Website แห่งแรกและแห่งเดียวในเมืองไทย ที่ให้บริการฤกษ์ยามชั้นสูงของโหราศาสตร์ภารตะจากคัมภีร์พระเวทของพราหมณ์อันศักดิ์สิทธิ์ และได้ผลตอบรับดีสูงสุดเป็นปีที่ 15 แล้ว WebSite ของเราให้การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในระดับสูงสุด ด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงจากยุโรป "SiteGuarding" บริการดูฮวงจุ้ย แก้ฮวงจุ้ย เสริมฮวงจุ้ย ด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปี***

7Planet

อวัสถา-การแสดงผลดี-ร้ายของดาวเคราะห์

 

กฎทั่วไปของโหราศาสตร์ท่านได้แบ่งดาวเคราะห์ออกเป็นดาวศุภเคราะห์ ดาวบาปเคราะห์เพื่อแบ่งแยกประเภทนิสัยของดาวและดาวเคราะห์เหล่านี้ก็ยังให้ศุภผล(ผลดี)และบาปผล(ผลร้าย)ตามลักษณะและตำแหน่งของดาวเคราะห์มีมีกฎเกณฑ์อธิบายเอาไว้หลากหลายกฎเกณฑ์ ซึ่งสรุปความได้ว่าดาวศุภเคราะห์ก็สามารถให้บาปผล(ผลร้าย)ได้ และดาวบาปเคราะห์ก็สามารถให้ศุภผลหรือผลดีได้
ไม่ใช่ว่าพอเห็นว่าเป็นบาปเคราะห์แล้วก็คิดว่าจะต้องให้ผลร้ายเสมอไป

จากบทความที่ผ่านมาได้กล่าวถึงดาวเคราะห์คู่มิตรคู่ศัตรูไปแล้ว และก็มาดูว่าผลของการเป็นคู่มิตรและคู่ศัตรูของดาวเคราะห์จะให้ผลอย่างไรบ้าง และดาวเคราะห์ที่มีตำแหน่งเช่นอุจน์ นิจ อยู่เรือนมิตร -ศัตรู ฯลฯจะให้ผลดีร้ายอย่างไร ซึ่งก็มีกฏเกณฑแนวคิด์จากหลัก”อวัสถาของดาวเคราะห์”มาช่วยอธิบายดังนี้

1.ทีปถา หรือรุ่งโรจน์ มากจากการที่ดาวเคราะห์ได้ตำแหน่งเป็นอุจน์  ในราศี หรือในนวางค์ ให้ผลดีมากในเรื่องลูกหลาน ทรัพย์สมบัติมั่งคั่งสมบูรณ์ มีผู้ใหญ่รักใคร่เอ็นดูให้ความช่วยเหลือ มีลาภผลดี หากดาวอะไรได้ตำแหน่งอุจน์ ก็จะมีฐานะเป็น”ทีปถา”ดาวนั้นมีความหมายอย่างไรและเป็นเจ้าเรือนอะไรก็ต้องทายดีไปตามนั้น

2.สวัสถา มาจากการที่ดาวได้ตำแหน่งเกษตรในราศี ผลก็ทำให้มีชื่อเสียง มีฐานะดี มีที่ดิน มีความสุขตามความหมายของดาวเกษตรและเจ้าเรือนนั้นๆ

3.มุทิตา
หมายถึงมีความสุข ความสำราญ ความพอใจ มีนิสัยดี ได้คู่ครองที่ดี ฐานะมุทิตานี้มาจาการที่ดาวได้อยู่ในเรือนมิตร โดยคำนวณจากคู่มิตร-ศัตรูที่มาจากความสัมพันธ์เฉพาะชาตา และจะต้องดูว่าเป็นมิตรใหญ่หรือมิตรเล็ก หากเป็นมิตรใหญ่ความหมายก็จะดีมากยิ่งขึ้น

4.ษาณถา
หมายความว่ามีพละกำลังและความกล้าหาญ มีความสุขสมบูรณ์ มีความยินดีรื่นเริง ฐานะษาณถานี้ได้มาจากศุภผลจากษัฑวรรคหรือวรรคทั้ง 6 (อ่านเพิ่มเติมจากเรื่อง ษัฑพละ-กำลังของดาว)

5.ศักดา
หมายถึงความกล้าหาญ มีชื่อเสียง มีทรัพย์สินมาก ฐานะนี้ได้มาจากการเคลื่อนไหวของดาวเคราะห์ที่ทำการ”พักร”หรือโคจร
ถอยหลัง

6.ปีทยะ หรือเบียดเบียน ผลจะทำให้ถูกกังขัง ควบคุม กดดัน การประกอบอาชญากรรม มีนิสัยชั่วร้าย ฐานะนี้ได้มาจากการที่ดาวเคราะห์สถิตอยู่ในเสี้ยวสุดท้ายของราศี ซึ่งอยู่ระหว่าง 22 องศา 31 ลิปดาไปจนสุดราศี

7.ถีนะ มาจากการที่ดาวเคราะห์สถิตอยู่ในเรือนศัตรู ผลทำให้ ร้อนใจ กลัดกลุ้มใจ เจ็บป่วย เสื่อม โทรม เลวลง

8.วิกล
หรือวิกาละ มาจากการที่ดาวเคราะห์โคจรใกล้กับอาทิตย์ เป็นอัสตะหรือดับ ทำให้เกิดโรค ตกอับ เสียชื่อเสียง เสียบุตรหลานพิการ ไม่ปกติ ไม่สมประกอบ

9.ขละ
เสื่อมทราม มาจากการที่ดาวเคราะห์สถิตในราศีที่เป็นนิจหรือในนวางศ์นิจ ทำให้เกิดความสูญเสีย ทะเลาะวิวาท ผู้คนเกลียดชังกำเนิดในตระกูลขั้นต่ำ

10.ปีฑา
มาจากการที่ดาวเคราะห์เสริด หรือโคจรเร็วกว่าปกติ ทำให้เสียหายจากเหตุต่างๆ การถูกทรมาน นิสัยเลวทราม

และยังมีอวัสถาของดาวเคราะห์จากเสวยอายุในระบบทักษา

1.แสงโชติช่วง ถ้าดาวเคราะห์เป็นอุจน์      2.สะดวกสบาย ถ้าอยู่ในเรือนของตัวเอง (เกษตร)3.สุขสบาย ถ้าอยู่ในเรือนมิตรใหญ่    4.สงบเงียบ ถ้าอยู่ในเรือนมิตร (น้อย)
5.บกพร่อง ถ้าอยู่ในเรือนเป็นกลาง    6.หดหู่ใจถ้าอยู่ในเรือนศัตรู   7.ล้มเหลว ถ้าอยู่ร่วมกับบาปเคราะห์    8.ต่ำต้อย ถ้าแพ้เคราะห์ยุทธ 9.โทษะ ถ้าเป็นคราสเพราะรัสมีอาทิตย์ (อัสตะ-ดับ)