วินิจฉัยทศาของดาวเคราะห์
การวินิจฉัยผลของดาวเคราะห์ในราศีจักร และการร่วมกันของดาวเคราะห์ในราศีจักร ที่ให้ผลในมหาทศา, อนุทศา และวิทศาของดาวเคราะห์นั้น ๆ ต้องไม่พิจารณาแต่เพียงเรื่องของดาวเคราะห์
-2-
18
ที่ให้ผลดีหรือผลร้ายเพราะเป็นอุจจ์หรือเป็นนิชค์ แต่ต้งอพิจารณาถึงอายุ, ฐานะ และเพสของเจ้าชะตาด้วย เพราะความหมายของดาวเคราะห์ย่อมเปลี่ยนแปลงไป ตามกาลของอายุและฐานะของแต่ละเจ้าชะตา
ดาวเคราะห์มีคุณสมบัติเมื่อเป็นอุจจ์ เป็นมูลตรีโกณ เป็นเกษตร เมื่อร่วมกับดาวเคราะห์อื่นในราศีของตัวเอง อยู่ในเรือนมิตร, ร่วมหรือได้โยคของศุภเคราะห์, ร่วมกับลัคนาธิปติ อยู่ในเรือนที่ 9 หรือเรือนที่ 10 หรือร่วมกับดาวเคราะห์เจ้ามหาทศา อยู่ในเรือนมิตรชั่วคราว, อยูในเรือนจตุรเกณฑ์ร์, ตรีโกณ หรือเรือนที่ 11 จากราศีลัคน์ หรือจากเจ้ามหาทศา
บาปเคราะห์จะมีกำลังดีถ้าอยู่ในเรือนที่ 3, ที่ 6 หรือที่ 11
ดาวเคราะห์จะไม่มีกำลังถ้าเป็นนิชค์, อยู่ในราศีศัตรู, ร่วมหรือถูกโยคของบาปเคราะห์ เป็นเจ้าเรือนที่ 3, ที่ 6 และที่ 11 จากลัคน์ หรือจากเจามหาทศา หรือถูกโยคของเจ้าเรือนร้าย
ถ้าศุภเคราะห์เป็นเจ้าเรือนจตุรเกณฑ์จะไม่มีกำลัง
ดาวเคราะห์อยู่ในเรือนที่ 2 หรคือเรือนที่ 7 แม้จะไม่เป็นนิชค์จะเป็นบาปเคราะห์หรือศุภเคราะห์ก็ตาม ให้ผลให้ร่างกายเจ็บป่วยเจ้าเรือนทั้ง 2 นี้อาจทำให้เจ้าชะตาตายได้ ในอนุทศาของมหาทศาที่ดาวเคราะห์เจ้ามหาทศาเป็นนิชค์
19
ผลของดาวเคราะห์มีกำลังหรือไม่มีกำลังกำหนดได้ดังนี้ ดาวเคราะห์เป็นอุจจ์หรือเป็นมูลตรีโกณ ให้ผลเต็มที่ตามความหมายของที่สถิตและราศี, เป็นเกษตรให้ผล 3 ใน 4 ของผลเต็มที่, อยู่ในเรือนมิตรหรือร่วมหรือได้โยคของศุภเคราะห์, ให้ผล 1 ใน 2 อยู่ในเรือนศัตรูให้ผล 1 ใน 4 ถ้าเป็นนิชค, ทำลายความหมายของเรือนที่สถิต หรือให้ผลร้าย
การมีกำลังหรือไม่มีกำลังของดาวเคราะห์ เป็นความสำคัญที่ต้องพิจารณาในการวินิจฉัยผลในทศาต่าง ๆ
1. ทีปถา, ดาวเคราะห์เป็นอุจจ์ – เป็นเจ้าของที่ดิน, ทรัพย์สิน, กล้าหาญ, ยานพาหนะ, ผลสำเร็จ, การสมรส, การเกิดบุตร, เกียรติจากทางการปกครอง, ความรู้มากขึ้น และความนับถือจากพี่น้อง
2. สวัสถา, ดาวเคราะห์เป็นเกษตร – ความถาวร, ความสุขในครอบครัว, ความรู้มากขึ้น, ผลสำเร็จ, ทรัพย์สิน, ชื่อเสียงดี, ความสุขสบาย, ได้ที่ดินและทรัพย์สิน
3. ประโมทะ, ดาวเคราะห์อยู่ในเรือนมิตร และในเรือนที่ไม่ใช่เรือนมิตรชั่วคราว – สุขกายสบายใจ, ได้ฐานะ, เครื่องแต่งกายสวยงาม และใจบุญ
4. ศานตุ, ดาวเคราะห์อยู่ในเรือนมิตรชั่วคราว – ความพอใจ, ความสุข และความรู้ที่บุคคลพึงได้พีงมี
20
5. ทนะ, ดาวเคราะห์อยู่ในเรือนเป็นกลาง – ความกระวนกระวาย, เสียฐานะ, เป็นปากเสียงกับพี่น้อง, พลัดพรากจากครอบครัว, เจ้าป่วย และถูกตามจองล้างจองผลาญ
6. ปีฑะยะ, ดาวเคราะห์อยู่ในเรือนศัตรูถาวรที่ไม่เป็นมิตรชั่วคราว – ความเสียใจ, การอยู่ต่างแดน, การแตกร้าวในครอบครัว มิตรและญาติไม่คบหาสมาคม, อันตรายจากไฟและโจร และผู้มีอำนาจไม่พอใจ
7. วิกาละ, ดาวเคราะห์ร่วมกับบาปเคราะห์ – จิตใจฟุ้งสร้านและเศร้าโศก, มิตรตาย, ลำบากเพราะภรรยา, บุตร และโจรขาดแคลนเสื้อผ้า
8. ขะละ, ดาวเคราะห์เป็นนิชค์ – พลัดพรากจากบิดามารดาและภรรยา, ทะเลาะวิวาท, อันตรายจากศัตรู, เสียทรัพย์สินและสมบัติ, เสียความไว้วางใจ และถูกจำขังในเรือนจำ
9. โกปิสตะ, ดาวเคราะห์ร่วมกับอาทิตย์ – ความประพฤติหยาบข้าน่าอดสูอับอาย, เสียภรรยา, พี่น้อง และทรัพย์สิน, ลำบากเพราะบุตร, เสียสายตา, อันตรายจากไฟ, ราชา และโจร
อนึ่ง อย่าถือว่าดาวเคราะห์ที่ให้ผลดีหรือร้ายในทศาของดาวเคราะห์นั้น เป็นผลในความหมายของเรือนที่นับจากลัคน์อย่างเดียวยังอาจให้ผลดีหรือร้ายในความหมายของเรือน ที่นับจากดที่สถิตของดาวเคราะห์เจ้ามหาทศาได้อีกด้วย โดยนับที่ดาวเคราะห์เจ้ามหาทศา
21
เป็นเรือนที่ 1 อย่างเดียวกับลัคน์ วิธีนี้ใช้วินิจฉัยผลของดาวเคราะห์เจ้าวิทศาในอนุทศาได้อย่างเดียวกัน
กฎทั่วไปมีอยู่ว่า ผลดีหรือร้ายในความหมายของเรือนต่าง ๆ ในราศีจักร เป็นไปตามลักษณะของดาวเคราะห์ที่อยู่ในเรือน ความหมายของเรือนที่มีศุภเคราะห์สถิตเป็นไปในทางส่งเสริม ถ้ามีบาปเคราะห์สถิตเป็นไปทางลำลายหรือทำให้ไร้ค่า
ดาวเคราะห์ที่เป็นโยคแก่เรือนของตัวเอง จะเพิ่มความสำคัญให้แก่ความหมายของเรือนนั้น อย่างเดียวกันกับดาวเคราะห์ที่ต่างอยู่ในเรือนของตัวเอง และต่างไม่ขัดแย้งระหว่างกันและกัน