยสุขทั้งหมดทั้งมวล ต่อเมื่อมันผ่านไปแล้วจึงจะเพิ่งรู้สึกสำนึก , นอกจากนี้ก็ไม่จำต้องไปเสียใจเคียดแค้นหรือรำพึงถึงความหลัง เพราะมันจะช่่วยอะไรได้ ?
我們何不珍惜現在,果能一念知足,約束個人無止境的欲望,當下娑婆即是樂土
พวกเราทำไมจึงไม่สำนึกถึงคุณค่าของปัจจุบันขณะ ผลที่ได้ก็คือความรู้จักพอเพียง ควบคุมและจำกัดความต้องการปรารถนาที่ไม่รู้จักพอของตน ย่อมทำให้โลกอันทุกข์เข็ญใบนี้ี้กลับกลายเป็นแดนสุขาวดี
佛門中的人惜福,因為大家都知道,每個人的福報都有一個量,
ผู้ศึกษาธรรมมักจะสำนึกในคุณค่าของบุญกุศล เพราะทุกคนรู้ว่า แต่ละคนมีกำลังบุญกุศลที่สั่งสมมาล้วนมีอยู่จำนวนจำกัดจำนวนหนึ่ง
如果你過早把你的福報耗盡了,
ถ้าหากเรารีบใช้บุญกุศลให้สิ้นเปลืองและหมดสิ้นลง ตั้งแต่อายุยังน้อย (โดยการเสวยสุขและไม่สะสมเพิ่ม)
那就意味著你的生命也就此結束了。
ซึ่งก็หมายความว่า ชีวิตของเราก็ย่อมหมดสิ้นลงด้วยเช่นกัน
不珍惜自己的福報,生命就會過早結束;修行深度不夠,下輩子上升還是下降就不知道了。
หากไม่สำนึกถึงคุณค่าของบุญกุศล(ที่ทำให้เราได้เสวยสุข) อายุขัยย่อมหมดสิ้นลงในเวลาอันสั้น และหากเราไม่บำเพ็ญเพียรปฏิบัติธรรมให้ลึกซึ้งและหนักแน่นมากพอ ชาติภพหน้าจะได้ขึ้นไปเบื้องบนหรือตกลงสู่เบื้องล่าง เราก็ไม่รู้แล้ว