ถ้าต้องการแก้ดวงเปลี่ยนชะตา ต้องเริ่มที่ปากก่อน เป็นอันดับแรก
สิ่งหนึ่งซึ่งสามารถสะท้อนดวงชะตาได้อย่างชัดเจนมากที่สุด โดยไม่ต้องไปดูหมอ ดูดวง แต่ให้ดูที่ “ปาก” หรือคำพูด เพราะปากหรือคำพูด เป็นสิ่งที่สะท้อนความคิดหรือความในใจออกมา ให้เห็นเด่นชัดเป็นรูปธรรมมากที่สุด โดยเฉพาะในทางโหราศาสตร์ ”ปาก” หมายถึงเรือนที่ 2 ของเรือนชะตา เรียกว่าเรือน กดุมภะ ซึ่งเป็นเรือนที่เกี่ยวข้องกับการเงิน และครอบครัว โดยเฉพาะ
ทำไมบางคนชีวิตราบรื่นไม่มีอุปสรรคทั้งชีวิตตั้งแต่เกิดจนตาย ล้วนดำเนินไปตามแนวทางที่ควรจะเป็นไปตามลำดับ เช่น เรียนจบ แล้วทำงาน แล้วแต่งงาน แล้วก็มีลูก ตามลำดับของชีวิต อีกทั้งสามารถสร้างฐานะสร้างครอบครัวจนมั่นคงได้ตั้งแต่อายุยังน้อย โดยไม่มีอุปสรรค หรือ มรสุมชีวิต ใดใดมาขวางกั้นให้สะดุดอยู่ ณ จุดใดจุดหนึ่ง
แต่ในทางกลับกันคนบางคน มีอุปสรรคทั้งชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการเรียนก็สะดุด ไม่ว่าจะเป็นด้านการงานก็เปลี่ยนงานอยู่เสมอ ส่วนด้านความรักคู่ครองก็ต้องเลิกร้างกันไป หรือไม่ก็เปลี่ยนคู่ไปเรื่อยๆ จนไม่อาจจะสร้างครอบครัวและลงหลักปักฐานหรือตั้งตัวได้เลย เพราะมีอุปสรรคมาขวางกั้นเสมอๆ บางคนจนตายก็ต้องอยู่โดดเดียว ยากไร้ ไร้ญาติขาดมิตร ไร้ผู้สืบสกุล ทั้งหมดนี้ สามารถพยากรณ์ได้จากเรือนที่ 2 ของดวงชะตา หรือไม่ก็ดูจาก “ปาก” หรือ คำพูด” ของคนๆนั้น
สำหรับในวิธีการพยากรณ์ดวงชะตาในเรื่องนี้ให้ดูที่เรือนที่ 2 (กดุมภะ-การเงิน) จากลัคนา และเกณฑ์จากเรือนกดุมภะ(การเงิน) คือ เรือนที่ 8 (มรณะ-ปัตนิของเรือนการเงิน) เรือนที่ 5 (ปุตตะ-พันธุของเรือนการเงิน) เรือนที่ 11 (ลาภะ-กรรมะของเรือนการเงิน) และเรือนตรีโกณของเรือนการเงิน คือเรือนที่ 6 (อริ-ปุตตะของเรือนการเงิน) และเรือนที่ 10 (กรรมะ-ศุภะของเรือนการเงิน) ของดวงชะตา ทำไมจึงต้องเรือนเหล่านี้ประกอบในการดูเรือนที่ 2 เพราะว่าเรือนต่างๆเหล่านี้คือเรือนเกณฑ์และเรือนตรีโกณจากเรือนที่ 2 เมื่อพิจารณาครบทั้งหมดทุกเรือน ความหมายของเรือนที่ 2 จึงจะแจ่มชัดให้รายละเอียดได้ครบทุกแง่ทุกมุม
เพราะเกณฑ์จากเรือนกดุมภะแสดงถึงความมั่นคงของเรือนการเงิน และเรือนตรีโกณจากเรือนกดุมภะแสดงถึงการมีผู้อื่นหรือสิ่งอื่น มาสนับสนุนให้เรือนการเงินรุ่งเรืองมากขึ้น แต่การพิจารณาความหมายก็คล้ายๆกัน ตัวอย่างเช่น
เรือนเกณฑ์ คือเรือนที่ 8 ของดวงชะตาก็คือเรือนปัตนิของเรือนการเงิน ดูว่าการเงินมาจากคู่ครองหรือหุ้นส่วนหรือไม่ ,เรือนที่ 5 ปุตตะ-คือพันธุของเรือนการเงิน พันธุก็คือพื้นฐานการเงินดั้งเดิมของครอบครัว ว่ามีพื้นฐานดีหรือไม่ เช่นเป็นลูกเศรษฐีหรือยาจก หรือไม่ก็หมายถึงสถานที่ๆทำให้ได้เงินมา ส่วนเรือนที่ 11 ก็คือเรือนที่ 10 กรรมะของเรือนการเงินซึ่งเป็นตัวตัดสินว่าการเงินมั่นคงแค่ไหน ได้มายากหรือง่าย ได้มาน้อยหรือมาก
ส่วนเรือนตรีโกณของเรือนการเงิน คือเรือนอุปถัมภ์ซึ่งมีอยู่ 2 เรือน คือเรือนที่ 6 อริ-ปุตตะของเรือนการเงิน ก็ดูว่าได้เงินมาจากลงทุนอะไร หรือเสี่ยงโชค หรือ และเรือนที่ 10 กรรมะ-ศุภะของเรือนการเงินก็ดูว่า การเงินได้มาจากทางไกล ต่างประเทศ หรือในประเทศ ซึ่งรวมไปถึงชื่อเสียงด้านการเงิน เครดิตด้านการเงิน และจะมีคนอุปถัมภ์หรือไม่ก็ดูจากสองเรือนนี้ ฯลฯ
ส่วนผู้ที่ไม่รู้โหราศาสตร์ ก็สามารถพิจารณา ความรุ่งเรืองและตกต่ำ อุปสรรค ทางด้านการเงินและครอบครัวของคนใกล้ตัวได้จากคำพูดของคนๆนั้น ที่มักพูดจนติดนิสัย เช่น ชอบพูดโกหก หยาบคาย อยู่เสมอและเป็นประจำก็แสดงว่าเส้นทางที่มาของเงินของคนๆนั้น ไม่ราบรื่นนัก และเงินที่ได้มามักจะเป็นเงินไม่บริสุทธิ์
และหากเป็นคนพูดจาโผง ผาง อารมณ์รุนแรง คำพูดแฝงไปด้วยคำโกรธ เงินที่ได้มามักเก็บไม่อยู่ ครอบครัวร้าวฉาน ต้องแต่งงานมากกว่า 1 ครั้ง ลูกหลานไม่เชื่อฟัง อาชีพการงานมักไม่มั่นคง
ส่วนคนที่ชอบพูดขัดคอคนบ่อยๆ หรือ พูดชอบโต้แย้งแบบไร้เหตุผล ใครพูดอะไรมา ก็มักจะพูดสวนไปทางตรงข้ามอยู่เสมอ จนเพื่อนๆระอาใจ คนแบบนี้มักชอบ คุยโว โอ้อวด คิดว่าคนเหนือกว่าคนอื่นเสมอ ทั้งๆที่ตัวไม่มีดีอะไร ทำให้เกิดอุปสรรคด้านการเงินเสมอๆ ไร้ผู้สนับสนุนด้านการงาน การเงิน ทุกอย่างต้องทำคนเดียวตลอด จะได้เงินอยู่แล้วก็จะมีคนมาคอยขัดลาภ จนไม่ได้เงิน หรือไม่ก็ได้เงินมาแล้ว ก็มีเหตุจำเป็นให้ต้องใช้จนหมด
ส่วนคนที่ชอบติฉินนินทาคน เอาเรื่องคนอื่นไปพูด ใส่ร้าย เพราะอิจฉาตาร้อน ทำให้ชีวิตครอบรัวมีอุปสรรค ลูกหลานไม่เชื่อฟัง การเงินติดขัดอยู่เสมอๆ จนต้องหยิบยืมคนอื่น เป็นหนิ้สินล้นพ้นตัว
ส่วนคนที่ชอบพูดมาก พูดไม่หยุด จะทำให้เก็บทรัพย์ไม่อยู่ เพราะปากคือขุมทรัพย์อย่างหนึ่ง เวลาพูดมากๆ ลมปากก็นำพาทรัพย์ออกไปจนหมด มีเงินเท่าไหร่ มากมายแค่ไหน ก็มีเหตุให้ใช้เงินจนหมด
ในทางกลับกัน บางคนพูดจาไพเราะอ่อนหวาน นอบน้อม ไม่ยกตนข่มท่าน ไม่โกหก มีสัจจะวาจา ใครพูดอะไรมาก็ไม่ขัดคอขัดใจ และชอบรับปากช่วยเหลือผู้อื่น ใครขอให้ทำอะไรก็มักจะตอบว่า "ได้" อยู่เสมอ คนๆนี้ทั้งการเงินและครอบครัวจะมั่งคั่งรุ่งเรือง ชีวิตจะมีอุปสรรคน้อย หรือ หากมีอุปสรรคอะไรก็จะมีคนมาช่วยเหลืออยู่ตลอด
ทั้งหมดนี้ล้วนแล้วมาจาก "ปาก" เพราะ"คำพูด"เป็นตัวกำหนดดวงชะตา ให้ดี เลว หยาบ ปราณีต ราบรื่น หรือ มีอุปสรรค ก็ให้ดูจากตรงนี้ ดังโบราณมักมีสุภาษิตคำพังเพยเกี่ยวกับปากเอาไว้จำนวนมาก เป็นต้นว่า พูดดีเป็นศรีแก่ปาก ปลาหมอตายเพราะปาก พูดไปสองไพเบี้ยนิ่งเสียตำลึงทอง ปากกัดตีนถีบ ปากปราศรัยใจเชือดคอ ปากหวานก้นเปรี้ยว ปากหอยปากปู กินอยู่กับปาก อยากอยู่กับท้อง ฯลฯ
หรือไม่ก็เป็นกลอนของท่านสุทรภู่ กวีเอก แต่งไว้ว่า "อันอ้อยตาลหวานลิ้นแล้วสิ้นซาก แต่ลมปากหวานหูไม่รู้หาย แม้นเจ็บอื่นหมื่นแสนจะแคลนคลาย เจ็บจนตายเพราะเหน็บให้เจ็บใจ"
จะว่าไปแล้ว ปาก เป็นทั้งตัวแสดงออกถึง วจีกรรม อย่าเดียวก็ไม่เชิง มันรวมถึง กายกรรม+มโนกรรมด้วย ด้งนั้น ปาก หรือ วาจา นั้นมีสำคัญอยู่ที่ตรงนี้แหละ การแก้ดวงก็คือการแก้พฤติกรรม แก้พฤติกรรมให้เริ่มจากปากก่อนก็คือ มีปิยะวาจา มีสัจจวาจา มีมธุรสวาจา ไม่เป็นผู้พูดเพ้อเจ้อ วาจาที่หยาบคาย กล้าแข็ง เดือดร้อนผู้อื่น เสียดสีผู้อื่น มีความโกรธ ยุยงคนทั้งหลายผู้สามัคคีกันให้แตกกัน ผลย่อมทำให้การเงินวิบัติฉิบหายอย่างรุนแรง
ดั้งนั้นการเปลี่ยนแก้ไขดวงชะตา ด้านการเงิน ต้องแก้ที่รากฐานซึ่งก็คือ"ปาก" ไม่ใช่ไปเปลี่ยนชื่อ หรือ ทำพิธีกรรมสะเดาะห์เคราะห์ต่อชะตา เสริมดวง เพราะได้ผลน้อย เป็นการแก้ที่ปลายเหตุ จึงไม่ค่อยได้ผล แต่ต้องแก้ที่ต้นเหตุซึ่งก็คือ ปาก วาจา คำพูด จึงจะได้ผลเต็มร้อย ให้ลองทำดูเพียง 3-6 เดือน ชีวิตด้านการเงิน ชีวิตครอบครัวจะเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด