“ดวงกำเนิดพระราม” ดวงชาตาที่หาได้ยากในรอบหมื่นปี
เรื่องนี้สำหรับนักศึกษาโหราศาสตร์ทุกๆท่าน......พวกเราคนไทยมักจะคุ้ยเคยกันดีกับชื่อพระรามในเรื่องรามเกียรติ์ หรือรามายณะซึ่งมหาฤาษีวาลมิกิ เป็นผู้แต่งมหากาพย์เรื่องนี้ขึ้นโดยอิงจากประวัติศาสตร์อินเดียยุคโบราณ พระรามก็ยังเป็นองค์อวตารปางหนึ่งของพระวิษณุเพื่อมาปราบยุคเข็ญให้กับชาวโลก ทำให้พระองค์เป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดทั้งในประวัติศาสตร์และจากวรรณคดี
แต่สำหรับทรรศนะของนักโหราศาสตร์ ดวงประสูติของพระราม ที่ฤาษีวาลมิกิได้บรรยายเอาไว้ ก็ได้ทำให้พระรามเป็นบุคคลที่น่าอัศจรรย์ที่สุดตั้งแต่ดวงชาตากำเนิดเลยทีเดียว......จากมหากาพย์ได้กล่าวเอาไว้ว่าพระรามประสูติในวันขึ้น 9 ค่ำของเดือนจิตตรามาส ลัคนาเสวยปุนรวสุนักษัตร ดาวเคราะห์ทั้ง 5 คือดาวอาทิตย์ อังคาร พฤหัส ศุกร์ และเสาร์ ได้ตำแหน่งเป็นมหาอุจน์ในราศีจักร และยิ่งไปกว่านั้นพระอาทิตย์เสวยองศาบรมอุจน์คือ 10 องศาในราศีเมษ อังคารเสวยองศาบรมอุจน์ 28 องศาในราศีมังกร ดาวพฤหัสเสวย 5 องศาบรมอุจน์ในราศีกรกฏ ดาวศุกร์เสวยองศา 27 องศาบรมอุจน์ในราศีมีน ดาวเสาร์เสวย 20 องศาบรมอุจน์ ในราศีตุลย์
ดาวจันทร์และดาวพฤหัสกุมกันในราศีกรกฏ แสดงว่าพระรามประสูติในนวางศ์บาทที่ 4 ของปุนรวสุนักษัตร ซึ่งก็คือปฐมนวางศ์(๒) ราศีกรกฏ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นลักษณะของดวงชาตาที่หาได้ยากอย่างยิ่ง ซึ่งในคัมภีร์โบราณต่างๆของฮินดู หรือแม้แต่มหาฤาษีวาลมิกิเองก็ไม่ได้กล่าวถึงวันเดือนปีที่แน่นอนชัดเจนว่า พระรามประสูติในปีไหน แต่อย่างไรก็ตามจากการคำนวนทางดาราศาสตร์ยุคใหม่ ตำแหน่งดวงดาวต่างๆที่ปรากฏในดวงชาตาของพระรามนั้น เรียกได้ว่าหลายๆพันปีจึงจะเกิดปรากฏการณ์นี้ขึ้นสักครั้ง
ลักษณะพิเศษของรูปดวงชาตาที่หาได้ยากแบบนี้ มีปรากฏคำทำนายในคัมภีร์โหราศาสตร์พระเวท เช่นคัมภีร์สวรถะ จินดามณี และคัมภีร์ผลาธีปิกา ในบรรพ ที่ว่าด้วย “ราชาโยค” และ”มหาราชาโยค”มีการกล่าวถึงดวงชาตาที่มีดาวเคราะห์ได้ตำแหน่งมหาอุจน์เอาไว้มากตั้งแต่ 5 ดาวจนถึง 6 ดาวเคราะห์ และมีคำทำนายว่าเจ้าจะชาตาจะได้เป็นพระมหาจักรพรรดิ์ที่มีอำนาจมาก หากมีดาวเคราะห์ที่เป็นมหาอุจน์หรือเป็นเกษตรตั้งแต่ 3 ดาวเคราะห์ และอยู่ในตำแหน่งจตุโกณและตรีโกณ หรือมีดาวพฤหัสเป็นมหาอุจน์กุมลัคน์ ซึ่งจากดวงชาตาของพระราม มีดาวพฤหัสมหาอุจน์กุมลัคน์ มีดาวเคราะห์ทั้ง 5 ได้ตำแหน่งมหาอุจน์ และดาวอาทิตย์ อังคาร เสาร์ พฤหัสอยู่ในเรือนจตุโกณ และดาวศุกร์เป็นอุจน์อยู่ในเรือนตรีโกณ ซึ่งหาได้ยากอย่างยิ่ง
จากดวงชาตาพระรามนี้จะเห็นได้ว่า ลัคนาสถิตในราศีกรกฏ ดาวพฤหัสบดีเป็นเจ้าเรือน ที่ 6 (อริ) และที่ 9 (ศุภะ) เป็นมหาอุจน์กุมลัคนา ส่วนดาวอังคารเป็นเจ้าเรืองที่ 5 (ปุตตะ) และที่ 10 (กรรมะ) สถิตอยู่ในเรือนที่ 7 (ปัตนิ) ดาวศุกร์เป็นเจ้าเรือนที่ 4 (พันธุ) และ 11 (ลาภะ) สถิตในเรือนที่ 9 (ศุภะ) ดาวพุธเป็นเจ้าเรือนที่ 3 (สหัสชะ) และที่ 12(วินาสน์) ดาวเสาร์เป็นเจ้าเรือนที่ 7(ปัตนิ) และที่ 8 (มรณะ) สถิตในเรือนที่ 4 ดาวจันทร์เป็นเจ้าเรือนลัคนา(ตนุ) เป็นเกษตรกุมลัคน์ร่วมกับดาวพฤหัสมหาอุจน์ ดังที่ได้กล่าวแล้วว่าเป็นดวงมหัศจรรย์ เพราะนานๆนับหลายพันปีจึงจะเกิดขึ้นสักครั้ง นักโหราศาสตร์ภารตะในประเทศอินเดียเชื่อกันว่าเป็นดวงชาตาที่พิเศษแบบนี้สามารถที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ได้จริง และพระรามเองก็มีตัวตนจริงก่อนยุคประวัติศาสตร์อารยธรรมในแม่น้ำสินธุเสียอีก ซึ่งคนที่เกิดมีชาตาแบบนี้ คัมภีร์โบราณกล่าวว่าจะต้องได้เป็นพระมหาจักรพรรดิ์ มีคนเคารพบูชาดุจเทพเจ้า มีชื่อเสียงยิ่งใหญ่ และเรื่องราวของผู้นั้นก็จะเป็นตำนานเล่าขานกันไม่รู้จบ ซึ่งตัวพระรามเองก็เป็นตัวอย่างให้เห็นจนถึงทุกวันนี้