ฮวงจุ้ยโต๊ะอาหาร ช่วยให้การเสริมสร้างความสัมพันธ์ให้แนบแน่นเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของคนในบ้าน ฮวงจุ้ยที่ดีนั้นไม่เพียงแต่ทำให้คนในบ้านมีน้ำจิตน้ำใจเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน แต่ก็ยังช่วยส่งเสริมด้านโชคลาภ การทำมาหาได้สำหรับคนในบ้านทุกๆคน และการจัดวางฮวงจุ้ยสำหรับโต๊ะอาหารมีดังนี้
1.ลักษณะของโต๊ะอาหาร
รูปทรงทุกๆรูปทรงล้วนส่งผลในด้านฮวงจุ้ยแทบทั้งสิ้น ลักษณะโต๊ะอาหารที่ดี ก็ควรจะมีลักษณะกลม หรือ มีทรงที่ไม่มีเหลี่ยมมุมมากนัก และต้องหลีกเลี่ยงลักษณะโต๊ะที่มีมุมแหลมคม เพื่อไม่ให้กระทบกับความเจริญรุ่งเรืองและความสัมพันธ์ของคนในบ้าน แต่หากใช้ที่เป็นรูปทรงเหลี่ยมและมีมุมเหลี่ยม ผู้ที่นั่งร่วมรับประทานอาหารควรหลีกเลี่ยงนั่งที่ชิดของมุมด้านใดด้านหนึ่ง เพื่อหลีกเลี่ยง ซาชี่ หรือชี่พิฆาตที่มาจากมุมโต๊ะ
2.กำหนดขนาดที่นั่งโต๊ะเพื่อเสริมศิริมงคล
จำนวนเก้าอี้ของโต๊ะอาหารก็ส่งผลต่อฮวงจุ้ยด้วยเหมือนกัน ในหลักวิชาได้กำหนดขนาดที่นั่งเป็น 6 หรือ 8 หรือ 9 ซึ่งล้วนแสดงถึงสภาพที่เป็นมงคล (เป็นหยาง)
3.กำหนดทิศที่นั่ง
สำหรับสมาชิกในบ้านทุกๆคนก็ควรหาทิศทางที่เสริมดวงชาตาของแต่ละคน สำหรับเวลานั่งรับประทานอาหารร่วมกัน สำหรับพ่อบ้านที่ทำมาหาเลี้ยงครอบครัว ควรจะนั่งไปหาทิศ “แซขี่” ของตนเองเพื่อเสริมดวงชาตา ส่วนคุณแม่ก็ควรนั่งหันไปหาทิศ “อายุวัฒนะ” และลูกหลานที่กำลังเรียนหนังสือก็ควรหันหน้าไปทิศ “เลื่อนตำแหน่ง” ซึ่งจะส่งผลให้กับทิศ “บุ่งเชียง” หรือทิศ การศึกษา ให้กับบุตรหลาน นอกจากนี้ก็จะส่งผลให้สุขภาพแข็งแรงไม่มีโรคภัยอีกด้วย
4.จัดวางกระจกเงาเสริมฮวงจุ้ย
ในการใช้กระจกเงาของฮวงจุ้ย ก็มีห้องรับประทานอาหารอีกจุดหนึ่งที่นิยม แขวนกระจกเงาเอาไว้ สำหรับส่องและสะท้อนสิ่งของบนโต๊ะอาหาร ผลก็คือการเพิ่มความมั่งคั่งบริบูรณ์และโชคลาภเป็นสองเท่า แต่ควรระวังไม่ให้นำกระจกเงาไปแขวนเอาไว้ที่ห้องครัว หรือยกเว้นกรณีที่ห้องรับประทานอาหารและห้องครัวอยู่ใกล้ๆกัน เพราะจะทำให้กระจกเงาสะท้อนไฟและความวิบัติออกไปกระจายๆรอบๆบ้าน และทำให้เกิดไฟไหม้บ้านได้ง่าย
5.จัดวางวัตถุมงคลเสริมฮวงจุ้ย
สำหรับอาหารห้องห้องอาหาร ก็ควรจัดวาง เทพเจ้า ฮกลกซิ่ว เพิ่มเสริม โชคลาภ บารมียศศักดิ์ อายุยืนไร้โรคภัย นอกจากนี้ก็ยังสามารถจัดวางรูปภาพอาหาร ผลไม้ต่างๆ ก็จะนำโชคดีมาให้ เช่นผลส้ม หมายถึงความร่ำรวย ลูกท้อหมายถึงอายุยืน สุขภาพดี ไร้โรคภัย ผลทับทิมหมายถึงมีลูกมีหลานมากมาย
6.อุปกรณ์สำหรับโต๊ะอาหาร
คนจีนมักจะใช้ตะเกียบและช้อนในการรับประทานอาหาร และต้องหลีกเลี่ยงวัตถุมีคมเช่น ซ่อมหรือมีด ในการรับประทานอาหาร เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงซาชี่ หรือชี่พิฆาต และถ้วยชามของคนจีนก็ล้วนแล้วแต่มีสิ่งมงคลสำหรับการตกแต่ง เช่นรูปมังกร ค้างคาว ผลท้อ ฯลฯ ซึ่งล้วนแล้วแต่นำโชคดีมาให้ทั้งสิ้น
7.มารยาทในการรับประทานอาหาร
ในการรับประทานอาหารสิ่งที่สำคัญไม่น้อยไปกว่า รดชาดอาหารนั่นก็คือมารยาทในการรับประทานอาหาร เช่น การไม่พูดคุยเสียงดัง การเคี้ยวอาหาร ลักษณะการกินไม่ตะกละมูมมาม และการใช้ช้อนส้อม ถ้วยจานต้องไม่กระทบกันจนเสียงดัง หรือการไม่ทะเลาะวิวาท ถกเฉียงกันในขณะรับประทานอาหาร ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นลักษณะที่ต้องควรระวัง พระจะกระทบถึงโชคลาภ ความสามัคคีปรองดองของคนในบ้าน และมารยาทในการเชื้อเชิญในโต๊ะอาหารก็เป็นสิ่งจำเป็นด้วยเช่นกัน เมื่อหัวหน้าครอบครัวมาถึงอาหาร ภรรยาและลูกๆก็ควรที่จะเชื้อเชิญให้นั่ง นี่เป็นธรรมเนียมเก่าแก่ของจีนโบราณที่แสดงให้เห็นถึงมารยาท ธรรมเนียมอันดีงาม และการเคารพผู้ใหญ่
8.การจัดแบ่งห้องให้สมดุลย์
ในเรื่องนี้ฮวงจุ้ยเองก็ได้ให้หลักการเอาไว้ว่า ห้องรับประทานอาหาร ควรจะจัดสรรขอบเขตให้เหมาะสมเหมือนกับห้องอื่นๆ เช่นต้องมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยม อาจจะเป็นผืนผ้าหรือจัตุรัสก็ได้ แต่ห้ามห้องที่มีลักษณะโค้งเว้า เข้ามา หรือยื่นออกไป ซึ่งไม่เป็นมงคล
9.จัดวางผังให้ถูกตำแหน่ง
ตำแหน่งที่ดีที่สุดของการจัดวางผังของห้องรับประทานอาหาร ควรจะต้องวางเอาไว้ตรงกลางระหว่างห้องรับแขกและห้องครัว จะดีที่สุด หรือจัดเอาไว้ตรงกึ่งกลางของบ้าน การจัดลักษณะแบบนี้จะทำให้ญาติพี่น้องรักใคร่ปรองดองและไปมาหาสู่ไม่ขาด และที่สำคัญห้ามวางตำแหน่งของห้องรับประทานอาหารในห้องที่ด้านบนตรงกับห้องน้ำพอดีโดยเด็ดขาด
10.หลีกเลี่ยงตำแหน่งร้าย
จากที่ได้กล่าวมาแล้ว ห้องรับประทานอาหารควรจัดวางไว้ในตำแหน่งที่อยู่ใจกลางของบ้าน แต่ก็ต้องไม่ให้ตรงกับประตูใหญ่หน้าบ้าน และต้องไม่ตรงกับประตูหลังบ้าน และหากเป็นบ้านที่เล่นระดับ ห้องรับประทานอาหารควรจะต้องวางตำแหน่งไว้ที่ชั้นบน และอีกอย่างก็คือต้องไม่จัดวางไว้ในจุดที่ตรงกับหน้าต่างบ้านทั้งซ้ายขวา เพราะชี่ก็จะไหลเข้ามาจากหน้าต่างด้านขวา และก็จะไหลออกไปหน้าต่างด้านซ้าย และห้องนี้จะไม่สามารถจะเก็บชี่ได้ และการหมุนเวียนของชี่ในบ้านก็จะไม่สมดุลย์ และห้องรับประทานอาหารก็ต้องให้มีระยะห่างจากห้องน้ำให้มากที่สุด
11.ปรับสมดุลของหยินและหยาง
การปรับสมดุลของหยินและหยาง ภายในห้องรับประทานอาหารนั้น มักจะปรับให้มีหยางมากกว่าหยินเสมอ เพื่อที่จะเพิ่งพลังของหยางในห้องอาหาร ด้งนั้น หากมีรูปภาพบรรพบุรุษหรือรูปถ่ายของคนที่ตายไปแล้ว และวัตถุโบราณ ซึ่งเป็นหยิน ก็ไม่ควรจัดวางเอาไว้ที่ห้องรับประทานอาหารหากมีชี่ของหยินมากเกินไปก็จะลายโชคของตนในบ้าน แต่หากหยางมากจนเกินไปก็จะทำลายความสามัคคีของคนในบ้าน
12.ลูกศรพิษ
มุมแหลมของห้องต่างๆและคานของห้อง ก็จะสร้างชี่พิฆาตพุ่งลงมา ควรจะใช้เฟอร์นิเจอร์ เครื่องเรือน หรือกระถางต้นไม้ ทำการจัดวางขวางกั้นเอาไว้เพื่อสลายชี่พิฆาตให้หมดไป และก็ควรที่จะหลีกเลี่ยงการนั่งอยู่ใต้คาน แต่หากหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆให้ใช้เชื่อสีแดงผูกขลุ่ยไม้ไผ่จำนวน 2เลา ไว้ที่คานโดยเอาปลายหันหน้าเข้าหากันเป็นมุม 45 องศา ปากขลุ่ยชี้ลงด้านล่าง และจะช่วยสลายกระแสชี่พิฆาตได้ หรืออีกวิธีหนึ่งก็คือการติดหลอดไฟเอาไว้ที่ผนังตรงกับระยะของคาน แสงสว่างจากหลอดไฟก็จะสลายชี่พิฆาตได้เช่นกัน
13.การตกแต่งห้องรับประทานอาหาร
เราจะต้องตระหนักว่า พลังงานทั้งหลายทั้งปวงของคนในบ้านก็ย่อมมาจากการรับประทานอาหาร ที่ห้องอาหาร แต่ห้องอาหารถูกจัดวางเอาไว้ในตำแหน่งที่ไม่ดีก็ย่อมที่กระทบกับโชคลาภ และสุขภาพของผู้อยู่อาศัยทุกคนในบ้านเป็นแน่ การตกแต่งห้องนี้นั้นก็ควรจะใช้สีประเภทสีสว่างและหลอดไฟ โคมไฟแลแสงสว่างอื่นๆมาช่วยเสริมพลังหยางให้กับห้องรับประทานอาหาร และหากจะประดับตกแต่งด้วยต้นไม้ก็ควรใช้ต้นไม้ประเภทที่มีลำต้นตรงก็จะช่วยเสริมพลังหยางชี่ได้อีกแรงหนึ่ง