คนเรามักเข้าใจว่า"ลัคนา" The Ascendant หรือบางทีเรียกว่า Rising sign กับ"ราศีเกิด" Sun sign ว่าเป็นอันเดียวกัน ซึ่งมันเป็นคนละเรื่องกันเลย
ก.ราศีเกิด หรือ Sun sign นั้น ก็คือนับจากอาทิตย์โคจรไปราศีต่างๆ 12 ราศี ใน 1ปี ซึ่งเรามักจะคุ้นเคยกันดี ซึ่งใช้แค่วันที่เกิดเป็นเงื่อนไขในการคำนวนโดยไม่ต้องคำนึงถึงปีเกิดก็หาราศีเกิดได้แล้ว สรุปว่าคนเรา 1 ปีจะมี12 ราศี คือ
ราศีเมษ เกิดระหว่างวันที่ 13 เม.ย.- 13 พ.ค.
ราศีพฤษภ เกิดระหว่างวันที่ 14 พ.ค.- 13 มิ.ย.
ราศีเมถุน เกิดระหว่างวันที่ 14 มิ.ย.- 14 ก.ค.
ราศีกรกฎ เกิดระหว่างวันที่ 15 ก.ค.- 16 ส.ค.
ราศีสิงห์ เกิดระหว่างวันที่ 17 ส.ค. – 16 ก.ย.
ราศีกันย์ เกิดระหว่างวันที่ 17 ก.ย. – 16 ต.ค.
ราศีตุลย์ เกิดระหว่างวันที่ 17 ต.ค. – 15 พ.ย.
ราศีพิจิก เกิดระหว่างวันที่ 16 พ.ย.- 15 ธ.ค.
ราศีธนู เกิดระหว่างวันที่ 16 ธ.ค.- 15 มค.
ราศีมังกร เกิดระหว่างวันที่ 16 ม.ค.- 12 ก.พ.
ราศีกุมภ์ เกิดระหว่างวันที่ 13 ก.พ.- 12 มีค.
ราศีมีน เกิดระหว่างวันที่ 13 มี.ค.- 12 เม.ย.
ส่วนการดูดวงตามนิตยสารต่าง ๆ มักจะวางราศีกำเนิดแบบนี้ซึ่งเราทุกคนมักคุ้นเคยกันดีก็คือการคำนวนราศีเกิดแบบง่าย โดยใช้อาทิตย์กำเนิดหรือใช้วันเกิดของเรากำหนดราศีเกิด ซึ่งการทำนายแบบนี้ง่ายและสะดวก แต่ผลแม่นยำเพียง 5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
แต่ก็สะดวกสำหรับคนที่อ่านหนังสือพิมพ์ นิตยสาร หรือทำนายกันเล่นๆ เพราะหากคำนวนลัคนากันจริง ๆแล้วจะต้องคำนวนโดยใช้วิธีการสลับซับซ้อนยุ่งยาก มีหลายแบบอย่างที่จะได้อธิบายต่อไป
ข.ลัคนา หรือ Ascendant จำไว้ว่าลัคนานั้นละเอียดมากโดยมีวิธีการคำนวน สลับซับซ้อน โดยมีเงื่อนไขและองค์ประกอบดังนี้
เวลาเกิดหรือเวลาตกฟาก+วันที่เกิด+เดือนเกิด+ปีเกิด+จังหวัดหรือเมิองที่เกิด เมื่อข้อมูลครบจึงจะหาลัคนาได้
ในข้อนี้สรุปว่าดวงคนเรา 1 วันมี 12 ราศี แต่ข้อ ก.ข้างบน 1 ปีมี 12 ราศี ซึ่งทำผลการคำนวนดวงชาตาแบบลัคนากับราศีเกิดได้ผลละเอียดแตกต่างกันถึง 4380 เท่า (12 X 365 =4380)
และปัญหาหาของการหาลัคนาเองก็ยังแยกย่อยลงไปอีก ดังนี้.....
ปัญหาที่มักพบบ่อยก็คือ เวลาไปดูดวงกับหมอดูต่าง ๆ ทำไมบางครั้งลัคนาของแต่ละอาจารย์คำนวนออกมาแตกต่างกันเหตุผลก็คือ
การคำนวนดวงชาตาทางโหราศาสตร์ในเมืองไทย มีการใช้ปฏิทินที่แตกต่างกันอยู่ 2 ระบบ
1.ปฏิทินแบบสุริยาตร์(ไทย) มีการวางลัคนาโดยใช้หลากหลายแบบ เช่น
(1.1) วางลัคนาแบบอันโตนาทีสามัญ สมผุสอาทิตย์อุทัย
(1.2) วางลัคนาแบบอันโตนาทีสามัญ สมผุสอาทิตย์อุทัยเวลา 6.00 น. ไม่ตัดเวลาท้องถิ่น
(1.3) วางลัคนาแบบอันโตนาทีสามัญ สมผุสอาทิตย์อุทัยเวลา 6.00 น. ตัดเวลาท้องถิ่น
(1.4) วางลัคนาแบบอันโตนาทีสารัมภ์ สมผุสอาทิตย์อุทัย
(1.5) วางลัคนาแบบอันโตนาทีท้องถิ่น สมผุสอาทิตย์อุทัย
(1.6) วางลัคนาแบบพหินาที ไม่ตัดเวลาท้องถิ่น
(1.7) วางลัคนาแบบพหินาที ตัดเวลาท้องถิ่น ผลแต่ละข้อก็สามารถทำให้ลัคนาแตกต่างกันได้
2.ปฏิทินดาราศาสตร์ของลาหิรี ของภารตะะ(อินเดีย) วางลัคนาแบบเดียวก็คือโดยใช้เวลานักษัตร โดยใช้ปฏิทินดาราศาสตร์ขององค์การนาสา
ดังนั้นขึ้นอยู่กับว่าครูอาจารย์ที่ผูกดวงชาตามาจากสายไหน หากคำนวนแบบสายไทยสามารถคำนวนลัคนาได้มากถึง 7แบบและแต่ละแบบก็อาจให้ผลของลัคนาแตกต่างกัน
หากสมมุติดวงคุณลัคนาเป็นราศีกันย์ (คำนวนแบบไทย 1.1)หากเป็นสายอินเดียลัคนาก็อาจจะเปลี่ยนเป็นราศีตุลย์ก็ได้ (คำนวนแบบอินเดีย ข้อ2.)
เนื่องจากโหราศาสตร์ 2 ระบบนี้มีการทำนายและคำนวนดวงชาตาแตกต่างกัน อีกทั้งดวงดาวต่าง ๆในดวงชาตาก็จะมี องศา ลิปดา ราศี แตกต่างด้วยเช่นกัน ซึ่งเป็นเรื่องความแตกต่างของการคำนวน ซึ่งก็แล้วแต่ละอาจารย์จะใช้แบบไหน
หมายเหตุ-นอกจากนี้ก็ยังมีวิธีหาลัคนาสำหรับคนที่รู้วันที่เกิดแต่ไม่รู้เวลาเกิดจริงๆ ก็จะใช้ตำแหน่งของจันทร์กำเนิดในดวงชาตาของวันที่เกิดเป็นลัคนาแทน ซึ่งจะเรียกว่า ชนมราศี หรือ จันทรลัคน์ แทนคำว่า ลัคนา ซึ่งได้ผลดีพอสมควร
ปล.ภาพด้านบนเป็นวิธีหาลัคนาตามแบบ ข้อ ข. แบบคร่าวๆ (ไม่ตรงทีเดียวนัก)
หากต้องการทราบลัคนาจริงๆ ต้องใช้โปรแกรมคำนวนครับ
1.หาลัคนาแบบไทย (สุริยาตร) http://www.payakorn.com/lukana.php
2.หาลัคนาแบบดาราศาสตร์ (ลาหิรี-อินเดีย) http://www.payakorn.com/luk_lahiri.php