ก่อนที่เราจะเข้าไปศึกษาและเจาะลึกในเรื่องดวงนวางศ์จักร ผมอยากจะแนะนำให้นักโหราศาสตร์ได้เข้าใจถึงความสัมพันธ์ระหว่างราศีจักรกับนวางศ์จักร์ในอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งหลายท่านอาจจะยังไม่คุ้นเคย ซึ่งปกติเราจะมองความสัมพันธ์ระหว่างจักรทั้งสองนี้ในลักษณะการแบ่งย่อยลงไปเป็นส่วนๆเท่านั้น แต่ความจริงจักรทั้งสองนี้มีรูปแบบการสะท้อนพลังซึ่งกันและกัน จนกลายเป็นตัวแทนของกันและกัน โดยมีกล่าวไว้ในทฤษฎีที่เรียกว่า ราศี-ดุลย-นวางศ์ กับ นวางศ์-ดุลย-ราศี ซึ่งทั้งสองทฤษฎีนี้ถึงแม้ว่าจะมีกล่าวถึงบ้างในระบบโหราศาสตร์มาตรฐานของมหาฤาษีปราสาระ แต่ในระบบโหราศาสตร์ของชาวทมิฬ นาฑู ได้นำเรื่องนี้มาอธิบายขยายความจนกลายเป็นทฤษฎีสำคัญในการพิจารณาดวงชาตา ซึ่งทฤษฎีนี้ก็ได้มีการอธิบายไว้อย่างละเอียดในคัมภีร์เทวะ เกลาลัม (หรือ จันทรา กาละ นาฑิ) รจนาโดยคณาจารย์ศรี ศันธานัม โดยมีความยาวถึง 9100 โศลก เป็นเรื่องราวของการอธิบายเรื่องวรรคต่างๆในโหราศาสตร์อย่างละเอียดและลึกซึ้ง หากผมมีเวลามากพอก็จะแปลมาให้ได้อ่านและศึกษากันต่อไป ส่วนการพิจารณาตามหลักทฤษฎีนี้ผมจะขอจะอธิบาย ทฤษฎี ราศี-ดุลย-นวางศ์ राशि तुल्य नवांश ก่อนดังนี้
|
|
ราศีจักร |
นวางศ์จักร |
ทฤษฎี นวางศ์-ดุลย-ราศี แปลความว่า ราศีเทียบเท่ากับนวางศ์ (ภาษาอินเดียแปลความจากหลังมาข้างหน้า) ตามหลักโหราศาสตร์นาฑิ ได้อธิบายกฏนี้ว่า ให้พิจารณาดาวเคราะห์ในราศีจักร เทียบเท่ากับ(ดุลยะ) ในนวางศ์จักร ซึ่งหลักการนี้อธิบายได้ง่ายๆว่าเมื่อดาวเคราะห์สถิตย์ในราศีใดก็จะส่งอิทธิพลไปยังราศีนั้นๆในดวงนวางศ์จักร เช่น ดาวเสาร์สถิตในราศีมิถุนในราศีจักร (ตามรูป ) ดาวเสาร์ก็จะส่งอิทธิพลของดาวเสาร์ผ่านไปยังราศีมิถุนในดวงนวางศ์จักรด้วยเช่นกัน และในดวงชาตาตัวอย่างนี้ นวางศ์จักรมีดาวอาทิตย์สถิตย์ในราศีมิถุน ก็แสดงว่าดาวอาทิตย์ก็ได้รับอิทธิพลจากดาวเสาร์จากราศีจักรด้วยเกณฑ์กุมกันหรือร่วมกันในดวงนวางศ์
นอกจากนี้ ทฤษฎีนี้มิได้ใช้เฉพาะแต่ในนวางศ์จักรเท่านั้น แต่ยังปรับใช้ได้ในทุกวรรคทั้ง 16 วรรค (โษทศวรรค) ซึ่งก็แสดงว่าดาวเสาร์ได้ส่งอิทธิพลครอบคลุมราศีมิถุนทั้งหมด ตั้งแต่ราศีมิถุนในราศีจักรไปถึงราศีมิถุนในทุกๆวรรค ไล่ไปตั้งแต่ราศี โหรา ตรียางค์ นวางศ์ ฯลฯ จนสุดท้ายไปถึงฆฑิกางศะ
สมมุติว่าในดวงจร มีดาวเสาร์กำลังโคจรผ่านราศีมิถุน และในดวงชาตาของคนๆหนึ่งมีดาวจันทร์สถิตย์ในราศีมิถุนของวรรคที่ 10 หรือ ทศางศะวรรค (1 ใน 10 ส่วนของราศี) ซึ่งเป็นวรรคที่เกี่ยวข้องการการงาน อาชีพ เจ้าชาตาก็ต้องได้รับอิทธิพลร้ายจากเสตสาติ อันเนื่องมาจากดาวเสาร์ทับจันทร์ในดวงทศางศะ (1 ใน 10 ส่วนของราศี) ตามขอบเขตและความหมายของ ทศางศะ คือ เรื่องการงานและอาชีพ โดยเจ้าชาตาจะมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องอาชีพในช่วงนี้ แต่อย่างไรก็ตามระยะเวลาอาจจะไม่ยาวนานถึง 7 ปีครึ่งเหมือนกับเสตสาติจริงๆ ดังนั้นในการพิจารณาดวงชาตาเบื้องต้น หากท่านเข้าใจในหลักการนี้ให้ถ่องแท้แล้ว ก็จะช่วยในการวินิจฉัยดวงชาตาได้ลึกซึ้งและแม่นยำมากขึ้น