??????
ผมเป็นหมอดูประเภท ไม่เคยเรี่ยไร บอกบุญ หรือขอเงินไปทำบุญโน่นนี่นั่น กับใครๆ แม้ลูกค้าจะขอร้องว่ามีอะไรให้หนู/ผมร่วมบุญกับอาจารย์บ้างได้ไหม....ซึ่งมีบ่อยมากผมแค่บอกว่า "บุญจะต้องทำด้วยมือตนเอง ไม่ต้องไปฝากผ่านผม จะได้ผลบุญมากกว่า"
ส่วนผมก็ทำของผมเอง ถึงแม้ว่าการทำบุญแบบนี้โดยไม่บอกบุญกับใครๆก็จะทำให้เรามีวาสนาน้อยและบริวารน้อยก็ตาม เราก็ยอม นอกจากคนที่รู้จักกันจริงๆสนิทกันจริงๆจึงจะรับ แต่จะไม่เสนอหรือเรียกร้องบอกให้เค้าให้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม เค้าจะต้องมีเจตนาตั้งใจให้มาเอง จึงรับไปทำให้
เพราะ"อาชีพหมอดู"แบบเรา การบอกบุญรับเงินทอง แบบนี้มันเสี่ยงต่อการถูกติหนิติเตียนได้ว่าเอาไปใช้ส่วนตัว
ผมเป็นคนประหยัด กินน้อย ใช้น้อย ใช้ชีวิตพอเพียง เงินค่าครูที่ได้มาหลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้ว ที่เหลือ คือ "ให้" โดยให้กับคนที่มีพระคุณ หรือให้กับบุคคลที่ควรให้ ให้กับคนและสัตว์ที่ตกทุกข์ได้ยาก และทำบุญไว้กับพระศาสนา ฯลฯ
ขอได้โปรดเข้าใจว่า ศาสตร์แขนงนี้ ใครจะเรียนไปเพื่อไปสร้างความร่ำรวยให้กับตัวเอง นั้นเข้าใจผิดอย่างมาก เพราะศาสตร์แขนงนี้เป็นศาสตร์แห่งนามธรรม เป็นศาสตร์แห่งจิตวิญญาณ ต้องปลดแอกตัวเองออกจากวัตถุ ทรัพย์สิน เงินทอง ลาภ ยศ ชื่อเสียง เสียก่อน จึงจะเข้าถึงหัวใจของศาตร์นี้ได้ มันเป็นจิตวิญญาณของ บูรพาจารย์มาแต่เก่าก่อน เราต้องรับสืบทอดทั้งวิชา เจตนารมย์ และจิตวิญญาณของท่านบูรพาจารย์ทางโหราศาสตร์
สำหรับท่านที่ Inbox มาขอดวงดวงทุกวันวันละหลายๆ ท่าน ผมตอบว่าไม่รับดูดวงนะครับ ต้องขออภัยเป็นอย่างสูง เพราะลูกค้าเต็มแล้ว เพราะการดูดวงมันเป็นการผูกมัดตัวหมอดูมากที่สุด และลูกค้าที่มีอยู่ก็เป็นพวกลูกค้าเก่าๆนับสิบปีแล้ว ดูตั้งแต่ยังลำบากยากจน จนกระทั่งพวกเค้าร่ำรวยกันทุกๆคน แล้วพวกเค้าก็ไม่ยอมหนีไปไหน ปีหนึ่งดูกันหลายครั้งหน ดูกันทุกๆปี สำหรับลูกค้าต่างชาติก็พากันบินมาหาทั้งครอบครัว ก็คนเดิมๆ ต้องเป็นที่ปรึกษาให้ทุกเรื่อง ทั้งตัวเองครอบครัว ลูกหลาน กิจการ ธุรกิจ จนผมไม่สามารถรับคนอื่นเพิ่มได้ เพราะปากก็มีปากเดียว หัวก็มีหัวเดียว ก็ทำได้ก็แค่นี้
ผมมีลูกค้าประจำอยู่กลุ่มหนึ่งก็คือ พวกหมอดู ซินแส และอาจารย์สำนักต่างๆ ดูกันจนเพื่อนกันหมดแล้วครับ เค้าอ้างบอกว่าเค้าดูเองไม่ได้ เสมือนช่างตัดผม ก็จะตัดให้ตัวเองไม่ได้ ต้องคนอื่นตัดให้ อ่อ ผมบอก มันไม่เหมือนกันนะ มันคนละเรื่อง แต่ไม่เป็นไร ถือว่าวิชาชีพเดียวกันก็ดูให้ ต่อมาก็แอบเอาดวงลูกค้ามาถาม ผมก็จำเป็นต้องช่วย เพราะกลายเป็นเพื่อนกันแล้วนี่ ผมก็เลยตามเลย
สิ่งที่ผมจะทำได้และช่วยเหลือคนอื่น ๆได้ในแนวทางนี้ก็คือสอนให้คนเรียนรู้วิชาโหราศาสตร์ด้วยตนเอง โดยผ่านทางเพสนี้ วันละเล็กละน้อย ไม่ต้องไปพึ่งหมอดูที่ไหน ให้พี่งตัวเอง เรียนเอง รู้เอง ตัดสินใจได้เอง นี่เป็นวิธีการที่ยั่งยืนที่สุด...
ผมไม่เคยอยากดัง ไม่อยากออกสื่อ มีหลายรายการมาทาบทาม ไปออกสื่อ ผมไม่ต้องการไปเป็น ตัวหาผลประโยชน์ให้ใคร ให้ไปหลอกคน ให้ซื้อของ วัตถุมงคล เบอร์โทร หลอกคนไปเที่ยว ต่างประเทศ อ้างทำบุญ เสริมดวง เค้าปั้นเราให้ดังในสื่อ เค้าก็หวังผลตอบแทน เหมือนปั้นดารานั่นแหละ ต้องมีส่วนแบ่ง
หมอดูการตลาดที่ออกสื่อ เป็นหมอดู ที่เสกสรรปั้นแต่งกันขึ้นมา ปั้นให้ดังก่อนแล้วตักตวงผลประโยชน์ตามที่เค้าสั่งให้ทำ ขายของบ้าง แก้ดวง-เสริมดวงบ้าง ฯลฯ แล้วแบ่งผลประโยชน์กัน มันขัดกับจรรยาบรรณในวิชาชีพ นักโหราศาสตร์
โบราณว่า "เซียนอยู่รู หมูอยู่ตึก" โหรจริง ๆต้องสมถะ เรียบง่าย ไม่โอ้อวด ทำตัวเด่น โหรของแท้ต้องจน จะรวยไม่ได้ เพราะมันขัดกัน
ซินแสระดับปรมาจารย์ของจีนโบราณ หรือแม้แต่ของอินเดียก็สมถะและจนๆทั้งนั้นเพราะอะไร เพราะการยึดติดในลาภ ยศ สรรเสริญ ชื่อเสียง จะไปทำลายความตั้งมั่นแห่งจิต และเกิดความหวั่นไหว จิตใจลำเอียง ขาดคุณธรรม ผลก็คือ วิชาก็กลับคืนไปยังครูอาจารย์หมด
ซินแสบางคนอ้างตนรวย เพราะมีวิชา ใช้วิชามาแก้ดวงตนเองจนรวยได้ เพื่อให้คนเชื่อถือ อันนี้ผิดหลักวิชา เพราะคนที่ได้วิชานี้ต้องเป็นคน สละโลภ โกรธ หลง ให้ได้มากที่สุด จึงจะเข้าถึงแก่นแท้ของวิชา
ศาสตร์ของโหรเป็นศาสตร์ที่ว่าด้วย "นามธรรม" เป็นแก่น เมื่อเข้าถึง การสละ ละ ปล่อยวางในวัตถุ ก็ย่อมเข้าถึงนามธรรม ก็จะเข้าใจถึงธรรมชาติของจักรวาล จะสามารถสัมผัสพลังชี่ สัมผัสพลังแห่งความเจริญและความเสื่อมของดวงชาตาคนและสรรพสิ่งได้ และปัญญาแห่งนามธรรมตัวนี้แหละจะช่วยในการพัฒนาศึกษาวิชาโหรให้เข้าถึงแก่น
ปรมาจารย์โหรพระเวทของอินเดีย ก็บำเพ็ญพรตเป็นฤษีทั้งนั้น ของจีนก็เช่นกัน บำเพ็ญพรตในลัทธิเต๋า หรือ ก็ไม่ก็เป็นพระภิกษุ ไม่มีปรมาจารย์คนไหนเป็นมหาเศรษฐี ร่ำรวย หรือมียศตำแหน่งทางโลก อะไรเลย
ปรมาจารย์ฮวงจุ้ยจีน ตั้งแต่องค์ หยางกง ไปจนถึง องค์ฮ้อเอี๊ยฮุ้น ต่างก็เคยเป็นโหราจารย์ในราชสำนัก แต่สุดท้ายก็สละทางโลก ออกมาเป็นอนาคาริก
ซินแสบางคนอ้างว่า ตนเองรวย ไปไหนต้องขับเบ็นซ์ไป บอกว่า ถ้าซินแสจนๆจะไปแก้ดวงให้คุณรวยได้อย่างไร อันนี้ก็ต้องถามกลับว่า ถ้าเป็นคนรวยแล้วแก้ฮวงจุ้ยได้ ก็เชิญ คุณเจริญ คุณธนินทร์ มาดูฮวงจุ้ยเลย แล้วแกจะดูเป็นไหม แล้วสมมุติหากคุณเป็นไข้หวัด ไปหาหมอ แต่หมอก็เป็นหวัดเหมือนกัน แล้วหมอเป็นหวัดจะรักษาคนเป็นหวัดไม่ได้หรือ