Website แห่งแรกและแห่งเดียวในเมืองไทย ที่ให้บริการฤกษ์ยามชั้นสูงของโหราศาสตร์ภารตะจากคัมภีร์พระเวทของพราหมณ์อันศักดิ์สิทธิ์ และได้ผลตอบรับดีสูงสุดเป็นปีที่ 15 แล้ว WebSite ของเราให้การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในระดับสูงสุด ด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงจากยุโรป "SiteGuarding" บริการดูฮวงจุ้ย แก้ฮวงจุ้ย เสริมฮวงจุ้ย ด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปี***

 
 
Sad Phala 1 1

ในโหราศาตร์แบบคงที่หรือระบบนิรายนะ ถือการวินิจฉัยดวงชาตาในภาคพยากรณ์นั้น การประเมินคุณภาพของดาวเคราะห์ ว่าดีหรือร้าย ให้คุณหรือโทษต่อดวงชาตานั้นเป็นหัวใจหลักในการพยากรณ์  โดยเฉพาะอย่างยิ่งการวัดผลกำลังของดาวเคราะห์จะต้องมีหลักทฤษฎีมารองรับและเป็นที่เชื่อถือได้ และหากการประเมินกำลังผิด การพยากรณ์ก็จะผิดตามไปด้วย  และในหนังสือเล่มนี้สิ่งที่จะกล่าวถึงคือ ระบบษัฑพละ คือการหากำลังของดาวเคราะห์ 6 ประการ ซึ่งเป็นวิธีที่ให้ค่ากำลังของดาวแต่ละดวง ยิ่งดาวไหนได้กำลังมากดาวนั้นก็จะยิ่งมีพลังการให้คุณและโทษมากตามกันไปด้วย   ปกติการคำนวนกำลังดาวเคราะห์ในลักษณะนี้ โหรไทยมักจะไม่ค่อยได้ใช้กัน แต่จะใช้กันมากในหมู่โหรภารตะ เพื่อใช้ในการคำนวนดวงชาตาและตัดสินว่าดาวดวงใดให้กำลังในลักษณะใด เป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ดวงชาตาดวงนั้นๆเป็นเฉพาะชาตาๆไป  ซึ่งสิ่งที่สำคัญในการหากำลังดาวตามระบบษัฑพละนี้ เราจำเป็นจะต้องรู้ระบบวิธีการคำนวนดังที่จะอธิบายต่อไปนี้



1. สถานะพละ อันนี้ก็คือสถานที่ๆดาวเคราะห์นั้นสถิตย์นั่นเอง โดยการจะเริ่มการคำนวณหาษัฑพละของดาวดวงใดดวงหนึ่ง จะต้องหาสถานะพละก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งก็คือตำแน่งความเข้มแข็งของดาวดวงนั้นๆ สถานะพละจะประกอบด้วยส่วนประกอบ 5 ส่วนดังนี้:

1.1 อุจะพละ (อุจน์) การให้หน่วยกำลังโดยพิจารณาจากองศาของดาว ในหลักโหราศาสตร์แห่งพระเวท (Vedic Astrology)จะอธิบายว่าดาวแต่ละดวงจะมีจุดปรมอุจน์ที่องศาใดองศาหนึ่งในราศี เมื่อดาวดวงนั้นได้ตำแหน่งที่องศาพอดีกับจุดนี้ ดาวดวงนั้นจะได้กำลังเต็มคือ60 ษัทฎิอัมศะ แต่ถ้าดาวดวงนั้นครองตำแหน่งตรงกันข้ามกับที่กำหนดไว้ดาวดวงนั้นจะไม่มีหน่วยกำลังเลย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วดวงดาวอาจจะครองตำแหน่งคาบเกี่ยวในระหว่างจุดต่างๆเหล่านี้ ซึ่งในกรณีที่คาบเกี่ยวนี้เราจะคำนวนกำลังตามองศาที่สถิตย์กับตำแหน่งที่ดวงดาวครองจุดปรมอุจน์ ตัวอย่างเช่น จุดปรมอุจน์ของดวงจันทร์อยู่ที่ 3 องศาในราศีพฤษภ หากดาวจันทร์สถิตย์อยู่ตำแหน่งจุดปรมอุจน์นี้พอดีก็จะได้รับกำลัง 60 ษัทฎิอัมศะ แต่ถ้าดวงจันทร์อยู่ที่ 3 องศาในราศีพิจิก(จุดปรมนิจ)ก็จะเหลือกำลัง 0 ษัทฎิอัมศะหรือสถิตย์ในจุด 3 องศาในราศีสิงห์จะได้หน่วยกำลัง 30 ษัทฎิอัมศะซึ่งก็่คือตำแหน่งกึ่งกลางระหว่าง 3 องศาราศีพิจิกและ 3 องศาราศีพฤษภพอดี