วิธีการตอกไม้มงคลทั้ง ๙ และอิฐทอง นาก เงิน ในพิธียกเสาเอก ตั้งศาล วางศิลาฤกษ์
ในพิธีกรรมมาแต่โบราณ มีเคล็ดบางอย่างในการก่อสร้างบ้านเรือน ยกเสาเอก ตั้งศาล วางศิลาฤกษ์ เพื่อความเป็นศิริมงคลและปกป้องคุ้มภัยโดยใช้วัตถุที่มีพลัง อาถรรพ์ อยู่ในตัว เช่นไม้มงคลต่างๆ ซึ่งเชื่อถือกันมาแต่โบราณ ว่าเป็นไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่มีพลังอำนาจอยู่ในตัวเอง สามารถป้องกันจากอันตรายต่างๆรวมทั้งทั้งภูมิผีปิศาจ คุณไสย เวทย์มนต์ต่างๆ นอกจากนี้ยังต้องเลือกเฟ้นเวลาที่เป็นมงคลที่สมพงษ์กับดวงชาตาของเจ้าการ ฤกษ์ยามต่างๆและการวางตำแหน่งตามทิศทางให้ถูกต้องด้วยจึงจะบังเกิดผลดีตามที่กล่าว หากมิฉะนั้นก็จะไม่บังเกิดผลอะไรเลย เพราะผิดฤกษ์ยามและการวางตำแหน่งที่ผิดไม่ถูกต้องจะทำให้เกิดการขัดแย้งกับพลังงานของทิศประจำวัน
ดังนั้นสำหรับผู้ที่กำลังคิดจะสร้างบ้าน วิศวร สถาปนิกเองก็ควรจะต้องเรียนรู้เอาไว้ เพื่อจะได้ไม่ผิดตามหลักครูโบราณที่ท่านได้วางหลักเอาไว้ และเพื่อให้เกิดสวัสดิมงคลตามจิตปรารถนา
ความหมายของไม้มงคลทั้ง 9 อย่าง ที่เราจะต้องรู้จักและเข้าใจในความหมายของไม้แต่ละชนิด พร้อมทิศมงคลตามชนิดของไม้มีดังนี้
- ทิศเหนือ (อุดร) ไม้ไผ่สีสุก มีความหมายถึงความมั่งมีศรีสุข ฐานะร่ำรวย มั่งคั่ง สุขกาย สบายใจ ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ สุขภาพแข็งแรง อนามัย
- ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ (อิสาน) ไม้ทรงบาดาล มีความหมายถึง “ทรงบันดาล” เมื่อต้องการสิ่งใด ที่ชอบที่ควร ก็สามารถบันดาลได้ สมความปรารถนา
- ทิศตะวันออก (บูรพา) ไม้สัก มีความหมายถึง ความมียศศักดิ์ มีตำแหน่งหน้าที่ เป็นศรีแก่บ้านเรือนและผู้อยู่อาศัย เป็นที่เคารพยำเกรงแก่ผู้ที่จะมาคบค้าสมาคมด้วย มีศักดิ์ศรีในวงสังคม
- ทิศตะวันออกเฉียงใต้ (อาคเนย์) ไม้กันเกรา มีความหมายถึง การป้องคุ้มภัยอันตรายต่างๆ โดยเฉพาะจากสิ่งที่มองไม่เห็น ภูตผีปิศาจ เวทย์มนต์คุณไสย์ต่างๆ
- ทิศใต้ (ทักษิณ) ไม้พยุง มีความหมายว่า การพยุง ช่วยเหลือและส่งเสริม จะช่วยพยุงฐานะให้มั่นคง เมื่อถึงเวลาขัดสนก็จะไม่ทำให้ฐานะหรือวงศ์ตระกูลถึงกับเซทรุด ป้องกันมิให้ตกอับหรือลำบากยากจนข้นแค้น
- ทิศตะวันตกเฉียงใต้ (หรดี) ไม้ทองหลาง มีความหมายว่า ทรัพย์สินเงินทอง จะทำกิจการใดก็ตามจะมีแต่ความอุดมสมบูรณ์ แก้วแหวนเงินทอง จะไหลมาเทมาไม่ขาดสาย นั่งนอนบนกองเงินกองทอง
- ทิศตะวันตก (ประจิม) ไม้ชัยพฤกษ์ มีความหมายว่า มีชัยชนะ จะได้รับชัยชนะแก่ผู้มุ่งร้าย หมายขวัญ ศัตรูหมู่มาร คู่อาฆาตทั้งหลาย ผู้ไม่ประสงค์ดี มิอาจทำอันตรายใดๆ ได้ จะพ่านแพ้ไปในที่สุด ในลักษณะไพรีพินาศ
- ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ (พายัพ) ไม้ราชพฤกษ์ (หรือไม้คูณ) มีความหมายว่าค้ำคูณ จะมีคนสนับสนุน เมตตา ให้มีที่พึ่งอาศัย มี อำนาจราชศักดิ์ ความมั่งคั่งลาภผลต่างจะทวีคูณ เป็นเงาตามตัว
- ใจกลางที่ปลูกบ้าน หรือศูนย์กลางหลุมศิลาฤกษ์/หลุมเสาเอก ไม้ขนุน มีความหมายว่า สนับสนุน จะมีผู้เกื้อหนุน ค้ำชูให้เจริญ รุ่งเรืองก้าวหน้ายิ่งๆ ขึ้นไป
วิธีการตอกไม้มงคลทั้ง ๙ ชนิด
มีกกฎเกณฑ์ตามประเพณีโบราณที่ใช้หลักมหาทักษานำมาประกอบการจัดลำดับของไม้มงคลตามทิศมงคลของแต่ละวัน โยเมื่อได้ฤกษ์ยามมงคลที่สมพงษ์ตามดวงชาตาของเจ้าของบ้านแล้ว ก็ต้องดูว่าวันมงคลที่ได้มานั้น ตรงกับวันใดในสัปดาห์ทั้ง 7วัน และก็ดูทิศที่เป็น”ศรี”ประจำวันของวันนั้น (ดูจากภาพประกอบ)ทำการตอกไม้มงคลต้นแรกลงไปตามชนิดประจำทิศของไม้นั้นและตามทิศที่เป็นศรีประจำวันของวันนั้น โดยท่านสามารถดูได้จากแผนผังประกอบ แล้วก็ตอกเรียงลำดับตาม”ทักษิณาวัตร”(เวียนขวา)ไปจนครบ 8 ทิศ แล้วสุดท้ายก็ตอกตรงหลุมกลางถือว่าเป็นอันสิ้นสุด วนเข้าไปคล้ายเป็นรูปขดหอยสังข์ซึ่งแสดงถึงความเป็นศิริมงคลสูงสุด ดังนั้นทิศดังกล่าวในแต่ละวันจะไม่เหมือนกัน โดยเฉพาะหากตอกผิดทิศก็อาจจะตกทิศกาลกิณีของวันนั้นเข้าก็จะไม่เป็นมงคล และหากเวียนผิดทางหรือเวียนไปทางซ้ายก็จะเป็น “อุตราวัตร” ก็ไม่เป็นมงคล เหมือนกับการเวียนศพเข้าสู่เมรุ อันนี้ก็ต้องระวัง ส่วนไม้มงคลที่ผ่านการทำพิธีโดยครูบาอาจารย์ก่อนก็จะยิ่งดี โดยการลงอักขระยันต์มงคลต่างๆกำกับเอาไว้เพื่อความแคล้วคลาดปลอดภัย ซึ่งส่วนมากก็นิยมลงคาถากระทู้ 7 แผนก หรือลงคาถาหัวใจพระอิติปิโส ได้แก่ อะ สัง วิ สุ โล ปุ สะ พุ ภะ เป็นต้น
ส่วนอิฐทอง นาก เงินคืออิฐทาด้วยสีทอง สีนาก สีเงิน ซึ่งปัจุบันก็มีผู้ทำจำหน่ายสำเร็จรูป แถมมีคำมงคลต่างๆประกอบด้วย และ ก็มักจะนำมาประกอบพิธีเพื่อเน้นเรืองโภคทรัพย์ และลาภผลต่างๆ โดยมีวิธีการจัดวางเป็นลำดับตามทิศมงคล โดยทำการวางลงบนหัวไม้มงคลที่ตอกลงไปแล้ว แล้วเจิมด้วยแป้งเจิม ปิดทองคำเปลว ส่วนมากการใช้อิฐมงคลนี้มักจะใช้ในพิธีวางศิลาฤกษ์ส่วนพิธีอื่นไม่นิยมใช้เท่าใดนัก