วันขึ้น 8ค่ำ (ศุกลปักษ์) แห่งเดือนมาฆะ เป็นวันครบรอบการเสียชีวิตของท้าวภีษมะ หรือ เจ้าชายเทวพรต ซึ่งเป็นพระราชพระโอรสของพระเจ้าศานตนุแห่งกรุงหัสตินาปุระ แคว้นกุรุ กับพระแม่คงคามหาเทวี ซึ่งเป็นตัวละครสำคัญในเรื่องมหากาพย์มหาภารตะ เพราะถือเป็นปู่คนหนึ่งของทั้งฝ่ายเการพและฝ่ายปาณฑพ หลังจากที่เจ้าชายเทวพรตได้ให้สัตย์สาบานแก่ฟ้าดินว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับราชบัลลังก์และจะไม่อภิเษกสมรสกับหญิงคนใดแล้วนั้น ก็ได้ชื่อใหม่คือ ท้าวภีษมะ พระบิดาก็ซาบซึ้งพระทัยมากจึงให้พรกับภีษมะว่าจะให้ภีษมะมีอายุยืนยาวเท่าไรก็ได้ ไม่มีวันตาย นอกเสียจากว่าภีษมะจะต้องการตายเอง
และในวันนี้เป็นที่รู้จักกันใน “วันภีษมะ อัษฏมี” ภีษมะเป็นบุคคลที่ชาวฮินดูให้ความเคารพนับถือมาก ด้วยความที่เป็นผู้เสียสละความสุขส่วนตัวทั้งชีวิตเพื่อบิดา ลูกหลาน และประชาชน เป็นที่น่าสะเทือนใจว่าบุคคลอย่างภีษมะต้องเผชิญกับชีวิตที่เต็มไปด้วยความ เหงา ความหงุดหงิดใจ และ ความเศร้าจากการสูญเสีย แม้แต่ความตายของภีษมะยังต้องตายอย่างเจ็บปวดทรมาน ภีษมะไม่เคยสนใจว่าจะต้องสู้ร่วมกับฝ่ายไหน เพราะว่าทั้งสองฝ่ายต่างก็เป็นลูกหลานที่ภีษมะรักเท่าเทียมกัน เพราะฉะนั้น การสงครามครั้งนี้จึงเป็นเพียงหน้าที่ของภีษมะ ที่ต้องร่วมรบในฐานะที่เป็นวรรณะกษัตริย์ และความจงรักภัคดีต่อราชวงศ์กุรุ ภีษมะเลือกที่จะตายต่อเมือฝ่ายปาณฑพผู้มีธรรมะชนะสงคราม หากทุรโยธน์ได้ขึ้นครองราชย์ ภีษมะเลือกที่จะอยู่ต่อไปเพื่อแก้ไขความผิดพลาดที่ทุรโยธน์จะก่อขึ้น เนื่องจากความที่เป็นผู้อาวุโสของราชสำนัก เหล่ากษัตริย์เรียกภีษมะว่า ปิตามะห์ แปลว่า ปู่ภีษมะ ความดีและความยิ่งใหญ่ของภีษมะทำไห้นักประวัติศาสตร์บางคนถึงกับออกความเห็น ว่าบุคคลที่ชื่อภีษมะไม่มีอยู่จริงในประวัติศาสตร์ เพราะมนุษย์โลกยังมีความเห็นแก่ตัวเกินกว่าทีจะเสียสละได้อย่างภีษมะ
เมื่อภีษมะได้รับบาดเจ็บในการต่อสู้ในสงครมมหาภารตะยุทธ โดยถูกยิงด้วยลูกศร ด้วยน้ำมือของอรชุนซึ่งเป็นหลาน ในสงครามบนทุ่งกุรุเกษตร โดยอรชุนระดมยิงธนูใส่ภีษมะเป็นจำนวนมาก แต่ภีษมะยังไม่ตาย
โดยภีษมะต้องการเลือกเวลาตายในช่วงเวลาที่เป็นฤกษ์มงคลแห่งอุตรายันเท่านั้น ตามความเชื่อของชาวฮินดูพระอาทิตย์จะโคจรปัดใต้(ทักษิณายัน)ในช่วงครึ่งหลังของปีซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ไม่เป็นมงคลและทุกกิจกรรมที่เป็นมงคลจะเลื่อนออกไปจนกระทั่งพระอาทิตย์ เริ่มเคลื่อนกลับมาทางทิศเหนือหรือโคจรปัดเหนือ (อุตรายัน) ซึ่งภีษมะเลือกที่จะตายในวันมาฆะ อัษฏมี ในช่วงอุตรายัน (उत्तरायण) ซึ่งภีษมะนอนรอเวลาตายบนเตียงลูกศรจนถึงวันนี้ก็เป็นเวลาถึง 58 วัน
วันนี้ชาวฮินดูจะทำพิธี สารท อุทิศให้กับบิดาที่ล่วงลับไปแล้วเรียกว่า “เอโกทิษฤ ศารธ” แต่หลายคนเชื่อว่าพิธีกรรม สารทชนิดนี้สามารถอุทิศได้โดยไม่ต้องคำนึงถึงว่าพ่อของเขามีชีวิตอยู่หรือตายไปแล้ว