ยอมเสียเวลาอ่านสัก 5 นาที อาจพลิกชีวิตคุณ
เรื่องราวประทับใจนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ถูกนำมาลงตีพิมพ์ในหนังสือธรรมะ (มหายาน) ของไต้หวัน ค.ศ. 198 8 ฉบับเดือนกันยายนค่ะ ฉันได้อ่านจากเพื่อนที่ส่งมาให้ แล้วรู้สึกว่าน่าจะนำมาเล่าสู่กันฟัง บางทีอาจเป็นคำตอบที่เรามักนึกสงสัยว่า
- ทำไม โอกาสหลายอย่างจึงหลุดมือเราไป
- ทำไม ทำอะไรก็ติดขัด มีอุปสรรคให้เหนื่อยยากตลอดเวลา
- ทำไม ขยันทำงานแทบตาย ชีวิตก็ยังแย่เหมือนเดิม
ลองอ่านเรื่องนี้กันค่ะ...
พี่ชายและน้องชาย ตระกูลหวัน ช่วยกันตั้งโรงงานอาหารกระป๋อง ( ผักดอง) ผลิตออกมาหลายรสชาติ จำหน่ายทั้งในประเทศและส่งขายนอกประเทศ ; แถวเอเชีย ทั้งญี่ปุ่น ไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ เป็นผักดองอัดกระป๋องยี่ห้อ " เจ " หวังจำหน่ายกับคนจีนโพ้นทะเลในหลายๆประเทศ แต่น่าเสียดาย ที่พยายามเท่าไหร่กลับมีหนี้สินเพิ่มมากขึ้นทุกปี จนผ่านมาถึงปีที่ & nbsp;8 ( ค.ศ. 1988) ก็มาถึงจุดที่แบกภาระต่อไปไม่ไหว เป็นลู กหนี้ของแบงค์ที่ตามมาบี้และเป็นหนี้กับนายทุนหลายๆ คน หนี้วัตถุดิบที่เอามาผลิตอาหารกระป๋องจนทั้งสองเกิดอาการเครียดมาก จึงพากันไปดูหมอซินแสคนดังท่านหนึ่งของไต้หวัน ที่มีแต่พ่อค้านายพลใหญ่ๆ ชอบไปดูดวงกับท่าน ซินแสคนนี้แหละที่เป็นผู้เอาเรื่องของพี่น้องคู่นี้มาเขียนในนิตยสารธรรมะฉบับดังกล่าว
ซินแสท่านเล่าว่า ตอนแรกที่ผูกดวงของพี่น้องคู่นี้ออกมาก็รู้สึกหนักใจมากๆ เพราะตกตำแหน่งที่ " สูญสิ้น " ทั้งคู่ ทั้งถนนชีวิตและปีจร วัยจร ตกที่นั่งกู้ชีพให้ฟื้นขึ้นมาไม่ได้เลย " ตายลูกเดียว " คือ " เจ๊งลูกเดียว " ไม่มีวิธีแก้กรรมแก้เคล็ดใดๆ จึงสั่นหัวแจ้งข่าวร้ายให้ทั้งสองรับทราบ บอกว่า " ไม่รอด " พี่ชาย-น้องชาย คอตกกลับมาถึงบ้านพัก ซึ่งอยู่ติดกับโรงงานและรู้สึกเศร้าเสียใจมากๆ กับชะตาชีวิตที่ตกต่ำสุดๆในตอนนี้ บังเอิญในช่วงวันนั้น บริเวณตอนเหนือของไต้หวันเกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมอย่างหนัก ทีวีออกข่าวเห็นแต่ภาพน้ำท่วมหลากและบ้านเรือนเหลือแต่หลังคา มีคนเกาะต้นไม้และบ้างก็อยู่บนหลังคา กำลังหิวโหย หนาวเหน็บและลำบากลำบนมาก โดยหน่วยกู้ภัยยังไปไม่ถึงบริเวณดังกล่าว
ทั้งสองพี่น้องผู้กำลังกลุ้มใจสุดๆ เห็นภาพดังกล่าวก็เกิดความ เวทนา จึงเกิดไอเดียปรึกษากันว่า " ไหนๆ ก็จะเจ๊งแน่ ตอนนี้เรายังมิได้ประกาศออกไป ชื่อเสียงที่ย่ำแย่เต็มประดา ยังไม่ถึงขั้นเน่าเหม็น อย่ากระนั้นเลย ทั้งสองคนรีบโทรศัพท์ไปหาญาติมิตรและลูกค้าเก่าๆ เท่าที่เรารู้จัก เอ่ยปากขอยืมเงินมาให้มากที่สุด คนไหนเป็นเจ้าของสินค้าอุปโภค
บริโภคที่พอจะช่วยภัยคนตกน้ำเราก็ขอเป็นสินค้ามาก่อน และเขียนเช็ค(เด้ง) ไปให้พวกเขาก่อน รีบๆ รวบรวมปัจจัยให้ได้ภายในคืนนี้แหละ เอาเศษเงินว่าจ้างเรือขนสินค้าอุปโภคบริโภค พวกอาหารแห้ง บะหมี่ ข้าวสาร อาหารกระป๋อง เสื้อผ้า ผ้าห่ม ขอเป็นหน่วยฉุกเฉินหน่วยแรกที่บุกไปบริจาคช่วยชาวบ้านถึงที่เป็นขบวนแรกก่อนเลย เพราะไหนๆก็จะเจ๊งตายอยู่แล้ว เอาเครดิตชื่อเสียงที่พอจะเหลือเอาเงิน เอาข้าวของคนที่มีมาทำบุญสักครั้งเถอะ " ทั้งสองจึงวุ่นวายกันทั้งคืน ไม่ได้หลับไม่ได้นอน ทั้งโทรฯ ทั้งขอ และปลุกให้ลูกเมีย ญาติโยม ที่พอจะไหว้วานได้ รายไหนยอมให้กู้ก็ไปรับเงิน รายไหนยอมให้สินค้าก็ส่งรถขนส่งไปขนเอามา เขียนเช็คเด้ง ยื่นหมู ยื่นแมวออกไปก่อน
แค่ร ุ่งเช้าทุกอย่างก็พร้อม ได้ของมาเต็มรถบรรทุก 2 คัน ส่งคนไปขอเช่าเรือยนต์รออยู่ที่ตำบลน้ำท่วม ได้เรือมา 4 ลำ ยังไม่ทัน 9 โมงเช้า สินค้าที่ถ่ายลงเรือทั้ง 4 ลำ ตระเวนแล่นเข้าไปในดงน้ำท่วม ของกินของใช้ก็จัดมัดไว้ในถุงพลาสติกใบโตๆ เจอผู้รอดตายก็รับขึ้นเรือ บางรายรับไม่ได้ก็ฝากถุงยังชีพถุงกู้ชีพไปให้ก่อน บอกว่าเดี๋ยวเรือด่วนของราชการคงมาช่วยพาไปขึ้นบกที่ปลอดภัยในภายหลัง
การกระทำอย่างฉับไวในครั้งนี้ กลายเป็นข่าวใหญ่ เพราะมีผู้สื่อข่าวทั้งทีวี วิทยุ หนังสือพิมพ์ไปดักรอทำข่าวอยู่แล้ว ความรวดเร็วและกล้าหาญจริงใจในการช่วยคนตกทุกข์แบบขบวนการของเอกชนแบบนี้ ยังไม่เคยเห็นใครทำมาก่อน ชุดนี้ช่วยในวาระแรกๆ อาหาร เสื้อผ้า ส่งตรงถึงผู้ประสบภัย กันถ้วนหน้า ?? เห็นหน่วยราชการ กาชาด องค์กรการกุศลอื่นๆที่ตามมาทีหลัง หน่วยแรกนี้ก็ล่าถอยกลับบ้าน เพราะถือว่าสมใจ นึกแล้ว ทั้งเหนื่อยจัดและหมดแรง แต่ก็ดีใจปลื้มใจสุดๆ
ทั้งสองครอบครัวกลับถึงบ้านก็สั่งปิดโรงงานเตรียมตัววางเฉย เพราะรู้ดีว่าอีกไม่นานเจ้าหนี้ทั้งหลายคงรุมฟ้องคดีกันยืดยาว แต่เหตุการณ์กลับพลิกล็อกเหนือความคาดหมาย ปรากฏว่าทั้งธนาคารหลายแห่งและเจ้าหนี้ทั้งหลายกลับวางตัวเงียบเฉย ไม่ม ีใครยื่นฟ้องคดีล้มละลายกับคู่นี้สักรายเดียว เพราะทุกคนทั่วประเทศได้เห็นข่าวกล้าหาญในการส่งเสบียงกู้ภัยในนามเอกชนแท้ๆอยู่เพียงรายเดียว
เจ้าหนี้ทุกคนต่างก ็คิดเหมือนกันหมดว่า " พี่น้องคู่นี้ไม่น่าจะยากจนจริงๆ อย่างที่เคยเข้าใจ คงจะแกล้งจนและแกล้งเบี้ยวหนี้ " จึงไม่มีใครตกอกตกใจว่าคู่นี้ใกล้เจ๊ง กลับเห็นพ้องต้องกันว่าน่าจะเปิดให้มีการเจรจาปรองดองหนี้กันใหม่ และสิ่งที่แปลกกว่านั้นคือ ประชาชนตาดำๆ ทีได้เห็นข่าวทีวีและอ่านในหนังสือพิมพ์ต่างก็คิดว่าอาหารกระป๋องผักดองเจของโรงงานนี้น่าจะลองชิมดู เพราะถ้าค้าขายได้ร่ำรวยเงินทองเจียดเงินมาช่วยคนประสบภัยแบบนี้ต้องถือว่าไม่ธรรมดา ดังนั้นร้านค้าต่างๆ ห้างต่างๆ รวมทั้งลูกค้าใหญ่ๆ ในต่างประเทศต่างก็โทรฯเข้ามาขอสั่งซื้อผักดองกระป๋องของโรงงานแห่งนี้กันโกลาหล เรียก ว่ารับแต่ใบออเดอร์ที่โทรฯ ประดังเข้ามาก็จดกันมือนิ้วชาไปหมด โรงงานของสองพี่น้องจึงฟื้นชีพขึ้นมาอย่างปาฏิหาริย์และขายดิบขายดีตั้งแต่บัดนั้น
ฉันเชื่อในเรื่อง " บุญ " เราทุกคนล้วนเกิดมาพร้อมกับบุญและบาปที่ติดตัวมา
" บุญ " เหมือนเป็นทุนที่เราสะสมไว้ใช้ในชาตินี้ หากเราใช้บุญไปทุกๆวันจนใกล้หมด บาปที่เราเคยทำทั้งในอดีตและทำเพิ่มในวันนี้ จะเข้ามาแทนที่ ชีวิตเราจึงเกิดเรื่องราววุ่นวายไม่หยุดหย่อน ทำอะไรก็ไม่สำเร็จติดขัดไปหมดทุกทีไปเพราะมีบาปคอยเข้ามากั้นขวางไว้ ลองทำดูซิคะ ถ้าตื่นไปใส่บาตรไม่ไหว ก็ทำแบบฉันก็ได้ ถวายสังฆทานเดือนละ 1 ครั้ง อุทิศบุญให้กับผู้ที่เราเคยล่วงเกินทั้งกาย วาจาใจ ฉันจะไม่ซื้อสังฆทานแบบเป็นถังเหลือง แต่จะเลือกซื้อของเอง ยิ่งเราพิถีพิถันในการเลือกของถวาย เราก็จะได้สิ่งดีๆที่สมบูรณ์แบบเช่นกัน
" ให้อะไร ก็ได้อย่างนั้น "
คุณว่าจริงมั้ย ตรรกะง่ายๆที่ไม่ต้องไปคิดอะไรลึกซึ้งหรอกค่ะ เพราะเรื่องบุญกรรม ไม่มีใครพิสูจน์ได้เหมือนการคำนวณตัวเลข เราจึงต้องหมั่นเติมบุญเข้าไปอยู่เรื่อยๆ ทำบุญรูปแบบใดก็ได้ ให้ใจสบายและมีความสุข สิ่งดีๆ ก็จะเกิดกับชีวิตเราแล้วละค่ะ เริ่มต้นจากใจเราก่อนก็ได้ ไม่อิจฉากัน ไม่หมั่นไส้กัน ไม่ให้ร้ายลับหลัง มองกันในแง่ดี และให้อภัยกัน เท่านี้บุญก็เกิดที่ใจเเล้ว