เรื่องของโหราศาสตร์จีนนั้น คนไทยทั่วไปมักจะรู้จักกันแต่ วิชาโป๊ยยี่ สี่เถียว นั้นเป็นหลัก แต่อันที่จริง วิชาโหราศาสตร์จีนนั้นมากมาย หลายระบบ และก็มีหลักวิชาที่สลับซับซ้อน และอิงกับวิชาดาราศาสตร์ชั้นสูงวิชาหนึ่ง เรียกว่า วิชา”ชีเจิ้ง ซื่ออวี๋ 七政四余” ซึ่งถ้าหากท่านผู้อ่านเป็นนักโหราศาสตร์ไทย โหราศาสตร์พระเวท (ภารตะ) หรือนักโหราศาสตร์สากล ก็จะสามารถทำความเข้าใจกับวิชานี้ได้ง่ายขึ้น เพราะวิชาโหราศาสตร์ชีเจิ้งนี้ อิงกับดวงดาวทางดาราศาสตร์และกลุ่มดาวนักษัตรทั้ง 28 เหมือนกับระบบของไทย-ภารตะ อีกทั้งก็มีการคำนวณองศา ระยะเชิงมุม การเสวยอายุ ระบบดาวจร ซึ่งไม่ต่างกับระบบของภารตะ-ไทยมากนัก
โหราศาสตร์จีนระบบชีเจิ้ง 七政四餘 จีนกลางอ่านว่า ชี เจิ้ง ซื่อ อวี๋, แต้จิ๋วอ่านว่า ชิก เจ่ง ซี้ อื้อ) อธิบายให้เข้าใจง่ายๆว่าคือโหราศาสตร์ภารตะ เวอร์ชั่นภาษาจีนนั่นเอง โดยวิชานี้เข้ามาพร้อมกับคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนาที่เผยแพร่มายังประเทศจีน เมื่อประมาณ 2400 ปีมาแล้ว โดยนำมาผสมผสานกับองค์ความรู้ทางโหรา-ดาราศาสตร์โบราณของจีน เช่น
(1)ระบบหยินหยาง พลังเอี้ยง 阳 หรือพลังหยาง ☰ - พลังอิม 阴 หรือพลังหยิน ☷
(2)ระบบธาตุทั้ง 5 ธาตุ 五行 ดิน ทอง น้ำ ไม้ ไฟ (3)ะแผนภูมิสวรรค์ 天干 เทียนกาน 地支 ตี้จือ หรือราศี บนราศีล่าง
(3)ระบบ 28 นักษัตร 28 星宿 เหมือน 27 นักษัตรของอินเดียแต่แยกนักษัตรอภิชิต ออกมารวมเป็น 28 นักษัตร
(4)กลุ่มหน่ำซิ้งปักเต้า (南辰北斗) แบ่งเป็นเหนือใต้ ทางเหนือเรียกว่า กลุ่มดาวปักเต้า (北斗เป่ยโต่ว)กลุ่มดาวกระบวยเหนือ หรือดาวหมีใหญ่ ทางใต้เรียกว่า กลุ่มดาวหน่ำเต้า(南斗 หนันโต่ว) กลุ่มดาวกระบวยใต้ หรือดาวหมีเล็ก หรือกลุ่มดาวจรเข้
อย่างไรก็ตามโหราศาสตร์จีนระบบชีเจิ้ง ก็มีวิวัฒนาการมาอย่างยาวนานจนแบ่งออกได้หลายสำนัก หลายระบบ แต่ก็พัฒนามาจากโหราศาสตร์ภารตะแทบทั้งสิ้น โดยเฉพาะระบบ 赤道恒星制 ที่ใช้ดาวเคราะห์ทั้ง 9 และนักษัตร ซึ่งเหมือนกับโหราศาสตร์ภารตะเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์
ความเป็นมา
ในประวัติของวิชานี้มีบันทึกเอาไว้ตั้งแต่สมัยจีนยุคต้นประวัติศาสตร์ คือสมัยพระจ้าเหยา,พระเจ้าซุ่น ในช่วงต้นราชวงศ์โจวและฮั่นเรียกว่า วิชาชีเจิ้งซื่ออวี๋ 七政四余ต่อมาในสมัยราชวงศ์ถัง มีนักพรตเต๋านามว่า “จางกว๋อเล่า”( 张果老 ) (ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นหนึ่งใน 8 ของเทพโป๊ยเซียน)ก็ได้แต่งคัมภีร์ใหม่ขึ้นมาอีกเล่มหนึ่ง เรียกว่า “กว๋อเล่าซิงจง” 果老星宗
ในบันทึกทางประวัติศาตร์ ปรากฏมีคัมภีร์โหราศาสตร์ฉบับแรกในสมัยถังชื่อ กว๋อเล่าซิงจง 果老星宗 ของจางกว๋อเล่า และในสมัยหมิงก็มีการคำนวณปฏิทินดาวหมื่นปีจนสำเร็จ และสมัยชิงก็มีหนังสือเกี่ยวกับการคำนวนดาว 4เล่ม แต่ก็ยังไม่ได้ปรับปรุงในสูตรคำนวณให้ถูกต้องตรงตามหลักดาราศาสตรปัจจุบัน และตำราเหล่านี้ซึ่งถือกันว่าเป็นวิชาลับ ไม่เผยแพร่ต่อบุคคลภายนอก อีกทั้งผิดกฎหมาย ต้องแอบเล่าเรียนกันในหมู่นักพรตนักบวช จึงทำให้ไม่แพร่หลายทั่วไปเหมือนศาสตร์อื่นๆ แต่อย่างไรก็ดี ในประวัติศาสตร์ก็มีบันทึกของนักโหราศาสตร์ชี้เจิ้งแขนงนี้ที่มีชื่อเสียงระดับชั้นบรมครู เช่น 甘德กันเต๋อ (นักดาราศาสตร์)、司马迁 ซือหม่าเชียน (นักประวัติศาสตร์)、张果老 จางกั๋วเล่า(นักพรต-โป๊ยเซียน)、石申สือเสิ่น(โหราจารย์สมัยจั้นกว๋อ)、一行禅师พระเถระอี้สิง、邵康节เส้าคังเจ๋(นักปรัชญา ปราชญ์อี้จิงสมัยซ่งเหนือ)、杨筠松หยางจุนซง(หยางกง บูรพาจารย์ของศาสตร์ฮวงจุ้ยในสมัยถัง)、耶律纯เย่ลี่ฉุน(โหราจารย์)、诸葛亮จูเก๋อเลี่ยง(ขงเบ้ง)、刘伯温หลิวป๋อเวิน(หลิวจี-แม่ทัพราชวงศ์หยวน)、吴师青 อู๋ซือชิง(โหราจารย์) 何野雲師尊 องค์ฮ้อเฮี๊ยฮุ้งฮุดโจ้ว กุนซือและซินแสฮวงจุ้ยสมัยต้นราชวงศ์หมิง เป็นต้น
สมัยโบราณวิชาชีเจิ้งนี้ถือเป็นวิชาการปกครองแขนงหนึ่งว่าด้วยดาราศาสตร์และการปกครองบ้านเมือง ซึ่งฮ่องเต้ แม่ทัพ นักปกครองและขุนนางชั้นสูง พระราชวงศ์ ต้องเล่าเรียน ใช้สำหรับการพยากรณ์ดวงชาตา และฮวงจุ้ย ซึ่งนำมาใช้เฉพาะกับ ฮ่องเต้และคนชั้นสูงในราชสำนักเท่านั้น และสั่งห้ามมิให้สามัญชนเล่าเรียนและสืบทอดวิชานี้
วิชาฮวงจุ้ยแต่โบราณ ก็ใช้วิชาชี เจิ้ง ซื่อ อวี๋ เป็นหลักในการคำนวณฮวงจุ้ย อ้างอิงจากตำราของท่าน "หยางกง 杨公" ปรมาจารย์และบรมครูทางวิชาฮวงจุ้ย และท่านฮ้อเอี๊ยฮุ้งเซี้ยโจ้ว 何野雲師尊 ใช้การเดินดาวจากตำแหน่งดวงดาวบนท้องฟ้าตามความเป็นจริง เรียกว่า วิชาชีเจิ้ง 七政四餘 หรือชื่อเต็มว่า 七政四餘天星擇日法 ซึ่งหลักการคำนวณดวงดาวบนท้องฟ้าตรงกับวิชาโหราศาสตร์ภารตะ และโหราศาสตร์ไทยเกือบ 90 เปอร์เซ็นต์ เป็นวิชาเฉพาะของโหรหลวงของจีน
สำหรับคำนวนดวงชะตาฮ่องเต้-ขุนนาง พระราชวงศ์ ดูดวงเมือง ฮวงจุ้ยและดูฤกษ์ยามสำคัญ เป็นวิชาเดียวที่มีพระราชโองการ ห้ามสามัญชนศึกษาและเรียนรู้
หากละเมิดมีโทษถึงประหารชีวิต
天星擇日法正因有如此之效用,故歷來被視為最上乘、最高深的擇日法,很多人學了一輩子擇日,也只是聞天星擇日之名,而未睹天星擇日之術,原因就是封建皇朝嚴禁老百姓學習天星擇日大法,明朝初年頒佈“習歷者遣戌,造歷者誅死”之令,因為天星曆法準驗非常,造福神速,禁止老百姓學習,實施愚民政策,就是為了讓皇位皇權鞏固,永遠接受皇家的奴役。
แปลความว่า วิชาชีเจิ้งและวิชาคำนวณฤกษ์ยามชั้นสูงที่คำนวณมาจากตำแหน่งของดวงดาวทั้ง 7 บนฟ้านั้นมีความแม่นยำสูงมาก แต่โบราณมาวิชานี้ถือว่าสูงส่งขั้นสุดยอด และลึกล้ำอย่างที่สุด นับแต่อดีตเป็นต้นผู้คนจำนวนมากมายที่ชอบใช้ฤกษ์ยามในการหาฤกษ์ต่างๆ ต่างก็เคยได้ยินได้ฟังถึงความมหัศจจรย์และสูงส่งของวิชาชีเจิ้งนี้ แต่ก็ไม่มีใครได้เจอและได้นำเทคนิควิชานี้มาใช้ เหตุผลก็คือในสมัยยุคศักดินาฮ่องเต้ราชวงศ์ต่างๆสั่งห้ามสามัญชนร่ำเรียนวิชานี้โดยเด็ดขาด เพื่อรวมบัลลังก์และอำนาจของจักรวรรดิและยอมรับการเป็นทาสของราชวงศ์ตลอดไป จนทำให้ฮ่องเต้ทุกราชวงศ์มีพระราชโองการห้ามสามัญชนเรียนรู้อย่างเด็ดขาด เพราะจะส่งผลกระทบต่อราชบัลลังก์
จนถึงยุคราชงางศ์หมิงถึงมีพระราชโองการที่เรียกว่า “習歷者遣戌,造歷者誅死”之令 ประกาศลงโทษผู้ที่คำนวณปฏิทินดาวเคราะห์ทางโหราศาสตร์นั้นต้องมีโทษถึงตายเลยทีเดียว แต่วิชาอื่นๆนั้นเช่น โป็ยยี่สี่เถียว หรือ วิชาฉือเวยโต่วซู่ "จี๋มุ้ย" สามัญชนสามารถเรียนได้ ไม่มีปัญหา ดังนั้นในปัจจุบันคนที่ได้ร่ำเรียนจึงเหลืออยู่น้อยมาก จนในเมืองจีนแทบจะขาดสูญไปเลยทีเดียว
(หมิงไท่จู่) (โหราศาสตร์ฉือเวยโต่วซู่)
และต่อมาวิชาชีเจิ้งนี้ก็ได้ ผนวกแนวคิดทางโหราศาสตร์จาก คัมภีร์นักษัตรครหะศาสตร์ 宿曜经, คัมภีร์ธารณีศาสตร์陀罗尼经 ,คัมภีร์โพธิธรรมเอกกาละศาสตร์ 达摩一叶经 ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นตำราวิชาโหราศาสตร์ของศาสนาพุทธ ชื่อว่า “มัญชุศรีโพธิสัตววิภาคศาสตร์ 文殊菩萨言” ซึ่งเป็นคัมภีร์ทางพุทธศาสนานิกายวัชรยาน ซึ่งพระมัญชุศรีโพธิสัตว์ถือว่าเป็นพระโพธิสัตว์ฝ่ายปัญญาและมีหน้าที่คุ้มครองนักปราชญ์ อีกทั้งเป็นบรมครูทางโหราศาสตร์ ทั้งสายอินเดีย ธิเบต และจีน
ต่อมาทางลัทธิเต๋าได้ผนวกคัมภีร์ดังกล่าวแล้วเรียบเรียงขึ้นใหม่เป็น ปกรณ์ทางโหราศาสตร์ ชื่อว่า ซู่เทียนจี(เครื่องมือคำนวนฟ้า) 术天机、ไท่อี้จินจิ่งลุ่น (มหาสมบัติแห่งฟ้า) 太乙金井论ซึ่งต่อมาพัฒนาเป็นวิชาฉือเวยโต่วซู่ 紫微斗数ต่อมาลัทธิเต๋าก็นำไปพัฒนาแนวคิดและผนวกเข้าไปกับวิชาอี้จิง วิชาโป๊ยยี่และฮวงจุ้ย
โหราศาสตร์ ระบบชี้เจิ้งนี้「七政四余」ถือเป็นแม่แบบแห่งวิชาโหราศาสตร์จีนทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นวิชา เถี่ยปั่นเสินซู่ 铁板神术、 วิชาโป๊ยยี่สี่เถียว 八字、 วิชาอี้จิง 易经、 วิชาฉือเวยโต่วซู่ 紫微斗数、 วิชาสำนักซำง้วน 三元、วิชาสำนักซำฮะ 三合、และ วิชาสำนักฉื่อไป๋紫白 และอื่นๆอีกมากมาย
ซึ่งหากท่านจะต้องรู้จริง รู้ลึกซึ้งในโหราศาสตร์จีนแขนงต่างๆไม่ว่าจะเป็นวิชาโป๊ยยี่ หรือฮวงจุ้ย หรือต้องการเข้าใจ อภิปรัชญาอย่าง คัมภีร์อี้จิง หรือแม้กระทั่งวิชาแพทย์แผนจีน ก็ตาม ท่านก็ควรที่จะไม่ละเลยที่จะศึกษาวิชาโหราศาสตร์ชีเจิ้งนี้ เพื่อเป็นการสอบทานกลับของหลักวิชาการ และการต่อยอดในการพัฒนาด้านความคิด ความเข้าใจที่มาที่ไปในหลักปรัชญาของศาสตร์นั้นๆ
โดยท่านจะเห็นว่าหลักวิชาโหราศาสตร์ เนื้อแท้ก็คือมาจากแหล่งกำเนิดเดียวกัน ผสมผสานกัน แลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน แต่จะมาจากที่ไหนยังไม่มีใครรู้ชัด โบราณว่าโหราศาสตร์นั้นมีครูคนเดียวกันก็มีเหตุผล
(คัมภีร์อี้จิง)
วิชาชีเจิ้งนั้นก็คือประสบการณ์และความรู้จากการสังเกตปรากฏการณ์บนท้องฟ้า และซึ่งสิ่งที่โหราศาสตร์จีนเรียกว่า มังกรเขียว เสือขาว หงส์แดง และเต่าดำนั้น ก็คือการแบ่งภาคของวิชาดาราศาสตร์โบราณซึ่งมีมาก่อนในสมัยราชวงศ์โจว โดยแบ่งเป็นขุนนางหรือเทพเจ้าแห่งทิศทั้ง 4 ตะวันออก ตะวันตก ทิศใต้และทิศเหนือ มีการตั้งชื่อดวงดาวต่างๆที่ปรากฏในทิศนั้นๆ ตลอดจนได้แบ่งเป็นจักราศีทั้ง 12 กับกลุ่มนักษัตรทั้ง 28
ต่อมาวิชาชี้เจิ้งนี้ก็ได้สูญหายไปช่วงหนึ่งในสมัยต้นราชวงศ์ชิง เพราะฮ่องเต้ปฐมกษัตริย์ต้นราชวงศ์คือจูหยวนจาง(หมิงไท่จู่) มีพระราชโองการสั่งห้ามประชาชนเล่าเรียนศึกษาวิชาโหราศาสตร์ชี้เจิ้งแขนงนี้ เนื่องจากเห็นความอัศจรรย์ในความแม่นยำ และเป็นรากฐานแห่งองค์ความรู้ในเชิงชัยภูมิศาสตร์(ฮวงจุ้ย) อี้จิงและการพิชัยสงคราม ซึ่งพระองค์เกรงกลัวว่าประชาชนจะทำการก่อการกบฏ และล้มล้างราชบัลลังก์ ด้วยเหตุว่าประชาชนอาจจะรู้ลึกซึ้งในคัมภีร์พิชัยสงครามและชัยภูมิศาสตร์อันมาจากการคำนวนดวงดาวทางดาราศาสตร์ จนกระทั่งทำให้วิชาดาราศาสตร์ภาคคำนวณ และวิชาการคำนวนปฏิทินดาวเคราะห์ต่างๆก็ขาดช่วงสืบต่อ จนกระทั่งหายสาบสูญไปสิ้น
วิชาโหราศาสตร์ชี้เจิ้งนี้ได้รับการยอมรับว่าเป็นระบบที่ลึกซึ้งและละเอียดแม่นยำที่สุดในบรรดาวิชาโหราศาสตร์จีนทั้งหลาย ซึ่งเป็นการคำนวณความดี-ร้ายของเหตุปัจจัยต่างๆจากดาวนพเคราะห์ผสมผสานกับอิทธิพลจากกลุ่มดาวนักษัตรทั้ง 28 หากใครได้ศึกษาและทำความเข้าใจกับหลักวิชานี้ ก็จะสามารถคิดคำนวณพยากรณ์โชคเคราะห์ ความดีร้ายของชาตาชีวิตผู้คนทั้งหลายทั้งในอดีตและอนาคต อีกทั้งช่วยแก้ไขให้เกิดความโชคดี ความเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้าในชีวิต ความสำเร็จต่างๆและช่วยหลี่กเลี่ยงบรรเทาผลร้ายหรือเคราะห์กรรมที่จะเกิดขึ้น
อ้างอิง..
七政四餘 https://zh.wikipedia.org/wiki/%E4%B8%83%E6%94%BF%E5%9B%9B%E9%A4%98
หยางกง บูรพาจารย์ฮวงจุ้ยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์จีน https://bit.ly/3qcDz0Q
ตำนาน องค์ฮ้อเฮี๊ยฮุ้งฮุดโจ้ว 何野雲師尊 https://bit.ly/3Ocv2D6