ความหมายและอิทธิพลของดาวจันทร์ ในโหราศาสตร์พระเวท
ดาวจันทร์ในโหราศาสตร์
ดวงจันทร์ในโหราศาสตร์มีบทบาทสำคัญในโหราศาสตร์พระเวทและศาสนาฮินดู ในทางดาราศาสตร์ ดวงจันทร์ไม่ใช่ดาวเคราะห์ แต่ถือเป็นหนึ่งในดาวเคราะห์โหราศาสตร์พระเวท ดวงจันทร์เป็นดาวที่ส่องสว่างดวงที่สองรองจากดวงอาทิตย์ เป็นดาวบริวารที่อยู่ใกล้โลกมากที่สุด และหมุนรอบตัวเองครบ 1 รอบใช้เวลาประมาณ 28 วัน
ดาวจันทร์เป็นดาวเคราะห์ดวงเดียวที่โคจรรอบโลก หากดวงอาทิตย์เป็นเครื่องกำเนิดพลังงาน ดาวจันทร์ก็จะเป็นตัวดึงดูดเหนี่ยวนำพลังงานเช่นเดียวกัน ปกติดาวจันทร์ได้รับแสงจากดวงอาทิตย์แต่เพียงด้านเดียวในการสะท้อนส่องสว่างจากดวงอาทิตย์มายังโลก ซึ่งในอีกด้านหนึ่งถือเป็นด้านมืดของดาวจันทร์
ตำนานฮินดูเกี่ยวกับดาวจันทร์
ว่ากันว่าเทพจันทราได้ปรากฏขึ้นมาจากทะเลน้ำนมในช่วงเวลาที่เหล่าอสูรและเหล่าเทพกำลังกวนน้ำอมฤต ดาวจันทร์ถูกถือเป็นดาวเคราะห์ดวงหนึ่งเนื่องจากมีสว่างสุกใส และยังเป็นหนึ่งในดาวนพเคราะห์ ดาวจันทร์ได้รับการยกย่องให้เป็นเทพเจ้าองค์หนึ่ง ซึ่งมีจิตใจอ่อนโยนมีเมตตากรุณา และสมรสกับนางตาราซึ่งผิดธรรมเนียม ต่อมาได้บุตรที่เกิดจากความสัมพันธ์ของทั้งสองคือ "ดาวพุธ" ต่อมาดาวพุธเริ่มเกลียดพ่อของตนคือดาวจันทร์ เพราะการเกิดของดาวพุธเป็นผลจากบาป ดังนั้นในโหราศาสตร์พระเวท ดาวพุธจึงเป็นดาวคู่ศัตรูกับดาวจันทร์ ส่วนดาวจันทร์นั้นมีจิตใจงดงาม จึงไม่เป็นดาวคู่ศัตรูกับดาวพุธซึ่งเป็นลูก และไม่เป็นคู่ศัตรูกับดาวใดใดเลย
ต่อมามีการเล่ากันว่าจันทรเทพได้แต่งงานกับบุตรี 27 องค์(27นักษัตร)ของ มหาเทพทักษะ दक्ष หรือ พระประชาบดี प्रजापति (ในมหาภารตะ)โดยมีเงื่อนไขหนึ่งข้อที่พระประชาบดีกำหนดไว้ ซึ่งก็คือพระจันทร์จะต้องไม่ลำเอียงหรือรักใครมากกว่ากันใน 27 นาง และจะต้องรักพวกเธอทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน อย่างไรก็ตาม พระจันทร์ก็ไม่สามารถรักษาสัญญาได้ เพราะพระจันทร์รักและชื่นชอบนางโรหินีมากเป็นพิเศษ
ด้วยเหตุนี้ มหาเทพทักษะ จึงโกรธและสาปแช่งให้พระจันทร์สูญเสียความรัศมีอันสว่างรุ่งโรจน์ หลังจากบำเพ็ญตบะหลายครั้ง พระจันทรก็สามารถฟื้นความสุกสว่างรุ่งโรจน์ได้บางส่วน วัฏจักรของการฟื้นคืนและสูญเสียความสว่างของดาวจันทร์นั้นสะท้อนให้เห็นเป็นช่วงๆ ของดาวจันทร์ ต่อมา ปรากฏการณ์นี้เรียกว่าข้างขึ้นและข้างแรมของดาวจันทร์
ในตำนานฮินดูและโหราศาสตร์พระเวท เชื่อกันว่าดวงจันทร์รักโรหินีมากที่สุด ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้ดวงจันทร์ได้รับการยกย่องเป็นมหาอุจน์ในราศีพฤษภ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงดาวจันทร์เสวยโรหิณีนักษัตร
ลักษณะทั่วไปของดาวจันทร์
ดวงจันทร์เป็นดาวเคราะห์ที่โคจรในเวลากลางคืน มีลักษณะเย็น ชื้น อ่อนไหว เปลี่ยนแปลงง่าย และเป็นดาวประจำจักรราศีลำดับที่ 4 คือราศีกรกฎ ดวงจันทร์โคจรโดยเฉลี่ยวันละ 13 องศา และเมื่อใดที่ดวงจันทร์โคจรผ่านราศีพฤษภ ดวงจันทร์จะได้ตำแหน่งกำลังสูงสุดหรือบรมอุจน์ที่ 3 องศาในราศีพฤษภ ดวงจันทร์จะอ่อนแรงหรือเป็นนิจเมื่อโคจรผ่านราศีพิจิก และมีกำลังต่ำสุดหรือบรมนิจที่ราศีพิจิก 3 องศา ผลของดาวจันทร์จะปรากฏขึ้นอยู่กับราศีที่ดาวจันทร์สถิตย์อยู่ และโยคเกณฑ์ที่ได้รับกับดาวเคราะห์ดวงอื่น
ดาวจันทร์ในโหราศาสตร์พระเวท
ดาวจันทร์เป็นตัวแทนของ "แม่" ในพื้นดวงชะตากำเนิดของเจ้าชะตาของทุกๆคน และดาวจันทร์ก็สามารถบ่งบอกว่าเจ้าชะตาจะเจริญรุ่งเรืองในบ้านเกิด หรือถิ่นกำเนิดของตนเองหรือไม่ หรือไม่ก็ไปเจริญรุ่งเรืองในถิ่นอื่น
ดาวจันทร์ยังถือเป็นบ้าน เรือน ที่อยู่อาศัยได้อีกด้วย เนื่องจากเป็นเจ้าของเรือนที่4 คือพันธุ ดาวจันทร์ก็เป็นตัวแทนของจิตใจของเจ้าชะตา หรือหมายถึง นักการเมืองท้องถิ่น หรืออาชีพส่วนตัว
เนื่องจากดาวอาทิตย์บ่งบอกถึงชีวิต สถานะ เกียรติยศอันสูงสุงของเจ้าชะตา หรือการมีตำแหน่งสูงในสังคมภายนอก ส่วนดาวจันทร์จึงแสดงถึงชีวิตครอบครัว สถานะของเจ้าชะตาในครอบครัว ตำแหน่งในบ้าน เรื่องส่วนตัว และความลับที่อยู่ภายในใจ
ดาวจันทร์กับส่วนต่างๆ ของร่างกาย มีดังนี้คือ: ตาซ้ายของผู้ชาย ตาขวาของผู้หญิง เต้านม กระเพาะอาหาร มดลูก รังไข่ น้ำหล่อเลี้ยงข้อ หลอดน้ำเหลือง เส้นประสาทซิมพาเทติก กระเพาะปัสสาวะ ฯลฯ
รูปลักษณ์ภายนอก: ผู้ที่เกิดภายใต้อิทธิพลด้านดีของดาวจันทร์นี้จะเป็นคนมีเสน่ห์ และมีใบหน้าที่งดงาม หากเจ้าชะตาเกิดในราศีกรกฎหรือเกิดในวันจันทร์ ดาวจันทร์เป็นตัวแทนของจิตใจและน้ำหรือของเหลวต่างๆในร่างกาย ดังนั้น ราศีกรกฎจึงบ่งบอกถึงจิตใจของเจ้าชะตา อ้างอิงจากตำแหน่งของ กาลปุรุษ ตามธรรมชาติ
โรคที่เกี่ยวข้องกับดาวจันทร์ ได้แก่ โรคตา โรคประสาท อัมพาต โรคฮิสทีเรีย โรคลมบ้าหมู โรคท้องมาน โรคเหน็บชา อาการบวมน้ำ โรคหวัด โรคไอ อาการปวดเกร็งในช่องท้อง โรคพยาธิลำไส้ โรคและความผิดปกติ เนื้องอก โรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบ โรคยูเรียในเลือด เจ็บคอ โรคหอบหืด โรคกระเพาะอาหาร มะเร็ง ไทฟอยด์ โรคไส้ติ่งอักเสบ โรคอาหารไม่ย่อย ฯลฯ
อิทธิพลของดาวจันทร์
หากดาวจันทร์สถิตย์ในตำแหน่งที่ดีในดวงชะตา ดาวจันทร์จะทำให้เจ้าชะตามีบุคลิกดี รูปร่างดีและมีเสน่ห์ มีอารมณ์ดีและมีทัศนคติเชิงบวกต่อทุกสิ่งและทุกคน และจะทำให้เจ้าชะตาจะมีพลังสัญชาตญาณและแรงบันดาลใจที่ดี
ผลลัพธ์ที่ดีและร้ายของดาวจันทร์ในพื้นดวงชะตามีอยู่ 3 ลักษณะ
- ดาวจันทร์ที่เข้มแข็ง: หมายถึงตำแหน่งของดาวจันทร์ในราศีที่ดี ซึ่งจะให้ผลลัพธ์ที่ดีและความมั่นคงทางจิตใจที่แข็งแกร่งแก่เจ้าชะตา เพื่อผ่านพ้นสถานการณ์ที่ยากลำบากได้อย่างง่ายดาย เจ้าชะตาจะมีทัศนคติที่ร่าเริงต่อชีวิตและสนุกกับชีวิตที่เป็นสุขด้วยทัศนคติเชิงบวก มีบุคลิกภาพที่ดึงดูดและมีเสน่ห์นอกจากนี้ดาวจันทร์ก็เป็นดาวที่ให้พลังในการจัดการและตัดสินใจอย่างชาญฉลาดแม้ในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดของชีวิต
- ดาวจันทร์ที่ให้คุณ: ดาวจันทร์ให้คุณจะมอบความสมดุลทางจิตใจให้เจ้าชะตาและทำให้จิตใจมั่นคง ไม่หวั่นไหว และเอาชนะความเศร้าโศกได้
- ดาวจันทร์ไร้กำลัง: เป็นจันทร์ที่ให้แต่ความทุกข์ทรมาน อีกทั้งทำให้เจ็บป่วยง่าย ลักษณะเด่นคือความเปลี่ยนแปลง หรือเปลี่ยนใจบ่อยๆ การตัดสินใจไม่ดี ตัดสินใจผิดพลาดอยู่บ่อยครั้ง นอกจากนี้จันทร์ไร้กำลังในพื้นดวงชะตาในวัยเด็กมักจะทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยบ่อยครั้ง และทำให้การเจริญเติบโตช้าและไม่สมบูรณ์
อาชีพทีเกี่ยวข้องกับดาวจันทร์
เนื่องจากดาวจันทร์เป็นดาวเคราะห์แห่งธาตุน้ำ เจ้าชะตาอาจทำงานในแผนกขนส่ง กองทัพเรือ นักวิเคราะห์น้ำ หรือแผนกจัดหาน้ำ อาชีพของเจ้าชะตาอาจเกี่ยวข้องกับเกลือ ปลา ปะการัง ไข่มุก ดอกไม้ ของเหลว น้ำหอม น้ำมันก๊าด นม ฯลฯ พืชผัก เกษตรกร ผู้ปลูกผลไม้ ซัพพลายเออร์หรือตัวแทนจำหน่ายในสินค้าดังกล่าวอยู่ภายใต้การควบคุมของดาวจันทร์ การพยาบาล พ่อครัว ผู้จัดการแผงขายของ พนักงานซักรีดอยู่ภายใต้การควบคุมของดาวจันทร์ เช่นกัน
เจ้าชะตาอาจเป็นวิศวกรเครื่องกลในโรงงานน้ำ หรือหากดาวจันทร์อยู่ในจรราศี หรือราศีทั่วไป เจ้าชะตาอาจเป็นกัปตันเรือกลไฟหรือเรือเดินทะเล
สายอาชีพยังขึ้นอยู่กับการเชื่อมโยงโยคเกณฑ์กับดาวเคราะห์ที่มีอิทธิพลอื่นๆ กล่าวโดยย่อ ลักษณะของดาวจันทร์ในด้านอาชีพการงานนั้นแตกต่างกันไปตามการผสมผสานและโยคเกณฑ์ของดาวจันทร์กับดาวเคราะห์อื่นๆ ตัวอย่าง เช่น
- ด้านการเมือง: บ่งบอกถึงมวลรวมของผู้คน สตรีและงานด้านสังคม หน้าที่ทางสังคม การแต่งงาน การเดินเรือ การขนส่ง การสร้างเขื่อน สะพาน สระว่ายน้ำ เกษตรกรรม ฯลฯ
- ด้านผลิตภัณฑ์: ผลิตภัณฑ์เช่น ส้ม แตงโม แตงกวา ปาล์ม ผลไม้ เนยใส ผัก เต้าหู้ วัว นม น้ำตาลและอ้อย ข้าวโพด เงิน สารส้ม ม้า สัตว์น้ำ อาหารปรุงสุก ฯลฯ
- พืชและสมุนไพร: แตงโม ดอกไม้สีขาว แตงกวา ปาล์ม เห็ด ผักใบเขียว ฟักทอง อ้อย ปรอท กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก ฯลฯ
- สถานที่: ภูเขา ป้อมปราการ แหล่งน้ำ ฯลฯ
- สัตว์และนก: ม้า แมว สุนัข หนู นกน้ำ เป็ด ปู เต่า นกฮูก ฯลฯ ล้วนเป็นตัวแทนของดาวจันทร์
อัญมณีที่แทนค่าดาวจันทร์คือ "เพชร" และ "ไข่มุก"
ดังนั้น ดาวจันทร์จึงมีความโดดเด่นมากในแง่ของโหราศาสตร์และดาราศาสตร์ ชีวิตดำรงอยู่ได้เพราะน้ำ และ"การกะ"ที่หมายถึงของน้ำคือดาวจันทร์ น้ำ มีความสำคัญต่อทุกสรรพสิ่งและทุกคนในการดำรงชีวิต