บทที่ 9
ภวะพละ
124. ภวะพละ ภวะหมายความถึงเรือน พละหมายความถึงกำลัง ภวะพละเป็นกำลังหรืออำนาจหรือความสำคัญของเรือน เรือนมี 12 เรือน ๆ หนึ่งๆ ซึ่งหมายถึงหรือแสดงให้เห็นเหตุการณ์, หน้าที่หรือการกระทำ ตัวอย่างเช่นเรือนที่ 1 ให้ความหมายหรือแสดงถึงตนหรือตัวตน, รูปลักษณที่ปรากฏ, ผิวพรร, อารมณ์, ขนาดสูงตำของร่างกาย ฯลฯ ถ้าเรือนนี้ได้หรือมีกำลังมั่นคงดีเจ้าชะตาจะได้หรือมีทุกสิ่งทุกอย่างตามความหมายของเรือนอย่างสมบูรณ์ ถ้าเรือนนี้ไม่มีกำลังปรากฏการณ์ตามความหมายก็ไม่สมบูรณ์ กำลังของเรือนประกอบด้วยกำลัง 3 ประการ คือ ( 1 ) ภวะธิปติพละ ( 2 ) ภวะทิคะพละ ( 3 ) ภวะทฤษฎีพละ จะต้องศึกษาสิ่งเหล่านี้แต่ละอย่างด้วยความถี่ถ้วน จะได้หาพละทั้ง 3 ประการหลักนี้ ในชะตาตัวอย่างเป็นอุทาหรณ์.
125. ภวะธิปติพละ ภวะธิปติพละเป็นกำลังของเจ้าเรือน เจ้าเรือนคือดาวเคราะห์เจ้าราศีที่ภวะมัธยตกในราศีนั้น หรือนัยหนึ่งว่า ถ้าภวะมัธยตกราศีไหนดาวเคราะห์เจ้าราศีนั้นเป็นเจ้าเรือน ษัฑพละปินฑะ (ผลรวมของษัทพละ) ของเจ้าเรือนเป็นภวะธิปติพละ ในข้อ 29 ได้แสดงเจ้าเรือนทั้ง 12 เรือนในชะตาตัวอย่างอยู่แล้ว ได้นำมาไว้ ณ ที่นี้อีกเพื่อความสะดวกในการพิจารณาตามหลักท่กล่าวแล้ว.
ตัวอย่าง 58 : หาภวะธิปติพละในชะตาตัวอย่าง.
เรือน อธิปติ (เจ้าเรือน) ภวะธิปติพละ (กำลังของเจ้าเรือน)
1 ตนุ เสาร์ 6.171 รูปะ
2 ธนะ เสาร์ 6.171 ,,
3 ภราตรุ อังคาร 5.390 ,,
4 มาตรุ ศุกร์ 6.208 ,,
เรือน อธิปติ (เจ้าเรือน) ภวะธิปติพละ (กำลังของเจ้าเรือน)
5 ปุตระ พุธ 9.743 รูปะ
6 ศตรู พุธ 9.743 ,,
7 กัลป์ตระ จันทร์ 6.686 ,,
8 อะยุระ อาทิตย์ 6.288 ,,
9 ภัคยา ศุกร์ 6.208 ,,
10 กรรม อังคาร 5.390 ,,
11 ลาภะ พฤหัสบดี 7.381 ,,
12 วรัยะ พฤหัสบดี 7.381 ,,
126. ภวะทิคะพละ ภวะทิคะพละ เป็นกำลังที่เรือนชะตาได้โดยเรือนชะตานั้นตกในประเภทหนึ่งใดของราศี ราศีของจักรราศีแบ่งออเป็น 5 ประเภท ( 1 ) นระราศี (ราศีมนุษย์) ( 2 ) ชลจรราศี (ราศีสัตว์น้ำ) ( 3 ) จัตุสบาทราศี (ราศีสัตว์ 4 เท้า) ( 4 ) กีฏะราศี (ราศีสัตว์แมลง) เรือนชะตาได้ภวะทิคะพละโดยศูนย์กลางของเรือนตกในราศีประเภทหนึ่งใดตามวิธีในเกณฑ์บังคับ ตัวอย่างเช่นศูนย์กลางของเรือนที่ 4 เผอิญตกในชลจรราศี (ดูข้อ 128) จะกำลัง 1 รูปะ.
127. นระราศี นระราศีหมายความว่าราศีมนุษย์ได้แก่ราศิมิถุน, กันย์, ดุล, ครึ่งแรกของธนู และกุมภ์ ถ้าศูนย์กลางของลัคน์เผอิญตกในราศีหนึ่งใดในราศีเหล่านี้ลัคน์จะได้กำลัง 1 รูปะ และกลับกันถ้าศูนย์ของเรือนที่ 7 ตกในนระราศีเรือนที่ 7 จะสูญเสียกำลังหมดสิ้น.
128. ชลจรราศี ชลจรราศีคือราศีน้ำหรือราศีสัตว์น้ำได้แก่ราศีกรกฏ ครึ่งของมกร และมีน ถ้าเรือนที่ 4 ตกในชลจรราศีจะได้กำลัง 60 ษัษติอางศ แต่ถ้าชลจรราศีมาเป็นศูนย์กลางของเรือนที่ 10 เรือนที่ 10 จะปราศจากกำลังทั้งมวล.
129. จัตุสบาทราศี จัตุสบาทราศีหรือราศีสัตว์ 4 เท้าได้แก่ ราศีเมษ, พฤษภ, สิงห์, ครึ่งหลังของธนู, ครึ่งแรกของมกร เมื่อจัตุสบาทราศีมาเป็นศูนย์กลางของเรือนที่ 10 เรือนนั้นจะได้กำลัง 60 ษัษติอางศโดยกลับกัน ถ้าศูนย์กลางของเรือนที่ 4 ตกในจัตุสบาทราศีเรือนที่ 4 จะไม่มีกำลังเลย.
130. กีฏะราศี กีฏะราศีหรือราศีสัตว์แมลง ในราศีทั้งหมดของจักรราศีพฤศจิกราศีเดียวที่เป็นกฏะราศีหรือราศีสัตว์เลื้อยคลาน กีฏะราศีโดยธรรมชาติก่อให้เกิดอันตรายอย่างสูง ถ้ากีฏะราศีเผอิญเป็นภวะมัธยของเรือนที่ 7 จะได้กำลัง 60 ษัษติอางศ แต่ถ้าภวะมัธยของลัคน์ตกในกีฏะราศีจะปราศจากกำลัง.
131. วิธีหาทิคะพละ ลัคนาภวะจะมีกำลังแรงมากที่สุดเมื่อตกในราศีนระ ณ ที่นี้จะได้กำลัง 60 ษัษติอางศ เมื่อนระราศีเป็นภวะมัธยของเรือนที่ 7 จะไม่มีกำลัง คือเมื่อภวะมัธยของเรือนที่ 7 ตกในราศีนระจะไม่มีกำลังเลยเป็น 0 ษัษติอางศ จากภวะมัธยที่ 1 พละจะลดลงทีละเล็กน้อยจนเป็น 0 ทีภวะมัธยของเรือนที่ 7 ในทำนองเดียวกันภวะมัธยของจัตุสบาทราศีจะหมด กำลังเมื่อเป็นเรือนที่ 4 และจะได้กำลังสูงสุดเมื่อเป็นเรือนที่ 10 ค่าของพละเพิ่มขึ้นจากภวะมัธยที่ 4 เป็นจำนวน 10 ษัษติอางศต่อ 1 ราศีจนถง 60 ษัษติอางศที่ภวะมัธยที่ 10 ดังนั้นทีแรกหาลำดับของภวะมัธยประสงค์ ถ้าภวะมัธยประสงค์อยู่ในราศีพฤศจิกเอกลบจาก 1 ถ้าภวะมัธยประสงค์อยู่ในราศีเมษ, พฤษภ, สิงห์, ครึ่งแรกของมกร, ครึ่งหลังของธนู ลบจาก 10 ถ้าอยู่ในราศีมิถุน, ตุลย์, กุมภ์, กันย์ ครึ่งแรกของราศีธนู ลงจาก 7 และสุดท้ายถ้าอยู่ในราศีกรกฎ, มีน, ครึ่งหลังของมังกร ลบจาก 104 ถ้าผลต่างกันถึง 6 ให้เอาไปลบจาก 12 หรืออีกประการหนึ่งให้ถือเอาจำนวนนั้นแล้วเอา 10 คูณ ผลต่างกันนี้ จะได้เป็นทิคะพละของภวะนั้น ๆ เช่นเรือนที่ 8 ในชะตาตัวอย่างภวะมัธยของเรือนที่ 8 อยู่ในราศีสิงห์ (ราศีสัตว์ 4 เท้า) ดังนั้นลบ (ลำดับของภวะมัธยประสงค์เพราะว่าเป็นภวะที่ 8) จาก 4 ได้ 8 เพราะว่าจำนวนนี้มากกว่า 6 เอาไปลบจาก 12 อีกเหลือ 4 ซึ่งเมื่อคูณด้วย 10 ได้ 40 ษัษติอางศเป็นภวะทิคะพละที่ต้องการ.
132. ภวะทฤษฎีพละ. ภวะหนึ่ง ๆ ในดวงชะตาอยู่ในสภาพถูกเป็นเกณฑ์โดยดาวเคราะห์ ภวะที่ถูกเป็นเกณฑ์นั้นบางทีก็เป็นเกณฑ์บางทีก็เป็นเกณฑ์ลบ สุดแท้แต่ถูกเป็นเกณฑ์โดยศุภเคราะห์หรือบาปเคราะห์ ในการที่จะหาจำนวนแน่นอนของกฤษฎีแก่ภวะให้พิจารณาเรือนประสงค์เป็นเช่นทรุสยาเคราะห์ (ตัวถูกเป็นเกณฑ์) และจะได้ทฤษฎีเกณฑ์ตามวิธีของกฎในข้อ 114 เมื่อได้ค่าของทฤษฎีแล้วถ้ามีวิเศษทฤษฎี ให้เอาค่าของวิเศษทฤษฎี
(เกณฑ์พิเศษของอังคาร, เสาร์, พฤหัสบดี) บวกเข้าด้วย ในที่สุดเมื่อเอา 4 หารทฤษฎี ( ของทฤษฎี) ของแต่ละดาวเคราะห์ที่เป็นเกณฑ์แก่ทรุสยา (ถูกเป็นเกณฑ์) ก็จะได้ทฤษฎีพละของภวะมัธย ยกเว้นทฤษฎีของพุธและพฤหัสบดีไม่ต้องเอา 4 หารให้ถือเอาจำนวนเต็ม ผลรวมค่าของทฤษฎีของดาวเคราะห์ทั้งหมดที่เป็นเกณฑ์แก่ภวะมัธย เป็นทฤษฎีพละหรือทฤคะพละของภวะนั้น.
ลบทีฆ. ของทฤษฎีเคราะห์จากทีฆ. ของทรุสยาภวะมัธยได้เป็นทฤษฎีเกณฑ์หาค่าของทฤษฎีโดยใช้ทฤษฎีเกณฑ์ตามวิธีของกฎในข้อ 114 ถ้ามีวิเศษทฤษฎีเอาค่าของวิเศษทฤษฎีของอังคาร, พฤหัสบดี, เสาร์ บวกเข้าด้วย ค่าทฤษฎีของพฤหัสบดีและพุธไว้ตามจำนวนเดิม เอา 4 หารค่าของเกณฑ์ของดาวเคราะห์อื่น ๆ ที่เป็นเกณฑ์แก่ภวะมัธยและทฤษฎีนั้น ๆ จะเป็นบวกหรือลบสุดแท้แต่ศุภทฤษฎีของภวะมัธยมากกว่าหรือน้อยกว่าปาปะทฤษฎี ทฤษฎีเป็นศุภ (บวก) เมื่อทฤษฎาเคราะห์ (ดาวเคราะหที่เป็นเกณฑ์) เป็นศุภเคราะห์โดยธรรมชาติ และเป็นปาปะ (ลบ) เมื่อทฤษฎาเคราะห์เป็นบาปเคราะห์โดยธรรมชาติ จะต้องหาทิคะพละให้ได้ดังกล่าวมานี้ ในการหาทฤษฎีเกณฑ์ ถ้าทีฆ. ของภวะมัธยน้อยกว่าทีฆ. ของกฤษฎา (ดาวเคราะห์ที่เป็นเกณฑ์) ให้เอา 360 บวกเข้ากับทรุสยา (ทีฆ. ภวะมัธย) เสียก่อน.
ตัวอย่าง 59 : หาภวะทฤคะพละในชะตาตัวอย่าง.
ทฤษฎีเกณฑ์ (มุมเกณฑ์) ทฤษฎีเคราะห์
อ จ ภ ว ช ศ ส
ภวะ ทีฆ. 179° 7' 311° 40' 229° 49' 370° 33' 73° 35' 170° 4' 124° 53'
|
|
1 311° 40' 115°49' - - 65° 7' 114° 24' 213° 22' 124° 43' 170° 6'
2 327° 16' 147° 8' - - 97° 27' 147° 43' 244° 43' 158° 12' 203° 25'
|
3 1° 36' 182° 28' 59° 56' 1.31° 47' 181° 3' 278° 1' 191° 32' 236° 45'
|
4 34° 55' 215° 47' 83° 15' 165° 6' 214° 22' - - 224° 51' 270° 4'
5 61° 36' 242° 28' 109° 56' 191° 47' 241° 3' - - 251° 32' 296° 45'
อ จ ภ ว ช ศ ส
|
ภวะ ทีฆ. 179° 8' 311° 40' 229° 49' 190° 33' 83° 35' 170° 4' 124° 51'
6 89° 16' 269° 7' 136° 36' 218° 27' 267° 43' - - 278°12' - -
7 114° 57' 295° 49' 363° 17' 245° 7' 294° 24' 31° 22' - - - -
8 148° 36' - - 196° 36' 278° 27' - - 64° 41' - - - -
|
9 171° 36' - - 229° 56' - - - - 97° 1' - - 56° 45'
10 214° 55' 35° 47' 263° 15' - - 34° 22' 131° 20' 44° 51' 90° 4'
11 241° 36' 62° 29' 279° 56' - - 61° 3' 158° 1' 71° 32' 116° 45'
12 268° 36' 89° 7' - - 38° 27' 87° 43' 184° 41' 98° 12' 143° 25'
เครื่องหมาย X = วิเศษทฤษฎี
ทฤษฎีพละของเรือน (เป็นษัษติอางศ) ทฤษฎาเคราะห์
|
|
|
- อ + จ - ภ + ว + ช + ศ - ส ภวะทฤคะ
เรือน
|
|
1 7.0 - - 5.0 32.7 44.3 6.3 30.0 + 60.4
2 0.2 - - 2.3
|
3 14.7 2.5 4.5 59.5 11.0 13.5 7.9 + 59.4
4 10.5 9.5 7.5 42.8 - - 9.4 + 28.8
|
5 7.2 7.7 13.5 29.5 - - 6.0 + 11.9
|
6 3.8 3.3 16.3 - - 2.7 - - + 4.4
7 0.5 6.6 6.8 2.7 0.3 - - - - + 2.9
|
|
|
- อ + จ - ภ + ว + ช + ศ - ส ภวะทฤคะ
เรือน
8 - - 12.9 2.7 - - 19.7 - - - - + 29.9
|
9 - - 8.7 - - - - 51.0 - - 3.3 + 46.4
10 0.7 4.6 - - 2.2 1.8 11.2 + 45.4
11 4.4 1.2 - - 16.1 16.0 6.6 7.8 + 27.7
12 30.0 - - 1.0 42.7 57.7 10.2 1.6 + 97.0
เครื่องหมาย X = วิเศษทฤษฎี
133. ผลรวมของภวะพละ เอาภวะธิปติพละ, ภวะทิคะพละ, และภวะทรุคพละ ของแต่ละภวะหนึ่ง ๆ รวมเข้าด้วยกัน จำนวนของผลรวมที่ได้เป็นกำลังของเรือน.
ตัวอย่าง 60 : หาผลรวมพละของเรือนทั้ง 12 เรือนในดวงชะตาตัวอย่าง.
เรือนที่ 1 2 3 4 5 6
ภวะธิปติพละ 373.840 371.740 332.390 332.456 580.460 570.460
ภวะทิคะพละ 30.000 50.000 10.000 - - - - 20.000 10.000
ภวะทรุคะพละ + 60.400 +37.900 +59.400 +28.700 11.900 4.400
ผลรวมของภวะพละ 462.240 459.740 392.790 401.265 612.360 594.760
เป็นรูปะ 7.70 7.66 6.55 6.69 10.21 9.91
ลำดับพละของภวะ 5 6 12 10 1 2
เรือนที่ 7 8 9 10 11 12
ภวะธิปติพละ 401.380 377.255 372.465 326.390 442.870 442.870
ภวะทิคะพละ 30.000 40.000 20.000 30.000 40.000 40.000
ภวะทรุคะพละ 2.800 29.900 46.400 45.400 22.700 97.000
เรือนที่ 7 8 9 10 11 12
ผลรวมของภวะพละ 433.980 447.155 437.865 398.790 510.570 579.770
เป็นรูปะ 7.23 7.45 7.31 6.65 7.51 9.66
ลำดับพละของภวะ 9 7 7 11 4 3
134. ข้อสังเกตขั้นสุดท้าย จะเห็นได้จากข้างบนนั้นว่าเรือนที่ 5 เป็นเรือนที่มีกำลังมากที่สุดของเรือนทั้ง 12 เรือน เรือนที่ 3 มีกำลังน้อยที่สุดของเรือนทั้ง 12 เรือน ทั้งหมดนี้นับได้มูลฐานพอเพียงสำหรับการพยากรณ์.