โศลกที่ ๖๑
พระอาทิตย์เข้มแข็งในตำแหน่งต่อไปนี้ ในตำแหน่งที่เป็นอุจจ์ ในตำแหน่งที่เป็นเกษตร์ ในตรียางค์ซึ่งครองด้วยอาทิตย์ ในโหราซึ่งครองด้วยอาทิตย์ เข้มแข็งในวันอาทิตย์ ใน นวางค์ที่ครองด้วยอาทิตย์ ในเวลาที่อาทิตย์โคจรไปทางทิศเหนือของเส้นศูนย์สูตร ในเวลาเที่ยงวันคือพระอาทิตย์อยู่บนศรีษะของเราพอดี ตำแหน่งนี้เรียกว่าศิโรพินทุ อาทิตย์เข้มแข็งในเวลายกย้ายราศีหรือผลัดราศี เข้มแข็งในนวางค์ที่ครองด้วยดาวมิตรและเข้มแข็งสุดเมื่ออยู่ในภพที่ ๑๐ จากลัคนา ฯ
โศลกที่ ๖๒
พระจันทร์เข้มแข็งในราศีกรกฏ ราศีพฤษภ เข้มแข็งในวันจันทร์ ในตรียางค์ที่ครองด้วยจันทร์ ในโหราที่ครองด้วยจันทร์ ในนวางค์ที่ครองด้วยจันทร์ ในตรียางค์สุดท้ายของราศีต่างๆ ในเวลาที่ได้รับแสงจากศุภเคราะห์ ในเวลากลางคืน ในภพที่ ๔ จากลัคนา ในเวลาที่โคจรไปทางใต้ของเส้นศูนย์สูตร ท่านบังคับไว้ว่า ถ้าปูรณะจันทร์คือเวลาพระจันทร์เต็มดวงหรือเพ็ญจันทร์ จันทร์นั้นจะมีความเข้มแข็งทุกราศี อีกประการหนึ่งถ้าตำแหน่งของจันทร์ในชะตาได้รับแสงจากพระเคราะห์อื่นๆทุกดวง เจ้าชะตาจะได้เป็นใหญ่ มีกฎที่แย้งอยู่ประการเดียวคือไม่ว่าจันทร์จะเข้มแข็งสักเพียงใด ถ้าจันทร์นั้นสถิตอยู่ในปริคัณฑานตะนวางค์ ย่อมให้โทษแก่เจ้าชะตาทั้งสิ้น เพราะถือว่าจันทร์ในตำแหน่งนี้หมดกำลังและเป็นพิษอีกด้วย ฯ
โศลกที่ ๖๓
พระอังคารเข้มแข็งในวันอังคาร ในนวางค์ซึ่งครองด้วยอังคาร ในตรียางค์ที่ครองด้วยอังคาร ในราศีมีน พิจิก กุมภ์ มังกรและเมษ ในเวลากลางคืน ในเวลาที่พักหรือโคจรถอยหลัง ในเวลาที่โคจรอยู่ทางทิศใต้ของเส้นศูนย์สูตร ในตรียางค์แรกของราศีต่างๆ ในภพที่ ๑๐ จากลัคนาเป็นตำแหน่งที่อังคารให้ความสำเร็จและความรุ่งเรืองแก่เจ้าชะตาอย่างยิ่ง ในบางส่วนของราศีกรกฏ อังคารก็ให้คุณมากเช่นกัน ฯ
โศลกที่ ๖๔
พระพุธเข้มแข็งในราศีกันย์และเมถุน ในวันพุธ ในวรรคต่างๆที่ครองด้วยพุธ ในราศีธนู ในราศีที่ไม่ร่วมกับอาทิตย์ พุธเข้มแข็งทั้งกลางวันและกลางคืน ในเวลาที่โคจรไปทางทิศเหนือของเส้นศูนย์สูตร ในตรียางค์กลางของทุกๆราศี เป็นพระเคราะห์ที่ทำให้มีชื่อเสียงโด่งดัง ทำให้มีกำลังกายเข้มแข็ง ทำให้มีความเจริญรุ่งเรือง ในเมื่อเป็นดาวที่กุมลัคนา ฯ
โศลกที่ ๖๕
พฤหัสบดีเข้มแข็งในราศีมีน พิจิก ธนูและกรกฏ ในวรรคต่างๆที่ครองด้วยพฤหัสบดี ในวันพฤหัสบดี ในเวลาเที่ยงวัน ในเวลาที่โคจรอยู่ทางทิศเหนือของเส้นศูนย์สูตร ในตรียางค์กลางของทุกๆราศี ในราศีกุมภ์ และบางส่วนในราศีที่เป็นนิจ พฤหัสบดีให้คุณแก่เจ้าชะตาอย่างยิ่ง เกี่ยวกับความมั่งคั่งและความผาสุข ในเมื่ออยู่กุมลัคนาในภพที่ ๔ หรือในภพที่ ๑๐ จากลัคนา ฯ
โศลกที่ ๖๖
พระศุกร์เข้มแข็งในราศีที่เป็นอุจจ์ ในวรรคต่างๆที่ครองด้วยศุกร์ ในวันศุกร์ ในตรียางค์กลางทุกๆราศี ในภพที่ ๓-๔-๖ และ ๑๒ จากลัคนา ในเวลาบ่าย ในเวลาที่ร่วมราศีกับจันทร์ ในเวลาที่พักร และในเวลาที่โคจรอยู่ข้างหน้าของอาทิตย์ ฯ
หมายเหตุ
การที่บอกไว้ว่าศุกร์เข้มแข็งในเวลาบ่าย และในเวลาที่โคจรอยู่หน้าอาทิตย์ แสดงว่าศุกร์ต้องมีระยะเชิงมุมมาก และอยู่หน้าอาทิตย์ด้วย การที่ดาวอยู่หน้าดวงอาทิตย์เมื่อเวลาสนธยาคือเวลาอาทิตย์ตกดินไปแล้ว จะเห็นดาวนั้นได้ชัดเจนในท้องฟ้าทางทิศตะวันตก ถ้าศุกร์ได้ตำแหน่งนี้ ดาวศุกร์จะเห็นค้างฟ้าอยู่นานในเมื่อมีระยะเชิงมุมมาก
โศลกที่ ๖๗
พระเสาร์เข้มแข็งในราศีตุลย์ มังกรและกุมภ์ เมื่ออยู่ในภพที่ ๗ จากลัคนา ในเวลาที่โคจรอยู่ทิศใต้ของเส้นศูนย์สูตร ในตรียางค์ที่ครองด้วยเสาร์ ในวันเสาร์ ในยามที่เสาร์ครอง ในตรียางค์ที่ ๓ ของทุกๆราศี ในเวลาที่ร่วมราศีกับพระเคราะห์อื่นๆ ในเวลาข้างแรม และในเวลาที่พักร ฯ
หมายเหตุ
ท่านผู้รู้บางท่านให้ความเห็นว่า ถ้าเสาร์กุมลัคนาในราศีตุลย์ ธนูและมีนจะทำให้เจ้าชะตาเป็นผู้ยิ่งใหญ่มีอิทธิพลมาก
โศลกที่ ๖๘
พระราหูเข้มแข็งในราศีเมษ พิจิก กุมภ์ กันย์ พฤษภ กรกฏ และในภพที่ ๑๐ จากลัคนา พระเกตุเข้มแข็งในตรียางค์ที่ ๓ ของราศีกันย์ พฤษภและธนู นอกจากนี้ยังเข้มแข็งในเวลากลางคืน และในเวลาที่มีปรากฏการณ์ต่างๆในท้องฟ้าเช่น จันทระหรือสุริยะอุปราคา เป็นต้น
โศลกที่ ๖๙
ตำแหน่งของพระเคราะห์ต่างๆที่ได้กล่าวมาแล้ว จะไม่ให้คุณหรือให้โทษแก่เจ้าชะตาตามนั้น ถ้าพระเคราะห์นั้นสถิตอยู่ในภาวะสนธิคืออยู่ในระหว่างเส้นแบ่งของภพต่างๆ ความสำคัญของพระเคราะห์ที่จะมีอิทธิพลแก่เจ้าชะตา ส่วนมากเกี่ยวกับภพและโยคเกณฑ์ต่างๆที่เกี่ยวกับราศีมีความหมายสำคัญเป็นส่วนน้อย ฯ
หมายเหตุ
คำว่า ภพ ภาวะ หรือเรือน หมายความว่าในจักรราศีได้แบ่งออกเป็น ๑๒ ส่วนประมาณเท่ากัน จุดแบ่งตั้งต้นของภพใช้ลัคนาเป็นจุดศูนย์องศาของภพที่ ๑ และเรียงลำดับตามภพกันต่อๆไป โดยมีความกว้างประมาณภพละ ๓๐ องศา ถ้าลัคนาบังเอิญตรงกับเส้นแบ่งของราศี ราศีกับภพก็เป็นอันเดียวกัน ถ้าลัคนาไม่ตรงกับเส้นแบ่งของราศี ภพกับลัคนาก็ล้ำเหลื่อมกันหมด
โศลกที่ ๗๐
ในดวงชะตาใดๆ ท่านให้พิจารณาอาทิตย์เป็นหลักและแบ่งดวงชะตาออกเป็นส่วน โดยคิดจากองศาอาทิตย์ องศาที่ ๑๘๐ คือจุดที่เล็งกับอาทิตย์เป็นส่วนที่ ๑ และอีกส่วนหนึ่งตั้งแต่จุดเล็งอาทิตย์อีกครั้งหนึ่ง คือแต่จุด ๑๘๐ องศาดังจุด ๓๖๐ องศาเป็นส่วนที่ ๒ หรือจะพูดง่ายๆว่า ๖ ราศีหน้าอาทิตย์และ ๖ ราศีหลังอาทิตย์ เมื่อแบ่งเช่นนี้แล้วท่านให้พิจารณาว่ามีพระเคราะห์ใดบ้างที่อยู่ใน ๖ ราศีหลังอาทิตย์ พระเคราะห์เหล่านี้จะเป็นจำพวกที่บันดาลความผาสุขให้แก่เจ้าชะตา ฯ
โศลกที่ ๗๑
ในการคิดเกี่ยวกับการโคจรของพระเคราะห์ต่างๆ ถ้านับตั้งแต่ช้าที่สุดถึงเร็วที่สุดจะเรียงลำดับกันดังนี้ เสาร์ พฤหัสบดี อังคาร อาทิตย์ ศุกร์ พุธ และจันทร์ ราหูเป็นจุดตัดของระวิมรรคและจันทระมรรคอยู่ทางทิศเหนือ ท่านให้ความเห็นว่าราหูถ้านำหน้าพระเคราะห์ใดย่อมมีกำลังเหนือพระเคราะห์นั้นด้วย ฯ