บทที่ 3
อายะนางศ
42. จุดวิษุวัต (Equinoctial Point) ศูนย์สูตรของเวหาและสุริยวิถีมีจุดผ่านตัดกัน 2 จุด เพราะปีหนึ่งอาทิตย์โคจรผ่านเส้นศูนย์สูตร 2 ครั้ง ๆ ละ 1 วัน วันที่อาทิตย์โคจรผ่านเส้นศูนย์สูตรเรียกว่าวิษุทิน (วันของวิษุวัต) วิษุทิน 2 วันนี้เป็นวันที่มีเวลากลางคืนและกลางวันเท่ากันทั่วโลก จุดทั้ง 2 ที่อาทิตย์โคจรผ่านเส้นศูนย์สูตรเรียกว่า จุดวิษุวัตหรือวิษุบท (Vernal Equinox and The Equinoxes)
43. การเคลื่อนของวิษุวัติ (Procession of The Equinoxes) จากการวิจัยทางดาราศาสตร์และคณิตศาสตร์ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า ทุก ๆ ปีเมื่ออาทิตย์ถึง จุดวิษุวันที่ 0 องศาของราศีเมษ เมื่อนั้นเวลากลางวันและกลางคืนจะเท่ากันทั่วพื้นพิภพ และทุกปีพิภพซึ่งสัมพันธ์อยู่แก่กลุ่มดาวนักษัตรบางกลุ่ม จะเคลื่อนไปทางตะวันตกเกือบ 50 พิลิปดาทุกปี ทุกปีพิภพจะเคลื่อนไปจากที่เดิมของปีที่แล้วปีละ 50 พิลิปดา เมื่อเป็นเช่นนี้ไม่ใช่เพียงแต่พิภพหรือสุริยจักรวาลเท่านั้นที่เคลื่อน แต่ทั้งจักรราศีก็ได้เคลื่อนตามไปทางตะวันตกด้วย เป็นการเคลื่อนถอยที่เพิ่มขึ้นทีละเล็กละน้อยของจุดวิษุวัต เรียกว่าการเคลื่อนของวิษุวัต.
44. จักรราศีเคลื่อนที่และคงที่ ในข้อ 43 จะเห็นได้ว่าจุดวิษุวัตถอยเคลื่อนไปจากที่เดิม ดาวนักษัตรที่สัมพันธ์แก่ที่สถิตของพิภพได้แก่นักษัตรเรวดี จักรราศีที่เคลื่อนตามไปด้วยเป็นจักรราศีเคลื่อนที่ หมายความว่าจุดแรกของจักรราศีเคลื่อนที่ไปด้วยกับจุดวิษุวัต นักษัตรเรวดีเป็นกลุ่มดาวนักษัตรประจำที่อยู่ในเวหาจักรราศีที่กำหนดองศาแรกของราศีเมษที่จุดนักษัตรเรวดีเป็นจักรราศีคงที่ เพราะจุดแรกของเมษเป็นจุดร่วมอยู่ประจำกับนักษัตรประจำที่ (เรวดี) ไม่เคลื่อนตามไปกับ
อายะนางศ 15
จุดวิษุวัต จักรราศีเคลื่อนที่เป็นที่กำหนดหมายเอาว่าเป็นจักรราศีของราศี ส่วนจักรราศีคงที่เป็นที่หมายรู้ว่าเป็นจักรราศีของนักษัตร เพราะราศีต่าง ๆ โดยมากแบ่งและกำหนดเขตราศีด้วยนักษัตรบท และให้ชื่อคล้อยตามนักษัตรนั้น ๆ
45. ระบบสายะนะและนิรายะนะ ระบบจักรราศีเคลื่อนที่ทางดาราศาสตร์จัดเข้าในแผนกระบบสายะนะ และระบบจักรราศีคงที่จัดเข้าในแผนกระบบนิรายะนะ ระบบสายะนะเป็นวิธีการของนักโหราศาสตร์ตะวันตกนำมาใช้สำหรับการพยากรณ์ ส่วนนักโหราศาสตร์ภารตะใช้วิธีการของระบบนิรายะนะ
46. อายะนางศ ความแตกต่างกันระหว่างจุดแรกของสายะนะและนิรายะนะ ได้ค้นคว้าและพิสูจน์ไว้เมื่อสมัยหนึ่งเรียกว่า อายะนางศ
47 วันที่มีอากาศร้อน (Summer Solstice) ในวันที่ร้อนที่สุดในฤดูร้อนเป็นวันที่ดวงอาทิตย์เข้าใกล้เส้นศูนย์สูตรอย่างใกล้ชิด ตรงกันอย่างสนิทที่องศาแรกของราศีกรกฎ เวลานั้นเป็นเวลาที่ทับกันอย่างสนิทที่กึ่งกลางกลุ่มดาวนักษัตรอัสเกษะพอดี.
48. ไม่รู้วันแน่นอนเมื่อร่วมกันสนิท ปัจจุบันเป็นเชื่อหรือเข้าใจกันว่าพิภพเคลื่อนที่ไปปีละ 1/3*50 พิลิปดา ถือว่าเป็นการเคลื่อนจากกันของจุด 2 จุดคือสายะนะและนิรายะนะ เมื่อมีการเกิดการเคลื่อนจากกัน ณ อดีตกาลครั้งหนึ่งก็ต้องมีเวลาที่อยู่ที่ร่วมจุดเดียวกัน แต่วันเวลาเมื่ออยู่ร่วมจุดเดียวกันไม่อาจรู้แน่นอนได้ว่าตั้งแต่เมื่อไร อย่างไรก็ดีดาวที่เป็นที่หมายจุดแรกดูเหมือนได้หายไปจากสายเสียแล้ว เวลานี้สำหรับระยะเคลื่อนที่ที่ล่วงไปแล้วก็ได้แต่อาศัยเหตุผลจองอายะนางศ ระยะเคลื่อนที่ที่ล่วงไปแล้วจนถึงปัจจุบัน (พ.ศ. 2497) คาดคะเนว่าต่างกันจาก 19 ถึง 24 องศา และเชื่อว่าอยู่ในระยะประมาณ 12 ลิปดาตะวันออกของดาวมีนา วันเมื่อเคลื่อนจากกันที่ได้กำหนดไว้ก็หลายระยะ เช่นแต่ปี พ.ศ. 904, 939, 940, 1102 ฯลฯ เป็นเรื่องที่อยู่ในความสงสัยได้มากมาย ยังไม่มีการพิสูจน์ใดที่ให้เหตุผลเป็นที่ถูกต้องยิ่งกว่านี้ และเท่าที่ใช้กันอยู่ทุกวันนี้ก็ได้ผลสมควร ถึงแม้จะยังไม่เป็นที่น่าพอใจทีเดียวก็จำต้องรับเอาใช้ไปพลางก่อน ในที่นี้ไม่มีความประสงค์จะวิจารณ์อย่างหนึ่ง
16 โหราวิทยา
อย่างใดในเรื่องนี้ ซึงจะเป็นการรบกวนนักศึกษาด้วยความสับสนของหลักวิชา ในการพิจารณาปัญหาที่สำคัญยิ่งในเรื่องการเคลื่อนของจุดวิษุวัต ต่อไปจะได้ชี้แจงถึงเรื่องอายะนางศและวิธีสามัญสำหรับหาความแน่ชัดของอายะนางศ พอให้นักศึกษาได้เข้าใจตามหลักการต่อ ๆ ไป.
49. การใช้อายะนางศ ผู้ชำนาญทางเวหาวิทยาแห่งภารตะตระหนักแน่ว่าระยะองศาของราศีคงที่ (นิรายะนะ) สัมพันธ์ตายตัวอย่างใกล้ชิดกับจุดของกลุ่มดาวนักษัตร แต่ทางระบบราศีเคลื่อนที่ (สายะนะ) หาได้แสดงความแน่นอนแห่งที่สถิตให้เป็นที่ประจักษ์ชัดได้ ทั้งทางปฏิบัติและทางที่จะสังเกตเห็นได้ให้ถึงซึ่งความแจ่มแจ้งที่สมเหตุผล อย่างไรก็ดีวัตถุประสงค์ของหนังสือเล่มนี้ ไม่มีความประสงค์จะล่วงล้ำเข้าวิจารณ์วิธีการของระบบหนึ่งใด หรือจะชี้ขาดเฉพาะคุณค่าของอายะนางศ เพียงแต่จะบรรยายที่สถิตของดาวเคราะห์ทางนิรายะนะ สำหรับความมุ่งหมายทางพยากรณ์ในความหมายของโหราศาสตร์ และสำหรับความต้องการทางโหราวิทยา.
เมื่อได้ตัดอายะนางศจากที่สถิตทางสายะนะแล้ว และได้ผลถูกต้องจากการคำนวณ ก็เป็นอันพอเพียงอย่างสมบูรณ์ เพื่อการผูกดวงชะตาและพิจารณาเหตุต่าง ๆ ของกำลังแรงและอ่อนของดาวเคราะห์ และเพื่อครอบคลุมรายละเอียดอื่น ๆ ซึ่งอยู่ในขอบเขตของโหราคณิตศาสตร์ และให้ความสะดวกเพื่อเข้าถึงการพยากรณ์ที่ได้ผลอย่างถูกต้อง.
ทีฆันดรของเรือน (ภวะสผุด) ราศีมานัส (Oblique Ascensions) และการคำนวณที่สำคัญอื่น ๆ เหล่านี้เป็นหลักการคำนวณเพื่อสายะนะราศี เมื่อได้ตัดอายะนางศจากผลของการคำนวณเหล่านี้แล้ว ได้ผลจากการตัดอายะนางศเป็นนิรายะนะภวะ ฯลฯ คือว่านักโหราศาสตร์ทางภารตะคำนวณจากมูลฐานของสายะนะก่อน แล้วในที่สุดตัดทอนลงเป็นนิรายะนะ นี้ชี้ให้เห็นความจำเป็นที่แท้จริงสำหรับอายะนางศ.
50. วิธีตัดอายะนางศโดยได้ผลพอประมาณ เอาเกณฑ์ไปลบหรือบวกปีที่ต้องการ ได้เท่าไรเอา 50*1/3 พิลิปดาคูณแล้วแปลงเป็นองศาลิปดา เกณฑ์อายะนางศในที่นี้นำมาใช้เพื่อให้เห็นวิธีคำนวณตัดอายะนางศเท่านั้น เรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยว
อายะนางศ 17
แก่เกณฑ์ตัดอายะนางศมีกล่าวไว้แล้วในข้อ 48 สำหรับในประเทศไทยเรานี้เท่าที่ได้สังเกตจากปฏิทินและประกอบกับปรากฏการณ์ที่แล้ว ๆ มา เกณฑ์ตัดอายะนางศประมาณ 835 หรืออยู่ในระหว่าง 835 กับ 836 สำหรับ พ.ศ.
ตัวอย่างที่ 1 ตัดอายะนางศสำหรับปี พ.ศ. 2456 อายะนางศ 835
พ.ศ. 2456 – 835 = 1621 X 50*1/3 = 81590 พิลปดา
81590 ÷ 60 = 1359 ลิปดา 50 พิลิปดา
1359 ÷ 60 = 22 องศา 39 ลิปดา
81590" - 22° 39' 50" เป็นอายะนางศปี พ.ศ. 2456