Website แห่งแรกและแห่งเดียวในเมืองไทย ที่ให้บริการฤกษ์ยามชั้นสูงของโหราศาสตร์ภารตะจากคัมภีร์พระเวทของพราหมณ์อันศักดิ์สิทธิ์ และได้ผลตอบรับดีสูงสุดเป็นปีที่ 15 แล้ว WebSite ของเราให้การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในระดับสูงสุด ด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงจากยุโรป "SiteGuarding" บริการดูฮวงจุ้ย แก้ฮวงจุ้ย เสริมฮวงจุ้ย ด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปี***

 
 

ศาสตร์ฮวงจุ้ยแบ่งเป็นค่ายใหญ่ได้ 2 ค่ายหรือสองสำนัก เหมือนวิชาโหราศาสตร์ที่แบ่งเป็นนิรายนะกับสายนะ แต่ก็ไม่เหมือนเสียทีเดียว
ค่ายสายวิชาที่ ๑ ใช้เพียงแค่สายตามอง ดูรูปลักษณ์ ดูพลังไหลเวียนของชี จุดกำเนิดและจุดสะท้อนของพลังชี่จากรูปลักษณ์ของภูมิศาสตร์ หรือ ตำแหน่งชีพจรมังกร และสามารถคำนวนตำแหน่งองศาดวงดาวจริงๆบนท้องฟ้าได้ เรียกว่า สำนักวิชาหลวนโถว-ขุนเขา หรือเรียกว่า สำนักรูปลักษณ์ ซินแสสำนักนี้ไม่จำเป็นต้องใช้หล่อแกหรือเข็มทิศ ใช้เพียงตาเปล่ามองดู ก็สามารถวิเคราะห์แยกแยะว่า ฮวงจุ้ยดีหรือร้ายได้ สิ่งนี้เรียกว่า ทฤษฎีขุนเขา-หลวนโถว หรือบางทีก็เรียกว่าสำนักรูปลักษณ์ ซินแสฮวงจุ้ยสำนักนี้ล้วนแต่เป็นระดับปรมาจารย์ชั้นสูง เช่น ท่านหยางกง ในสมัยราชวงศ์ถัง ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นสุดยอดปรมาจารย์ ฮวงจุ้ย และอีกท่านหนึ่งคือ องค์ฮ้อเอี๊ยฮุ้งฮุดโจ้ว ในสมัยต้นราชวงศ์หมิง ปัจจุบันซินแสระดับนี้หาได้ยากมาก และการเรียนก็ยิ่งยาก ทำให้การถ่ายทอดก็อยู่ในวงจำกัด

ค่ายสายวิชาที่ ๒ ซินแสจำเป็นต้องใช้หล่อแกหรือเข็มทิศในการดูฮวงจุ้ย ผู้ที่ใช้เข็มทิศเรียกว่า ค่ายทฤษฎีพลังชี่-หลี่ชี่ ซึ่งอ้างอิงดวงดาวตามทิศบนหล่อแก ค่ายทฤษฎีพลังชี่นี้ แบ่งออกเป็น สำนักวิชาซำง้วน ในสมัยราชวงศ์ชิง วิชาซำง้วนก็ได้แบ่งแยก ออกมาอีก ๖ สายวิชา เป็นวิชาซาฮะ วิชากิ่วแช(ดาว9ยุค) รวมเป็น ๓ สำนักใหญ่ ทั้งสามสายวิชานี้ใช้กันอย่างแพร่หลาย ในประเทศจีน และในประเทศต่างๆทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย

ส่วนวิชายุคใหม่ในจีน เช่น สำนักกิมส่อเง็กก้วนหนับ สำนักแผนภูมิหลังฟ้า เป็นต้น ซึ่งเกิดขึ้นมาใหม่ สำนักวิชาใหม่ๆ ก็เกิดขึ้นมาอีกจนนับไม่ถ้วน ซึ่งก็คือการแข่งและเผยแพร่ วัฒนธรรม ด้านวิชาการฮวงจุ้ยอีกแบบหนึ่ง จริงๆโดยรวมแล้ว วิชาฮวงจุ้ยมีเพียงสองสำนักเท่านั้น ซึ่งก็คือ สำนักที่ใช้ทฤษฎีรูปลักษณ์ และสำนักที่ใช้ทฤษฎีพลังชี่ เท่านั้น