ติดต่อสอบถาม กรุณาแอด Line @astroneemo

  • Slider 1
  • Slider 2
  • Slider 3
  • Slider 4
  • Slider 5
  • Slider 6
  • Slider 7
  • Slider 8

Website แห่งแรกและแห่งเดียวในเมืองไทย ที่ให้บริการฤกษ์ยามชั้นสูงของโหราศาสตร์ภารตะจากคัมภีร์พระเวทของพราหมณ์อันศักดิ์สิทธิ์ และได้ผลตอบรับดีสูงสุดเป็นปีที่ 15 แล้ว WebSite ของเราให้การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในระดับสูงสุด ด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงจากยุโรป "SiteGuarding" บริการดูฮวงจุ้ย แก้ฮวงจุ้ย เสริมฮวงจุ้ย ด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปี***

Drammasha
ฆราวาสนุ่งขาวแสดงธรรม ต้องตระหนักว่า ธรรมะคือสิ่งขัดเกลาอย่างยิ่ง โดยการขัดเกลากิเลสทั้ง กาย วาจา และใจ ทั้งทิฐิ มานะ อัตตา ตัวตนให้เบาบางลงไป อีกทั้งต้องเจริญมรรคมีองค์๘ โดยเฉพาะมรรคข้อ 3 คือ สัมมาวาจา ต้อง ไม่พูดเท็จ ไม่พูดนินทา เสียดสี คำหยาบคาย พูดประชดประชันขันแข่ง
ทำไมจึงใช้มรรคข้อ 3 เป็นเครื่องตัดสินในเบื้องต้น เพราะวาจาคือการแสดงออกถึงทิฐิ ความคิด ความเห็น สภาวะจิตใจ และภูมิธรรมของผู้พูดออกมาให้เห็นเป็นรูปธรรมให้คนอื่นได้ยินได้ฟัง ได้รับรู้
ดังนั้นสิ่งที่เกื้อกูลต่อมรรคสัมมาวาจาข้อนี้ นั่นก็คือมรรคข้อ 2 หรือ สัมมาสังกัปปะ ความดำริชอบ หรือ ความคิดที่ถูกต้อง จะดำริชอบหรือไม่ชอบก็ต้องดูจากวาจาที่พูดออกมา หากวาจาที่พูดออกมาเป็นมิจฉาวาจาแล้ว มรรคองค์อื่นๆก็ย่อมไม่มี
เพราะสิ่งที่ทำให้มรรคข้อ 2 เจริญขึ้น ก็คือมรรคข้อแรก นั่นคือสัมมาทิฐิ อันเป็นรากฐานของมรรคทั้งปวง เพราะมรรคทั้ง๘ นั้นเกื้อกูลซึ่งกันและกัน เจริญก็เจริญขึ้นด้วยกัน เสื่อมก็เสื่อมไปพร้อมๆกัน ทั้ง ๘ องค์
เมื่อไม่มีสัมมาวาจา ก็ย่อมไม่มีสัมมาสังกัปปะ เมื่อไม่มีสัมมาสังกัปปะ สัมมาทิฐิก็ย่อมกลายเป็นมิจฉาทิฐิไปโดยปริยาย เมื่อเริ่มต้นด้วยมิจฉาทิฐิแล้ว ก็ไม่ต้องไปพูดถึงมรรคองค์อื่นๆเลย