Website แห่งแรกและแห่งเดียวในเมืองไทย ที่ให้บริการฤกษ์ยามชั้นสูงของโหราศาสตร์ภารตะจากคัมภีร์พระเวทของพราหมณ์อันศักดิ์สิทธิ์ และได้ผลตอบรับดีสูงสุดเป็นปีที่ 15 แล้ว WebSite ของเราให้การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในระดับสูงสุด ด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงจากยุโรป "SiteGuarding" บริการดูฮวงจุ้ย แก้ฮวงจุ้ย เสริมฮวงจุ้ย ด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปี***

 

วิชาฤกษ์ยามมงคล ถือว่าเป็นปกรณ์ชั้นสูงของวิชาโหราศาสตร์ทุกระบบทุกแขนง โดยฤกษ์ยามคือวิชาที่ว่าด้วยพลังอิทธิพลของกระแสแม่เหล็กโลก พลังของจักรวาล กำลังของดาวเคราะห์ ดาวฤกษ์ ที่ส่งผลดีร้ายต่อชะตาชิวิต สุขภาพ ร่างกาย อารมณ์ของบุคคลตลอดจนถึงพืชและสัตว์สิ่งมีชิวิต และแม้แต่ในวัตถุ สิ่งของ ดิน น้ำ ลม ไฟ อากาศ ก็จะได้รับอิทธิพลนี้เช่นเดียวกัน

ฤกษ์ ก็คือการถือเอาจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ ณ เวลาใดเวลาหนึ่งเป็นมูลฐานในการคำนวนหาพลังดี-ร้าย แล้วพยากรณ์ผลที่จะสืบต่อเนื่องไปจากจุดเริ่มต้นนั้นว่าจะดำเนินไปด้วยความรุ่งเรืองสวัสดีหรือมีอุปสรรค ตกต่ำหรือถูกทำลายให้พินาศไป และฤกษ์ยามที่ใช้กันอยู่ในทุกวันนี้ มีมากมายหลายศาสตร์ หลายระบบหลายแขนง มีความหยาบละเอียดสูงต่ำแตกต่างกันไปเป็นขั้นๆ บ้างก็ได้ผล
ดีบ้างก็ไม่มีผลอะไรเลยหรือก็เป็นเพียงความเชือถือสืบต่อๆกันมาแบบงมงายโดยไม่มีการวัดผลหรือมีหลักอ้างอิงใดใดทางโหราศาสตร์ ดังนั้นในการใช้ฤกษ์ยามก็พึงคำนึงถึงหลักวิชามาก่อนเป็นอันดับแรกว่า  มาจากโหราศาสตร์สาขาไหน  มีความหยาบละเอียดมากน้อยเพียงไร มีการวัดผลหรือสอบทานทฤษฏีของฤกษ์ยามหรือไม่เป็นสำคัญ

โหราศาสตร์ไทย ที่ใช้แพร่หลายกันทั่วไปนั้น มีประวัติความเป็นมาอันยาวนาน มีมาตั้งแต่ก่อนตั้งกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี โดยโหราศาสตร์ไทยนั้นได้รับการถ่ายทอดมาจากโหราศาสตร์ฮินดู-ภารตะจากทางภาคใต้ของประเทศอินเดียและศรีลังกา   โดยคณะสงฆ์เถรวาท(ลัทธิลังกาวงศ์)และคณะพราหมณ์จากทางภาคใต้ของอินเดียเป็นผู้นำมาเผยแพร่ ซึ่งอาจจะกล่าวได้ว่าโหราศาสตร์ไทย กับฮินดูนั้นแทบจะแยกความแตกต่างกันไม่ได้ ทั้งระบบทฤษฎี กฏเกณฑ์การคำนวน คำศัพท์ชื่อเรียกต่างๆก็ล้วนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับของโหราศาสต์ฮินดูภารตะดังนั้นการจะทำความเข้าใจในโหราศาสตร์ไทยให้แตกฉาน จึงจำเป็นที่จะต้องย้อนกลับไปศึกษาโหราศาสตร์ฮินดูหรือโหรพราหมณ์ซึ่งเป็นครูและต้นตำหรับของโหราศาสตร์ไทยและโหราศาสตร์ระบบนิรายณะอื่นๆที่แพร่หลายทั่วไปในภูมิภาคนี้

 

prew weddingpantip weddingPocketrichy wedding

 
กฏเกณฑ์การให้ฤกษ์ ฉบัับนี้ได้ดำเนินตามแนวทางของบูรพาจารย์ทางโหราศาสตร์พราหมณ์ฮินดูมาแต่โบราณซึ่งอ้างอิงคัมภีร์มุหูรตะ ซึ่งถือว่าเป็นหลักวิชาชั้นสูงที่ถูกปกปิดมายาวนานนับพันๆปี  โดยแพร่หลายเฉพาะในหมู่คณะพราหมณ์ชั้นสูงในประเทศอินเดียเท่านั้น และเมื่ออินเดียได้รับเอกราชจากอังกฤษ ผู้สืบเชื้อสายพราหมณ์เหล่านั้นต้องการปฏิรูปการเผยแพร่ศาสนาให้เป็นสากลมากขึ้นวิชานี้จึงได้ถูกเปิดเผยและนำมาเผยแพร่ต่อสาธารณชนทั่วไปพร้อมๆกับคัมภีร์พระเวทอันลี้ลับ   ซึ่งแต่เดิมคนต่างชั้นวรรณะจะไม่เคยมีโอกาสได้สัมผัสมาก่อนเลยชั่วชีวิต

หลักวิชาฤกษ์ยามชั้นสูงนี้อาจจะไม่ตรงหลักวิชาพยากรณ์อื่นๆที่แพร่หลายทั่วไป และอาจจะขัดแย้งกับความเชื่อเรื่องฤกษ์ยามที่มีอยู่เดิม จึงขอให้ท่านผู้อ่านใช้วิจารณญาณด้วยตนเองโดยการพิจารณาให้รอบคอบด้วยหลักเหตุผลและปราศจากอคติ และผู้เรียบเรียงก็เชื่อว่าทฤษฎีของหลักวิชานี้มีพื้นฐานที่เป็นวิทยาศาสตร์เพียงพอที่จะสามารถทดสอบและวัดผลได้ด้วยตนเอง ซึ่งการคำนวนกฏเกณฑ์นี้จะต้องมีปฏิทินโหราศาสตร์ที่เชื่อถือได้และต้องมึความละเอียดเพียงพอจึงจะคำนวนฤกษ์ยามชั้นสูงในระบบนี้ได้ กล่าวคือ จะต้องมีการคำนวนจากหลักดาราศาสตร์ที่ถูกต้อง มีการคำนวนวิถีโคจรของดาวเคราะห์   มีการคำนวนการเกิดปรากฏการณ์ต่างๆบนท้องฟ้าตามความเป็นจริง มีดิถีเพียร และ มีระบบปัญจางคะหรือที่เรียกว่า ”ปฏิทินปัญจางคนัม” ซึ่งเป็นระบบมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับและใช้กันแพร่หลายทั่วไปในประเทศอินเดียในปัจจุบัน

วัตถุประสงค์ในการเผยแพร่กฏเกณฑ์การให้ฤกษ์ในระบบโหรพราหมณ์นี้ ก็เพื่อที่จะปลดแอกวิชาโหราศาสตร์ให้หลุดพ้นจากคำกล่าวปรามาสว่า “งมงาย” จากคนยุคสมัยนี้ที่ชอบอ้างหลักเหตุผลทางวิชาการสมัยใหม่และดูหมิ่นภูมิปัญญาบรรพชนโบราณ

โหราจารย์และนักโหราศาสตร์ทุกท่านก็ล้วนมีความเข้าใจตรงกันว่า ฤกษ์ยามมงคลที่ดีสมบูรณ์พร้อมสรรพโดยไม่มีจุดเสียใดๆเลยนั้นไม่มีอยู่จริง แต่ฤกษ์ยามที่ดีก็คือ  ได้ผ่านการชั่งน้ำหนัก คำนึงถึงผลดีผลเสียและการผสมผสานกำลังต่างๆเพื่อให้ฤกษ์ยามนั้นมีศุภอิทธิพลในการส่งเสริมผลดีและลดทอนผลร้าย หรือแก้ไขอุปสรรคต่างๆนั้นทำได้จริง

สุดท้ายนี้ผู้เรียบเรียงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า  ท่านผู้อ่านจะได้รับประโยชน์และได้ผลสำเร็จจากเอกสารฉบับนี้ไม่ว่าทางใดทางหนึ่งและขออุทิศคุณความดีเหล่านี้ให้แก่ บิดา มารดา อุปัชฌาย์ ครูอาจารย์ทางโหราศาสตร์ ทุกศาสตร์ ทุกแขนงทุกระบบ นับตั้งแต่อดีตกาลจวบจนถึงปัจจุบัน


อาจารย์ณภัทร ศรีจักรนารท