จันทรมังคลโชค-चन्द्र मंगल योग (จันทระ มังคะละ โยค)สัมพันธภาพ – ถ้ามีอังคารร่วมกับจันทร์ – เป็นจันทรมังคลโชค (จันทรมังคละ – จันทร์กับอังคาร)
ผล – หาผลประโยชน์ได้ด้วยวิธีไร้ธรรม, ค้าสตรี ทำอย่างหนึ่งอย่างใดแก่มารดาอย่างรุนแรง และทำความเสียหายเดือนร้อนให้แก่มารดาและญาติ
ข้อสังเกต – ผลที่กล่าวนี้เป็นคำบรรยายในคัมภีร์โบราณ ที่ท่านบรรยายไว้ตามหลักวิชา เรื่องนี้กล่าวได้ว่าจันทรมังคลโชคมีอำนาจแน่นอนเรื่องเงินของเจ้าชะตาในลักษณะอย่างหนึ่ง การได้ผลประโยชน์ ตามปกติจะได้อาชีพในการรับปรุงสุรา, ร้านขายสุรา, ค้าเครื่องดื่ม ฯลฯ เจ้าชะตาอาจเป็นผู้จัดหาอาหารในความต้องการของชนชั้นต่ำ แต่ถ้าจันทร์และอังคารอยู่ในฐานะดี การได้ผลประโยชน์จะเป็นในวิธีอื่นที่ดีกว่า ท่านว่าโชคนี้เกิดจากการร่วมกันของจันทร์กับอังคาร แต่รู้สึกว่าโชคนี้อาจเกิดขึ้นได้เหมือนกัน ถ้าจันทร์กับอังคารเป็นโยคแก่กันและกัน เช่น จันทร์ในราศีพฤษภและอังคารในราศีพฤศจิก หรืออังคารในราศีมกรและจันทร์ในราศีกรกฎ อย่างนี้เป็นที่สถิตที่ดีเป็นพิเศษ และสัมพันธภาพอย่างนี้จะให้ผลดีถ้าปรากฏในเรือนที่ 2, ที่ 9, ที่ 10 หรือที่ 11
ชะตา (10) เกิดวันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2433 เวลามัธยมท้องถิ่น หลังอาทิตย์ขึ้น 14 ชั่วโมง 52 นาที ทศาพุธ 5 ปี 10 เดือน 25 วัน
ชะตานี้จันทรมังคลโชคเกิดขึ้นในราศีพฤศจิก เรือนที่ 9 จากลัคน์ อังคารเป็นเกษตรและจันทร์เป็นนิชค์ แต่เพราะจันทร์เป็นจันทร์ข้างขึ้นและอังคารเป็นเกษตร โชคนี้จึงมีกำลังอยู่บ้าง จะได้ผลดีที่สุดในมหาทศาของอังคาร ถ้าจันทรมังคลโชคปรากฏในเรือนไม่เป็นศุภผล เจ้าชะตาจะมีนิสัยเลวทราม เจ้าชะตาอาจขายภรรยา, น้องสาว ฯลฯ และหาเงินจากการติดต่อหรือธุรกิจที่ไม่สุจริต
--------------------------------------------
คำอธิบาย
จันทรมังคลาโยค-चन्द्र मंगल योग (จันทระ มังคะละ โยค) หรือ ศศิมังคลาโยค
ซึ่งหากได้อ่านข้อความด้านบน ก็อาจจะตกใจนึกว่าเป็นโยคร้าย แต่จริงๆแล้วกลับเป็นโยคดีที่ทรงพลัง อีกทั้งจะนำความสำเร็จและความเจริญรุ่งเรืองมาสู่เจ้าชะตา ตัวอย่างเช่น Bill Gates และ Angelina Jolie ซึ่งทั้งคู่ต่างก็มี”จันทรมังคลาโยค”ในดวงชะตา และส่งผลให้เจ้าชะตาประสบความสำเร็จอย่างสูงในด้านการทำงาน
หากเรามีพื้นฐานทางโหราศาสตร์พระเวทเพียงพอ ก็จะรู้ว่าดาวอังคารกับดาวจันทร์นั้นเป็นคู่มิตรต่อกัน อีกทั้งหากเจ้าชะตามีลัคนาสถิตย์ราศีกรกฏซึ่งมีจันทร์เป็นเจ้าเรือน ดาวอังคารก็จะเป็น”โยคการกะ” หรือเป็นดาวให้คุณสูงสุดในดวงชะตา เพราะอังคารเป็นทั้งเจ้าเรือนเกณฑ์และตรีโกณสำหรับราศีกรกฏซึ่งก่อให้เกิด”ราชาโยค” ขึ้นมาในดวงชะตา
แล้วทำไมผู้รจนาคัมภีร์จึงเขียนไว้แต่แง่ร้าย ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจด้วยว่า การแต่งคัมภีร์สมัยโบราณมักจะต้องใช้ข้อความที่กระชับและสั้น เพราะสะดวกในการการท่องจำ (สมัยโบราณคัมภีร์พระเวท ล้วนต้องใช้การท่องจำเป็นหลัก) และคัมภีร์เหล่านี้ผู้ที่จะเรียนได้ต้องมีครูอาจารย์คอยชี้แนะอีกทั้งต้องมีความรู้พื้นฐานกับกฎทั่วไปในวิชาโหราศาสตร์เป็นอย่างดีมาก่อน และหากข้อความใดในโศลกขัดแย้งกับกฎทั่วไปในหลักโหราศาสตร์ ก็ต้องเข้าใจว่าเราต้องแยกแยะและตีความตามพื้นฐานที่เรียนมา ก็จะเข้าใจข้อความในโศลกโบราณนี้ได้
เหตุที่คัมภีร์กล่าวถึงแต่แง่ร้ายของโยคนี้ ก็เพราะว่าแง่ดีของโยคนี้สามารถเข้าใจได้โดยใช้หลักทั่วไปในวิชาโหราศาสตร์พระเวท และนอกจากนี้ในแง่การให้ผลดีของโยคนี้จะต้องมีเงื่อนไขอื่นๆมาประกอบหลายเงื่อนไข ซึ่งผู้รจนาคัมภีร์จึงเขียนแต่ในแง่ที่เป็นโทษเอาไว้พอเป็นที่สังเกต หรือ”ละไว้ในฐานที่เข้าใจ”
เพราะมีพื้นฐานจากตำราอื่นๆที่อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างดาวสองดวงนี้เอาไว้แล้วจึงไม่ต้องมาอธิบายอีกให้ซ้ำซ้อน ซึ่งมันจะฟังดูเยิ่นเย้อเกินความจำเป็น แต่ท่านจะกล่าวเฉพาะหลักวิชาที่มีความแตกต่างออกไปเท่านั้น เพื่อเติมเต็มความสมบูรณ์ของวิชาที่มีอยู่แล้วให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น หาใช่การขัดแย้งกันไม่ กรุณาศึกษาเพิ่มเติมที่ เคล็ดลับในการตีความหมายในโศลกโบราณ
จันทรมังคลาโยค เกิดขึ้นได้อย่างไร
จันทรมังคลาโยคนี้สามารถส่งผลดีให้กับเจ้าชะตาในหลายๆด้าน แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับพื้นดวงชะตาโดยรวมของเจ้าชะตา
โยคนี้จะเกิดเมื่อดาวจันทร์หรือดาวอังคารสถิตย์ร่วมเรือนเดียวกันในพื้นดวงชะตา และนักโหราศาสตร์บางท่านยังถือว่าเมื่อดวงจันทร์และดาวอังคารเป็นเกณฑ์ซึ่งกันและกันในดวงชะตา โยคนี้ก็สามารถเกิดขึ้นได้ด้วยเช่นกัน และว่ากันว่าโยคนี้สามารถให้คุณแก่เจ้าชะตาได้อย่างน่าอัศจรรย์
ที่นี้เรามาลองพิจารณาในแง่ลึกลงไปอีกขั้น เนื่องจากการโคจรที่รวดเร็วของดาวจันทร์ ซึ่งสถิตย์ราศีละ 2 วัน กับ ¼ วัน ขณะที่ดาวอังคารโคจรช้ากว่า และสถิตย์ในแต่ละราศีๆละ 1 เดือนครึ่ง ดังนั้นภายในทุกๆ 1 เดือน โอกาสที่ดาวจันทร์จะมาโคจรร่วมราศีกับดาวอังคาร ก็ย่อมจะต้องมี 1 ครั้ง/เดือนและในแต่ละ 1 เดือนจันทรคติจะมีช่วงเวลา 2 วัน กับอีก ¼ วัน ที่ดาวจันทร์จะมาสถิตร่วมราศีเดียวกันกับดาวอังคาร ซึ่งจะทำให้เกิดโยคนี้ขึ้นมาในดวงชะตา
เราทุกคนรู้ว่ามีราศีมี 12 ราศีและในทำนองเดียวกันก็มีเรือน 12 เรือนในทุกๆดวงชะตา ซึ่งหมายความว่าโอกาสที่ดาวจันทร์จะมาสถิตย์ร่วมราศีเดียวกันกับดาวอังคารมีโอกาส 1ใน 12 และก็หมายความว่าโยคนี้ควรจะมีอยู่ 1 คนในทุก ๆ 12 คนบนโลก และด้วยเหตุนี้บุคคลเหล่านี้ควรจะต้องได้รับความสำเร็จเป็นอย่างสูงทุกๆคน แต่ความจริงก็หาเป็นเช่นนั้นไม่ ดังนั้นจะต้องมีเงื่อนไขพิเศษเพิ่มเติมอีกสำหรับการพิจารณาผลของโยคนี้
เงื่อนไขอีกอย่างหนึ่งที่เราจะต้องใช้กฎทั่วไปของโหราศาสตร์มาร่วมพิจารณา นอกเหนือจากการที่ดาวเคราะห์ทั้งสองดวงสถิตย์ในเรือนเดียวกันและเป็นดาวเคราะห์ที่ทำให้เกิดโยค จะต้องเป็นดาวที่ให้คุณ(ศุภผล)หรือให้ผลดีในดวงชะตา และนอกจากนี้ยังต้องดูผลกระทบจากโยคเกณฑ์ของดาวดวงอื่นๆว่าส่งเสริมหรือพิฆาตกันอย่างไร ซึ่งในโหราศาสตร์พระเวท ดาวศุภเคราะห์ ก็สามารถส่งผลร้าย(บาปผล)ได้ และดาวบาปเคราะห์ก็สามารถส่งผลดีได้ (ศุภผล) ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขต่างๆในแต่ละดวงชะตา
จากเงื่อนไขข้างต้นหมายความว่าทั้งดาวอังคารและดาวจันทร์จะต้องเป็นดาวที่ให้คุณแก่ดวงชะตานั้นๆ ในทางเทคนิคแล้วการร่วมกันของดาวอังคารและดาวจันทร์สามารถสร้างชุดค่าผสมได้มากถึงสี่ชุดในดวงชะตา ซึ่งจะมีคุณสมบัติพอสำหรับการทำให้ จันทรมังคลาโยคเกิดขึ้นได้ คือ
- ดาวจันทร์เป็นศุภผล - ดาวอังคารเป็นศุภผล
- ดาวจันทร์เป็นบาปผล - ดาวอังคารเป็นศุภผล
- ดาวจันทร์เป็นศุภผล - ดาวอังคารเป็นบาปผล
- ดาวจันทร์เป็นบาปผล - ดาวอังคารเป็นบาปผล
และจากทั้งหมดเหล่านี้ มีเพียงอันเดียวที่มีดาวอังคารที่เป็นศุภผล(ผลดี)และดาวจันทร์ที่เป็นศุภผลเท่านั้นที่จะทำให้เกิด"จันทรมังคลาโยค"ที่เข้มแข็งและให้คุณสูงสุดแก่ดวงชะตา ในขณะที่อีกสามชุดที่เหลือกลับไม่เข้มแข็งพอที่จะสร้าง “จันทรมังคลาโยค” ที่สมบูรณ์ได้
ผลของ จันทรมังคลาโยค
ผลของ จันทรมังคลาโยค จากการดาวอังคารร่วมกันของดาวจันทร์นี้เป็นการผสมผสานของดาวเคราะห์ที่ทรงพลังเป็นอย่างมากเพื่อสร้างความมั่งคั่งให้กับเจ้าชะตา โยคแห่งความมั่งคั่งนี้ เรียกว่า"มหาภคยาโยค" นอกเหนือจากความสำเร็จทางการเงินแล้ว ยังให้เกียรติยศและชื่อเสียงในสังคมแก่เจ้าชะตาอีกด้วย ขณะที่ดาวจันทร์เชื่อมโยงกับความมั่งคั่ง ความสุข และความแข็งแกร่งทางจิตใจ ส่วนดาวอังคารมอบพลังเพื่อทำงานหนักและบรรลุเป้าหมายทั้งหมดในชีวิต
นอกจากนี้ยังเงื่อนไขที่สำคัญอีกประการหนึ่งก็คือ เมื่อจันทร์และอังคารสถิตย์ร่วมกับดาวเคราะห์ที่ให้ศุภผล หรือได้รับโยคเกณฑ์จากดาวเคราะห์ที่ให้คุณแก่ดวงชาตา เจ้าชะตามักจะทำเงินจากกิจการที่สุจริต ในทางตรงกันข้าม หากพบว่ามีดาวเคราะห์ที่ไม่เป็นศุภผล วิธีการหาเงินจะมาจากวิธีการที่ไม่สุจริต
ผู้ที่มีโยคนี้อาจประสบความสำเร็จอย่างเหนือชั้น แต่จะไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับครอบครัว เจ้าชะตามักจะกลายเป็นคนแข็งกระด้างและไร้อารมณ์ ในหลายกรณีจะพบได้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าชะตากับแม่จะได้รับผลกระทบอย่างมากเช่นกัน นอกจากนี้เจ้าชะตานั้นมักจะเป็นคนใจร้อนและดื้อรั้น
ในกรณีที่เจ้าชะตาเป็นชาย มักจะได้รับความช่วยเหลือจากผู้อื่นอยู่เสมอ หรือบางกรณีเจ้าชะตาประสบความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ทั้งหมดด้วยความพยายามของเจ้าชะตาเอง แต่เจ้าชะตาก็จะต้องเผชิญกับความเครียดและปัญหาอื่นๆก็มีอยู่อย่างมากเช่นกัน
******************************************
