Website แห่งแรกและแห่งเดียวในเมืองไทย ที่ให้บริการฤกษ์ยามชั้นสูงของโหราศาสตร์ภารตะจากคัมภีร์พระเวทของพราหมณ์อันศักดิ์สิทธิ์ และได้ผลตอบรับดีสูงสุดเป็นปีที่ 15 แล้ว WebSite ของเราให้การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในระดับสูงสุด ด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงจากยุโรป "SiteGuarding" บริการดูฮวงจุ้ย แก้ฮวงจุ้ย เสริมฮวงจุ้ย ด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปี***

Sun in Vedic Astrology 81K

ความหมายและอิทธิพลของดาวอาทิตย์ ในโหราศาสตร์พระเวท ตอนที่ 1

โหราศาสตร์พระเวทมีพื้นฐานมาจาก ดาวเคราะห์ทั้ง 9 เรือน(ราศี)ทั้ง 12 ราศี, วรรคทั้ง 16 วรรค  และ นักษัตรทั้ง 27 หรือกลุ่มดาวฤกษ์ ในผลงานด้านโหราศาสตร์ชิ้นเอกของท่านมหาฤษี ปะราสาระมุนี คือ คัมภีร์ ปะราสาระ พฤหัต โหรา ศาสตรา กล่าวไว้ว่า ดาวเคราะห์ทั้ง 9 ดวงทั้งหมดคืออวตารของพระวิษณุ เพื่อที่จะส่งผลกรรมดี กรรมชั่วหรือวิบากให้กับเจ้าชะตา 

 ดังนั้น ดาวเคราะห์ทั้ง 9 ที่สถิตในตำแหน่งใดใดในดวงชะตา ซึ่งจะทำให้เกิดโยคดี-ร้ายในดวงชะตา ก็เป็นไปตามกรรมแต่ละประเภทจากการสร้างกรรมของเจ้าชะตาในชาติที่แล้ว ส่วนโยคดีหรือโยคร้ายที่ปรากฏอยู่ในดวงชะตาจะส่งผลเมื่อใด  ระบบทศาเสวยอายุของดาวเคราะห์นั้นๆ ก็จะสามารถบ่งบอกได้ว่าเมื่อใดจึงจะต้องเสวยกับผล(กรรม)ดี-ร้ายจากโยคเหล่านั้น

ในโหราศาสตร์พระเวท ถือว่าดาวอาทิตย์หรือ "สูริยา ครหะ ถือเป็น "ครหะปติ" หรือประธานของดาวเคราะห์ทั้งหมด และมีความสำคัญสูงสุด ในทุกๆดวงชะตาส่วนความหมายและอิทธิผลของดาวอาทิตย์ มีดังต่อไปนี้...

ชื่อ – สุริยา

เพศ – ชาย

เกษตร – สิงห์ (20-30 องศา)

ปรมอุจน์ – ราศีเมษ 10 องศา

ปรมนิจ – ราศีตุลย์ 10 องศา

มูลตรีโกณ – ราศีสิงห์ (1-20 องศา)

อัญมณี – ทับทิม

โลหะ – ทองแดง

สี – แดง

ธาตุ – ไฟ

จักระ – มณีปุระ

ทิศทาง – ทิศใต้

ตันมาตรา – รูป-การมองเห็น

(**หมายเหตุ)ตันมาตรา (तन्मात्र) — คุณสมบัติ 5 ประการของมหาภูตที่แสดงออกมาอย่างละเอียดอ่อนในจิตใจ ได้แก่ เสียง สัมผัส รูป รส และกลิ่น

ธาตุ – กระดูก

ประเภท – มูละ

(**หมายเหตุ)ประเภทที่ดาวเคราะห์ต่างๆควบคุมมี 3 ประเภท คือ (1)ธาตุคือสิ่งที่ไม่มีชีวิต เช่นแร่ธาตุ (2)มูละคือสิ่งที่มีชีวิตแต่ไม่ใช่มนุษย์ เช่น ต้นไม้   และ(3)ชีวะคือสิ่งที่มีชีวิตและมนุษย์ เช่นสัตว์ คน

เวลา – อายัน (6 เดือน) อุตตรายัน-ทักษิณายัน

ทฤษฎี(โยคเกณฑ์) – ส่งกำลังไป 100% ไปยังเรือนที่ 7 จากตำแหน่งที่ดาวอาทิตย์สถิตย์

รัศมี – 10

คุณะ – สัตตวะ (แสงสว่าง ความดี ความสุข สีขาว)

(**หมายเหตุ)คุณะของประกฤติ มีไตรคุณคือ มีคุณสมบัติ 3 อย่างคือ

1.สัตตวะ เป็นแสงสว่าง ความดี ความสุข มีสีขาว

2.รชะ คือบ่อเกิดของความผิดพลาด ความทุกข์ เร่าร้อน ทรมาน มีสีแดง

3.ตมะ เป็นความมือ โงเขลา งมงาย ความหนัก มีสีดำ

ที่อยู่ – วัด โบสถ์ วิหาร

สถานะ – กษัตริย์

อาหาร – ข้าวสาลี

คัมภีร์ประราสาระโหราศาสตรา กล้าวว่าระบุว่าสุริยะเทพมีรูปร่างหัวโล้น เรียบและร่างกายเป็นทรงสี่เหลี่ยม ผมสีน้ำตาล ตาสีน้ำผึ้ง มองเห็นได้ชัดเจน สะอาด บริสุทธิ์ และฉลาด สุริยะเทพถือดอกบัวไว้ในมือทั้งสองข้างเพื่อสร้างแสงสว่าง และเป็นศัตรูของความมืด โดยเดินทางบนรถม้า 7 ตัวซึ่งเป็นตัวแทนของ 7 ฉันทลักษณ์ในภาษาสันสกฤตสำหรับการท่องคัมภีร์พระเวท

ดาวอาทิตย์มีอำนาจยิ่งใหญ่และทรงพลัง เช่น ดาวอาทิตย์เป็นอุจน์ หากสัมพันธ์กับเรือนที่ 8 จะทำให้เจ้าชะตามีพลังจิตที่สามารถมองเห็นในสิ่งที่เหนือธรรมชาติ หรือที่เรียกว่า "ทิพยจักขุ" หรือการมองเห็นที่พิเศษเหนือคนธรรมดา ดาวอาทิตย์สถิตในตำแหน่งที่ดีทำให้เจ้าชะตามีปัญญา ฉลาดหลักแหลม ความมั่นใจในตนเอง ความมุ่งมั่นและความตั้งใจให้กับเจ้าชะตา และทำให้เจ้าชะตามีความอ่อนน้อมถ่อมตนมาก

ในขณะที่ในดวงชะตา มีดาวอาทิตย์ให้โทษจะทำให้เจ้าชะตามีอารมณ์ฉุนเฉียวและโกรธง่าย มีอัตตาทิฐิสูง ขาดความมุ่งมั่น และชอบแสดงอำนาจบาตรใหญ่ และยังทำให้เจ้าชะตาเป็นคนเจ้าชู้และและเป็นหลงใหล หมกมุ่นในอะไรได้ง่ายๆ มีโรคประจำตัว คือ ปวดศีรษะ กระดูกเปราะ หัวใจอ่อนแอ

และโทษที่เกี่ยวข้องกับความร้อนหรือปิตตะ(ในอายุเวช) ปิตตะ (ธาตุไฟ) มีคุณสมบัติร้อน เผาผลาญ เข้มข้น รุนแรง มีกลิ่นแรงโดยลักษณะทั่วไป น้ำหนักปานกลาง หิวเก่ง กินจุ แต่ควบคุมน้ำหนักได้ เป็นผื่นง่าย ขี้ร้อน เหงื่อมาก โรคประจำตัวคือ ร้อนใน แผลในปาก โรคกระเพาะอาหาร ท้องเสีย ความดันโลหิตสูง ผื่นแพ้ อักเสบ และแสบคันเป็นเรื่องปกติสำหรับผู้ที่ทุกข์ทรมานจากดาวอาทิตย์ที่ให้โทษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อดาวอาทิตย์สัมพันธ์กับลัคนา

ลักษณะที่ให้คุณของดาวอาทิตย์ในดวงสตรี ทำให้เป็นคนมีมิตรภาพและความสัมพันธ์ที่ดีกับคนทั่วไป นอกจากนี้ความหมายของดาวอาทิตย์ตามธรรมชาติ คือหมายถึง บิดา พ่อ และธรรมะหรือศาสนา ดาวอาทิตย์ที่ให้คุณทำให้เจ้าชะตาเคร่งศาสนา ในขณะที่ดาวอาทิตย์ให้โทษจะทำให้เจ้าชะตากลายเป็นคนหน้าซื่อใจคด หรือเป็นคนประเภทมือถือสากปากถือศีล