ในโหราศาสตร์พระเวท ดาวเสาร์หมายถึงความหวาดกลัว การเสื่อมเสียชื่อเสียง และความยากลำบากในชีวิต ซึ่งถ้าหากเรามองดาวเสาร์ด้วยมุมมองเชิงรูปธรรมเพียงแง่มุมเดียว จะเห็นว่าดาวเสาร์มีอิทธิพลในทางร้ายแทบทั้งสิ้น แต่สิ่งที่เราจะได้รู้ต่อไปนี้ ก็คือหน้าที่ของดาวเสาร์ที่กระทำต่อดวงชาตาของทุกๆคนโดยไม่มียกเว้น
นักโหราศาสตร์แทบทุกคนมักจะบอกกับคุณว่า ดาวเสาร์มักเป็นเหตุแห่งความทุกข์ยาก อุปสรรค ความล่าช้าหรือต้องรอคอยอย่างเนิ่นนานในทุกๆเรื่อง แต่ไม่ใช่หมายความว่าดาวเสาร์จะทำให้คุณไม่ได้รับอะไรเลย นั่นเป็นเพราะดาวเสาร์เป็นดาวที่โคจรเชื่องช้าที่สุดในบรรดาดาวเคราะห์ทั้ง 9 ดวง และดาวเสาร์ก็จะส่งอิทธิพลแห่งความเนิ่นช้านั้นไปยังทุกๆสิ่งที่ดาวเสาร์มีอิทธิพลครอบคลุมถึง
สำหรับทรรศนะของโหราศาสตร์พระเวท ดาวเสาร์ถือเป็นคุรุผู้ยิ่งใหญ่ เป็นครูแห่งทุกสรรพสิ่ง เพราะดาวเสาร์มีหน้าที่สร้างความทุกข์ยาก ความลำบากและอุปสรรคทุกๆอย่างให้กับเจ้าชาตา เพื่อให้เจ้าชาตาได้ตระหนักถึงความผิดพลาดของตนเอง และได้กลับตัวกลับใจหันไปสู่หนทางที่ถูกต้อง ดังนั้น ไม่ว่าดาวเสาร์จะเป็นเหตุให้เกิดความทุกข์ ความยากเข็ญให้เกิดกับชีวิตของใครก็ตาม นั่นก็แสดงว่ามันมีความหมายเป็นนัยลึกๆ เแฝงอยู่เบื้องหลังความทุกข์ยากนั้น และหากเราได้เข้าใจหน้าที่ของดาวเสาร์ในจุดนี้และพยายามเรียนรู้และแก้ไขความผิดพลาดของตน แน่นอนว่าผลแห่งความสำเร็จที่ดาวเสาร์จะประทานให้ ย่อมรออยู่เบื้องหน้าในอนาคต เว้นเสียแต่ว่าดาวเสาร์ได้มีโยคเกณฑ์สัมพันธ์ร่วมกับดาวบาปเคราะห์ดวงอื่น ผลจะกลับกลายเป็นให้โทษร้ายรุนแรง
แต่หากเป็นดาวเสาร์แต่เพียงดวงเดียวที่ให้โทษทุกข์อันใดแก่เจ้าชาตา สถานการณ์นั้นก็จะกลับกลายเป็นตัวนำและส่งเสริมให้เกิดผลดีและความสำเร็จให้กับเจ้าชาตาในอนาคตได้อย่างแน่นอน
ถ้าหากในพื้นดวงชาตามีดาวเสาร์ส่งโยคเกณฑ์ไปยังเรือนที่ 10 ไม่ว่าดวงนั้นจะมีโยคเกณฑ์ให้คุณอื่นๆมากมายเท่าใดก็ตาม ดาวเสาร์ก็จะยังคงให้โทษและสร้างอุปสรรคในชีวิตให้แก่เจ้าชาตาโดยไม่มีข้อยกเว้น อิทธิพลของดาวเสาร์จะส่งผลให้เกิดปัญหาและอุปสรรคในด้านการอาชีพของเจ้าชาตา เมื่อดาวเสาร์สถิตในเรือนที่ 10 หรือเรือนที่ 4 ในพื้นดวง หากเป็นเช่นนี้เจ้าชาตาจะต้องเผชิญอุปสรรคทั้งหลายในหน้าที่การงานตั้งแต่เริ่มต้นและจะต้องผ่านพ้นอุปสรรคทั้งหลายไปให้ได้ เพราะยังจะมีอีกหลายด่านที่เจ้าชาตาจะต้องฟันผ่า แต่หลังจากนั้นหากเจ้าชาตาได้ใช้ความมานะบากบั่นและอดทนต่อสู้กับอุปสรรคทั้งหลายจนผ่านพ้นไปได้ เจ้าชาตาก็จะค่อยๆได้รับความสำเร็จ ความแข็งแกร่งและความเชี่ยวชาญในสาขาอาชีพนั้นๆ แต่อุปสรรคข้างต้นมักจะเกิดขึ้นในช่วงระยะแรกของอาชีพการงาน และประสบการณ์ที่เจ้าชาตาได้เผชิญก็จะทำให้เจ้าชาตาแข็งแกร่งประดุจหินผายาม และเตรียมความพร้อมเมื่อจะต้องเผชิญกับอุปสรรคอื่นๆอีก ในอนาคตข้างหน้า
สำหรับเจ้าชาตาที่มีดาวเสาร์กุมลัคนา ดาวเสาร์ย่อมส่งเกณฑ์พิเศษ(วิเศษทฤษฎี)ไปยังเรือนที่ 10 เช่นกัน ดังนั้นผลสำเร็จที่ได้ย่อมไม่ต่างจากดาวเสาร์สถิตในเรือนที่ 10 หรือเรือนที่ 4 ตามที่ได้อธิบายข้างต้นมากนัก แต่โชคดีที่อุปสรรคและปัญหาของบุคคลที่มีดาวเสาร์ร่วมลัคน์ที่จะต้องเผชิญจะน้อยและเบาบางกว่ามาก
แต่สำหรับกรณีที่ดาวเสาร์สถิตในเรือนที่ 8 ดาวเสาร์ก็ย่อมส่งเกณฑ์ 3 (วิเศษทฤษฎี) ไปยังเรือนที่ 10 ด้วยเช่น แต่สำหรับในกรณีนี้ ตามหลักของโหราศาสตร์พระเวทถือว่าเป็นโยคร้าย โดยเจ้าชาตาจะต้องเผชิญกับอุปสรรคและความยากลำบากอย่างสาหัสสากรรจ์จึงจะสามารถสร้างความมั่นคงและความแน่นอนให้กับอาชีพการงานของตนได้ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นสายงานอาชีพใด เจ้าชาตาจะต้องเผชิญและเกิดความทุกข์กังวลเกี่ยวกับความมั่นคงในอาชีพการงานและรายได้อยู่เสมอๆ และถึงแม้ว่าเจ้าชาตาจะมีความสามารถและเชียวชาญในสายงานอาชีพมากเพียงใดก็ตาม เจ้าชาตาก็จะยังคงผิดหวังในอาชีพอยู่เสมอ เพราะดาวเสาร์ในเรือนที่ 8 ย่อมนำความอับโชคมาสู่เจ้าชาตา
ในระบบมหาทศาเสวยอายุ ดาวเสาร์เป็นการกประจำ(ตัวแทน)ของการงานและอาชีพ และเมื่อดาวเสาร์เข้าเสวยอายุในมหาทศา โดยไม่ต้องคำนึงว่าดาวเสาร์ในพื้นดวงจะมีความสัมพันธ์หรือมีโยคเกณฑ์กับเรือนที่ 10 (กรรมะ)หรือไม่ หากดาวเสาร์ในพื้นดวงไม่ให้คุณ เจ้าชาตาก็จะต้องเผชิญวิกฤตการณ์สำคัญเกี่ยวกับหน้าที่การงานและการอาชีพของเจ้าชาตา แต่หากดาวเสาร์ให้คุณในพื้นดวง เหตุการณ์จะกลับเป็นตรงข้าม เจ้าชาตาก็จะได้รับผลประโยชน์และความสำเร็จในด้านการอาชีพ ในช่วงปลายทศาของเสาร์ โดยเฉพาะในช่วงอนุทศาของดาวพฤหัส
โยคของดาวเสาร์ที่ส่งผลต่อดาวเคราะห์อื่นๆ เห็นจะไม่มีคู่พระเคราะห์ไหนจะอันตรายเท่ากับ ดาวเสาร์กับอาทิตย์ อันเนื่องมากจากพระเคราะห์คู่นี้เป็นคู่ศัตรูซึ่งกันและกันตามธรรมชาติ และหากเรือนที่ 10 ในพื้นดวงชาตาได้รับโยคทรรศนสัมพันธ์จากดาวเสาร์ร่วมอาทิตย์ ถือว่าเป็นโยคร้ายให้โทษแก่การงานและอาชีพของเจ้าชาตา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่ดาวเสาร์มีอิทธิพลเหนือดาวอาทิตย์ เช่น ดาวอาทิตย์สถิตร่วมลัคนาหรือเรือนที่ 10 และได้รับเกณฑ์ของเสาร์ ไม่ว่าจะเป็นโยค เกณฑ์ ร่วม เล็ง เจ้าชาตาก็จะต้องประสบกับความวิบัติด้านอาชีพหน้าที่การงานอย่างน้อย 1 ครั้งในชีวิต และจะส่งผลกระทบต่อชื่อเสียง ความน่าเชื่อถือในสังคมของเจ้าชาตาอีกด้วย
จุดที่ต้องพิจารณามากที่สุดก็คือ ความหายนะของอาชีพการงานของเจ้าชาตาจะเกิดขึ้นเมื่อดาวเสาร์จรทับอาทิตย์เดิมของเจ้าชาตา แต่สำหรับช่วงทศาของอาทิตย์ หรือเสาร์ เสวยอายุอาจจะไม่สำคัญเท่ากับผลของดาวเสาร์ในทางจร
แต่หากพื้นดวงของเจ้าชาตามีความเข้มแข็ง ด้วยมีโยคเกณฑ์พิเศษจากดาวเคราะห์ดวงอื่นๆ และมีกำลังเพียงพอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมีกำลังของดาวเจ้าเรือนลัคนา และเจ้าเรือนที่ 10 หากมีความเข้มแข็ง หรือทั้งสองเป็นโยคต่อกัน ก็ย่อมที่จะปกป้องเจ้าชาตาให้พ้นจากความวิบัติด้านอาชีพได้บ้างไม่มากก็น้อย และอาจจะช่วยให้เจ้าชาตาสามารถฟื้นฟูกิจการหรือกอบกู้หน้าที่การงานกลับคืนมาได้ดังเดิม ภายในเวลาไม่นาน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความเข้มแข็งของเจ้าเรือนลัคน์และเจ้าเรือนที่ 10 ว่ามีกำลังมากหรือน้อยเพียงใด
สำหรับการพิจารณาในทางจร และจุดที่ต้องให้ความสำคัญมากที่สุดก็คือในขณะที่ดาวเสาร์จร โคจรผ่านเรือนที่ 10 ที่ 4 และที่ 8 ในพื้นดวงชาตา โดยขณะที่เสาร์โคจรผ่านเรือนที่ 4 หรือที่ 10 ดาวเสาร์จะนำความเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่มาสู่เจ้าชาตา บางคนก็อาจจะต้องเปลี่ยนแปลงโยกย้ายที่อยู่ การเดินทางไปต่างประเทศ หรือเปลี่ยนแปลงหน้าที่การงานในช่วงนี้ นอกจากนี้เจ้าชาตาจะต้องเผชิญกับอุปสรรคและความวิตกกังวลใจเกี่ยวกับอาชีพ หน้าที่การงาน ได้รับแรงกดดันจากผู้บังคับบัญชา ขาดประสิทธิภาพในการทำงาน และการไม่ได้รับการยอมรับจากเพื่อนร่วมงาน หรือบางคนอาจจะต้องผิดหวังจากการเลื่อนตำแหน่ง
แต่สำหรับเสาร์จรในเรือนที่ 8 ก็จะเกิดปัญหาทุกอย่างที่ได้กล่าวมาข้างต้น แต่ความรุนแรงของปัญหาจะมีมากกว่าและเป็นปัญหาที่เจ้าชาตาไม่สามารถเอาชนะหรือแก้ไขเปลี่ยนแปลงใดใดได้เลย
และอีกกรณีสำหรับดาวเสาร์จรในเรือนที่ 10 ซึ่งถ้าหากดาวเสาร์จรร่วมกับราหูหรือเกตุจรในเรือนนี้ ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นก็จะยิ่งเลวร้ายลงไปอีก เว้นแต่ว่าหากเสาร์ได้รับมุมสัมพันธ์หรือโยคจากดาวพฤหัสจรที่มีกำลังเท่านั้นจึงจะพอช่วยเหลือเจ้าชาตาให้พ้นภัยนี้ได้
ดังที่กล่าวมานี้สิ่งต้องพิจารณาร่วมด้วยก็คือจะต้องดูจากเสาร์ในพื้นดวงเดิมเป็นหลักว่ามีกำลังหรือไม่ หรือให้คุณให้โทษมากหรือน้อย หรือได้รับโยคเกณฑ์จากดาวศุภเคราะห์หรือไม่ หรือเป็นเจ้าเรือนทุสถานะหรือไม่ หากเสาร์ในพื้นดวงให้โทษ การโคจรในทางจรย่อมเป็นโทษมากเป็นเท่าตัวและหากเสาร์ในพื้นดวงเดิมให้คุณ การโคจรในทางจรก็ย่อมให้คุณมากกว่าให้โทษหรือให้โทษแล้วกลับกลายเป็นคุณในภายหลัง
