ราศีมิถุนนับเป็นราศีลำดับที่ 3 ของจักรวาล เป็นราศีธาตุลมปลายธาตุ มีลักษณะเป็นทวิภาวะราศี หรืออุภัยราศีซึ่งมีลักษณะไม่แน่นอนและแปรปรวน มีดาวพุธดาวแห่งปัญญา-การสื่อสารและความแปรปรวนรวนเรเป็นดาวเจ้าราศี
ดาวเคราะห์ที่ให้บาปผลแก่ชาวลัคนาราศีมิถุน คือ ดาวอังคาร ดาวพฤหัส และดาวอาทิตย์ มีแต่ดาวศุกร์ศุภเคราะห์ธรรมชาติเพียงดวงเดียวเท่านั้นให้คุณสำหรับลัคนานี้ ส่วนทรรศนสัมพันธ์ระหว่างดาวพฤหัสกับดาวอังคาร ก็จะให้ผลเหมือนกับคนลัคนาราศีเมษ แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือ “ดาวจันทร์” กลับกลายเป็นดาวมารการกะ (ดาวที่ให้ผลร้ายถึงตาย) เพราะเป็นเจ้าเรือนที่ 2 (มารกะสถาน)แต่มันก็ขึ้นอยู่กับโยคที่สัมพันธ์กับดาวเคราะห์อื่นและที่สถิตย์ของจันทร์ด้วยว่า เป็นศุภผล หรือ บาปผล
ลัคนาราศีมิถุน
- ดาวอาทิตย์: เนื่องจากดาวอาทิตย์เป็นเจ้าเรือนที่ 3 ซึ่งไม่เป็นมงคล เพราะเป็นหนึ่งในเรือนตรีษัฑายะ (ให้ผลเหมือนทุสถานะ) อ่านที่ เรือนตรีษัฑทายะ (เรือนที่ 3,6,11) เรือนที่ให้โทษแก่ดวงชาตา ...
- ดาวจันทร์: จันทร์เป็นเจ้าเรือนที่ 2 และเป็นดาวมารการกะ(ดาวที่บ่งชี้ถึงความตาย คือดาวเจ้าเรือนที่ 2และที่ 7) แต่อย่างไรก็ตามมันไม่ได้เป็น”ดาวมารการกะ”โดยอิสระ ไม่เหมือนกับดาวศุกร์ในลัคนาราศีเมษที่เป็นดาวมารการกะโดยสมบูรณ์แบบ เพราะเป็นทั้งเจ้าเรือนที่ 2 และที่ 7 ซึ่งเป็นมารการกะสถาน(เรือนแห่งความตาย)ทั้งสองเรือน แต่มันขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ของดาวจันทร์กับดาวอื่นๆ และกำลังของดาวจันทร์ที่ได้ตำแหน่ง อุจน์ เกษตร มูลตรีโกณ ก็จะเป็นผลดีหรือเป็นกษิณจันทร์ (จันทร์มีแสงน้อย) หรือดาวจันทร์เป็นนิจ หรือร่วมกับดาวบาปเคราะห์ก็จะเป็นผลร้าย
- ดาวอังคาร: ดาวอังคารเป็นเจ้าเรือนที่ 6 และที่ 11 และถือว่าเป็นอันตรายอย่างยิ่งเพราะเป็นเจ้าเรือนตรีษัฑายะทั้งสองเรือน (เรือนตรีษัฑายะคือเรือนที่ 3 ที่ 6 และที่ 11 -ให้ผลเหมือนทุสถานะ)
- ดาวพุธ: ดาวพุธเป็นดาวเจ้าเรือนลัคนาและเป็นเจ้าเรือนที่ 4 และด้วยเหตุนี้จึงมีอาจจะเป็นโทษด้วยเหตุดาวพุธเป็น เกณฑราธิปติโทษ (โทษจากดาวศุภเคราะห์ที่เป็นเจ้าเรือนเกณฑ์) แต่ในกรณีนี้ถือว่าไม่เป็นโทษ เพราะพุธเองไม่ใช่ดาวศุภเคราะห์บริสุทธิ์ตามธรรมชาติ เพราะพุธมีฐานะเป็นกลาง แต่มีเงื่อนไขว่า หากพุธร่วมกับศุภเคราะห์พุธก็จะกลายเป็นศุภเคราะห์ และหากพุธร่วมกับบาปเคราะห์พุธก็จะกลายเป็นบาปเคราะห์ อ่านที่ เกณฑราธิปติโทษ ดาวศุภเคราะห์ให้โทษในดวงชาตา
- ดาวพฤหัสบดี: ดาวพฤหัสเป็นเจ้าเรือนที่ 7 และ 10 และ สิ่งแรกที่เราจะวินิจฉัยคือ ดาวพฤหัสทำให้เกิด "เกณฑราธิปติโทษ" เพราะเป็น ดาวศุภเคราะห์ ธรรมชาติบริสุทธิ์เจ้าเรือนเกณฑ์ ซึ่งถือเป็นโทษอย่างมาก เพราะหากประธานศุภเคราะห์อย่างดาวพฤหัสให้โทษแล้ว ก็ต้องถือว่ารุนแรง
กฎยกเว้นโทษ : หากดาวพฤหัสได้โยคจากดาวศุกร์ซึ่งเป็นเจ้าเรือนตรีโกณ "เกณฑราธิปติโทษ" ก็ถือว่าถูกลบล้างไป อันเนื่องมากจากกฏทั่วไปที่ว่า ดาวศุภเคราะห์หากเป็นเจ้าเรือนเกณฑ์จะไม่ให้คุณ และดาวบาปเคราะห์หากเป็นเจ้าเกณฑ์ก็จะไม่ให้โทษ ในทางกลับกันก็เช่นเดียว
- ดาวศุกร์: ศุกร์เป็นเจ้าเรือนที่ 5 (ภพปุตตะ)และที่ 12 (ภพวินาส) และเมื่อดาวศุกร์เป็นดาวศุภเคราะห์เป็นเจ้าเรือนที่ 5 ถือเป็นเรือนตรีโกณย่อมให้คุณ ตามกฏที่กล่าวมาข้างต้น ส่วนความเป็นเจ้าเรือนที่ 12 (ภพวินาส) ของดาวศุกร์ ถูกทำให้เป็นกลางเพราะดาวศุกร์เป็นเจ้าเรือนตรีโกณ 1เรือน ส่วนอีก 1 เรือนที่เป็นทุสถานะภพถือว่าถูกลบล้างให้เป็นกลาง ซึ่งทำให้ดาวศุกร์เป็นดาวให้คุณสำหรับลัคนานี้
- ดาวเสาร์: ดาวเสาร์เป็นเจ้าเรือนที่ 8 (มรณะ)และที่ 9 (ศุภะ)แม้ว่ามันจะเป็นดาวให้ศุภผล(ผลดี)เนื่องจากการเป็นเจ้าเรือนตรีโกณ(เรือนที่ 9) แต่ด้วยความเป็นเจ้าเรือนที่ 8 ด้วย จึงทำให้ผลกลายเป็นกลาง ดาวเสาร์จะเป็นเจ้าเรือนที่ ๙ (ตรีโกณ)ซึ่งหากสัมพันธ์กับเจ้าเรือนเกณฑ์ ย่อมให้เกิดเป็นราชาโยคได้ตามกฏทั่วไป แต่ด้วยเหตุที่เป็นเจ้าเรือนที่ 8 ด้วย ดาวเสาร์จึงไม่ให้สามารถก่อให้เกิดราชาโยคใดใดได้เลย
หมายเหตุ***กรุณาศึกษาบทนำหรือทฤษฎีเพื่อทำความเข้าใจก่อน ทฤษฎีดาวให้คุณ-ดาวให้โทษ เฉพาะคนเกิดลัคนาราศีต่างๆ http://bit.ly/2Zj5gBI
กฎและข้อยกเว้นของลัคนาราศีมิถุน จากคัมภีร์ ภาวารถะ รัตนากร
- ตำแหน่งของอาทิตย์และดาวพุธสถิตย์ร่วมกันในราศีสิงห์พิสูจน์ให้เห็นว่าจะมีโชคดีในมหาทศาของดาวพุธ ซึ่งยาวนานถึง 17 ปี (ดูดาวเสวยอายุในระบบวิมโษตรีทศา)
- การร่วมกันของดาวศุกร์ - จันทร์ - อังคารในราศีกรกฏจะส่งผลให้เกิดความมั่งคั่งในช่วงมหาทศาของดาวศุกร์ ซึ่งยาวนานถึง 20 ปี
- จะมีผลดีและผลร้ายผสมกันไปในระหว่างมหาทศาของดาวเสาร์ ซึ่งยาวนานถึง 19 ปี โดยถ้าดาวอังคารอยู่ในราศีกรกฏ มี จันทร์ร่วมกับเสาร์ในราศีมังกร
- ถ้าดาวอังคารอยู่ในราศีกรกฏ มี จันทร์ร่วมกับเสาร์ในราศีมังกร ตามข้อ 3 ดาวอังคารมอบความมั่งคั่งในช่วงมหาทศาของอังคารซึ่ง มีระยะเวลาเสวยอายุนาน 7 ปี
- ถ้า อังคาร และ เสาร์ อยู่ในราศีกรกฏ และ ดาวจันทร์อยู่ในราศีมังกร ความมั่งคั่งของเจ้าชาตาจะถูกทำลายลงจนเกือบหมดในช่วงมหาทศาของเสาร์และอังคาร
- แม้ดาวจันทร์จะเป็นเจ้าเรือนที่ 2 (มารกะสถาน)แต่ จันทร์ก็ไม่ใช่ดาว มารการก ที่จำให้เจ้าชาตาถึงตาย
- เมื่อดาวเสาร์อยู่ในราศีกุมภ์และ อังคารกับจันทร์ร่วมกันในราศีเมษ จะเกิดเป็นรูปโยคที่ให้ความมั่งคั่งร่ำรวยชื่อว่า "ธนโยค" อันทรงพลังยิ่ง
- ถ้าดาวเสาร์และดาวพฤหัสบดีอยู่ในราศีกุมภ์เจ้าชาตาจะเพลิดเพลินไปกับการอาบน้ำในแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์เช่น คงคาในช่วงมหาทศาของเสาร์และพฤหัส (ณ ในที่นี้หมายถึงได้ไปแสวงบุญ หรือ ปฏิบัติธรรม หรือ หลุดพ้นจากเคราะห์กรรมต่างๆ)
- เมื่อดาวพุธอยู่ในราศีเมษจะมีเกิดความเข้าใจผิดกับพี่ชาย