ดูดวงกับคำถามยอดฮิต “เมื่อไหร่จะรวย”
ทุกๆท่านรู้ไหมครับว่าคนเราเกิดมาทำไม ทำไมจึงต้องเกิดมา แล้วตายแล้วเราจะต้องไปไหน ตายแล้วสูญ หรือตายแล้วเกิดใหม่ ทุกๆวันเราตื่นขึ้นมาต้องก็ทำมาหากินเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง แสวงหาเงินทอง ทรัพย์สิน ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข อย่างไม่วันจบสิ้น ส่วนคนหาเช้ากินค่ำก็หวังว่าวันหนึ่งจะได้เป็นเศรษฐีร่ำรวยมีกินมีใช้โดยไม่ต้องทำงาน
แต่มหาเศรษฐีหลายคนยังต้องตื่นมาทำงานแต่เช้า วาดฝันโครการแสนล้าน ทำงานหนักหาเงินแบบไม่มีวันเกษียณ แม้อายุจะเกิน 80 ก็พยายามสร้างโครงการไว้ราวกับจะอายุยืนหมื่นๆปี
คนจนก็คิดว่าจะรวยแล้วสบาย เงินจะแก้ไขปัญหาได้ทุกๆอย่าง แต่ผมดูดวงและให้คำปรึกษาเศรษฐี มหาเศรษฐีหลายๆคนมาหลายสิบปี แม้จะมีเงินทองมากมายแต่ก็ยังทุกข์อยู่ ยังร้องไห้มาผมเป็นประจำ
แต่ขอให้ทุกคนรู้ไว้ว่า รวยแล้วไม่ใช่จะหมดทุกข์ ความทุกข์มันกัดกินใจทุกๆคนตลอดทุกลมหายใจ ทุกชนชั้นวรรณะไม่ว่ามั่งมีหรือยาจก ราชามหาเศรษฐีล้วนแต่มีความทุกข์ไม่ต่างจากคนหาเช้ากินค่ำเลยแม้แต่น้อย ยิ่งรวยมากกลับจะยิ่งทุกข์มาก แถมทุกข์เพราะเรื่องเงินเป็นหลักเสียด้วย แต่รายละเอียดจะไม่ขอเล่า ณ ที่นี้
คนเราตอนจนก็อยากรวย พอรวยก็อยากมียศ พอมียศก็อยากมีอำนาจ พอมีอำนาจก็อยากมีชื่อเสียง และอยากให้มีคนยอมรับ นับถือ ให้ความเคารพ และต้องการให้มันมีมากยิ่งขึ้นๆ ไป จนเมื่อได้ทุกอย่างพร้อม ก็อยากให้มันคงอยู่ตลอดไป ไม่อยากสูญเสียมันไป ที่คือความจริงของมนุษย์ทุกๆคน
เวลาคนมาดูดวงกับผม ไม่ว่าจะเป็นคนจนหรือคนรวย คำถามแรกที่เจอทุกรายก็คือเมื่อไหร่จะรวย ถ้าคนจนถามมันก็สมเหตุสมผล แต่คนรวยถามมันก็ต้องมีเหตุผลของมัน
ผมก็ถามกลับว่า ความรวยของคุณ คืออะไร ต้องมีเงินเท่าไหร่คุณถึงคิดว่าจะรวย แต่กลับไม่มีใครตอบได้ชัดเจนสักราย บางคนบอกว่ามี10 ล้านก็พอแล้ว บางคนบอก 100 ล้าน บางคนบอกอยากได้ 1000 ล้าน
ผมก็ตอบกลับไปว่า คนมีเงิน 10 ล้าน 100 ล้าน 1000 ล้าน ก็เคยมาหาผมแล้วก็ถามคำเดียวกันว่าเมื่อไหร่จะรวย หรือไม่ไหร่จะสบาย หรือมีมากกว่านี้ เพราะทุกวันนี้ก็ยังทุกข์อยู่เหมือนเดิม เหมือนตอนจนนั่นแหละ หรือไม่ก็ทุกข์มากกว่าตอนจนเสียอีก เพราะต้องทำงานหนักกว่าเดิม คิดมากกว่าเดิม มีเวลาให้กับตัวเองและครอบครัวน้อยกว่าเดิม ต้องอดหลับอดนอนไม่ต่างกับคนหาเช้ากินค่ำ
ภาพลักษณ์ของความรวยในใจของทุกๆคน คือมีรถหรู อยู่บ้านหลังใหญ่ กินอาหารแพงๆ ไปเที่ยวต่างประเทศ มีกิจการมากมายใหญ่โต มีลูกน้องข้าทาสบริวารมากมาย โดยไม่ต้องทำอะไร แต่ความจริงนี่คือภาพลวงตาของคนรวยคนหนึ่งในช่วงใดช่วงหนึ่งของชีวิตเท่านั้น หลอกทั้งตัวเองและหลอกทั้งสังคม
ภาษิตจีนกล่าวไว้ว่า ฟู่ปู๋กั้วซานไต้ 富不过三代 แปลว่า ความมั่งคั่งร่ำรวยสืบทอดได้ไม่เกิน 3 ชั่วคน แต่บางรายแค่1ชั่วคนก็หมดแล้ว หากรวย มีเงิน มีชื่อเสียง แล้วจะไม่ทุกข์ แล้วทำไมเราจึงเห็นข่าวคนดัง คนรวย คนมีชื่อเสียง ฆ่าตัวตายอยู่เป็นประจำ แล้วคนรวยบางคนก็ต้องติดคุก เพราะรวยแบบไม่ถูกต้อง บางคนก็ธุรกิจล้มเหลว สิ้นเนื้อประดาตัว ภายในไม่กี่ปี จนไม่มีอะไรเหลือสืบทอดไปยังลูกหลาน หรือบางรายสมบัติมาก ลูกหลานผลาญสมบัติ หรือไม่ก็แย่งสมบัติกันสุดท้าย ความมั่งคั่งก็สืบไปไม่ถึงรุ่นที่ 2
ทั้งหมดนี้คือความจริง ที่เราถูกมอมเมาให้หลงใหลมาตลอด ให้อยากรวย โดยไม่คิดถึงวิธีการ หรือไม่ก็ใช้วิธีรวยทางลัด จนสุดท้ายก็ไปไม่รอด
เงินทองนั้นหากมาได้ด้วยความสุจริตและยากลำบาก ด้วยหยาดเหงื่อแรงงานของเรา เงินก้อนนั้นแหละจึงจะเป็นทรัพย์แท้ และบริสุทธิ์ โจรไม่สามารถขโมยเอาไปได้ ใครก็โกงเงินก้อนนี้ไปไม่ได้ และความสุจริตนี่เองสามารถทำให้เงินก้อนนี้งอกเงยขึ้นมาได้ ขึ้นมาพันเท่าทวีคูณ
หากใครหาเงินมาด้วยความทุจริต ทำนาบนหลังคน เงินสกปรกแบบนี้ เก็บอยู่ได้ไม่นานก็ต้องพินาศไป หรือเก็บเงินไม่ค่อยอยู่ ดังนั้นคนที่เก็บเงินอยู่กับคนเก็บเงินไม่อยู่ก็มาจากสาเหตุนี้แหละ
เช่น เราก็มักจะเห็นข่าวคนโดนโกงเงิน โดนหลอกเงินทีละมากๆ เอาเงินไปทำธุรกิจแล้วเจ๊ง ส่วนมากก็เป็นเพราะที่มาของเงินมันไม่สุจริต เพียงแต่เราไม่รู้ว่าเขารวยเพราะอะไร บางทีเขามีธุรกิจทำเพื่อบังหน้า ทำให้เราเข้าใจว่าเขาสุจริต
แต่หากคนหาเงินโดยสุจริตแต่โดนโกง ส่วนมากแล้วมักจะได้คืนมา หรือได้มาจากทางอื่นๆอีกหลายทาง จนสามารถชดเชยความสูญเสียได้หมดหรือได้มากกว่าเดิมด้วยซ้ำ
สุภาษิตจีนโบราณกล่าวว่า人无横财不富,马无夜草不肥 “เหริน อู๋ เหิง ไฉ ปู๋ ฟู่ - หม่า อู๋ เย่ เฉ่า ปู้ เฝย” คนเรานั้นหากไม่หาเงินในทางมิชอบก็ไม่มีทางรวย ม้าหากไม่กินหญ้าเพิ่มในตอนกลางคืนก็มีทางไม่อ้วนพี
ความหมายของ 横财 เหิงไฉ แปลว่า ทรัพย์ในแนวขวาง (ติรัจฉานทรัพย์) อาจจะแปลว่า ลาภลอยก็ได้ รายที่ได้มาแบบพิเศษไม่ใช่รายได้แบบปกติ รายได้จากการเสี่ยงโชค ถูกหวยการพนัน หรือไม่ก็ทรัพย์ได้โดยมาในทางมิชอบ หรือโดยทุจริต
คำว่า”ม้าไม่กินหญ้าตอนกลางคืน ก็ไม่ก็ไม่อ้วนพี” 夜草เย่เฉ่า แปลว่า ให้ม้ากินหญ้าเพิ่มในช่วงกลางคืน เพิ่มจากตอนกลางวัน ทำม้าอ้วนพี แต่อีกสำนวนหนึ่งใช้คำว่า 野草 เหย่เฉ่า แปลว่า หญ้าป่า หมายความว่า หญ้าป่า เป็นพันธ์ที่ขึ้นอยู่ในป่า มีความอุดมสมบูรณ์ มีแร่ธาตุ ทำให้ม้าอ้วนพี ไม่ว่าจะเป็นคำว่า 夜 เย่-กลางคืน หรือคำว่า 野 เหย่-ป่า ล้วนแต่มีความหมายไปในทางที่ไม่ปกติทั้งสิ้น
สำนวนนี้มีมากว่าหลายพันปีแล้ว และเหมาะกับทุกยุคทุกสมัย แต่สำนวนนี้มักใช้เหน็บแนมกับคนที่เราสงสัยว่าร่ำรวยแบบผิดปกติ ไม่ใช้กับคนร่ำรวยโดยปกติ หากินโดยสุจริต ดังนั้นการใช้สำนวนจีนก็ต้องบริบทประกอบด้วย
สรุปคำว่า”รวย” ก็คือความพอดี มีกินมีใช้ไม่ขาดแคลน ไม่ขาดไม่เกินจนเกินไป และที่สำคัญคือ “เราต้องมีความสุข” จะมีทรัพย์เท่าใดก็คือ”เศรษฐี” แต่หากการแสวงหาทรัพย์ในทางใดที่ทำให้เราทุกข์ กังวล และเครียด แล้วต้องโกหก คนโกง หลอกลวง เปรียบ แม้จะมีทรัพย์มหาศาลเพียงใดก็ไม่ได้ชื่อว่า”เศรษฐี”
การโกหกเพียงคำเดียว หรือ ครั้งเดียว ก็ต้องทำให้เราสรรหาคำโกหกอีกนับร้อยครั้งเพื่อจะปกปิดคำโกหกครั้งแรกนั้น ดังนั้นการทำความทุจริตเพียงครั้งเดียว เราอาจจะต้องทำการทุจริตเพิ่มอีกหลายๆอย่างเพื่อให้มันดูสมเหตุสมผล