ในคัมภีร์”มุหูรตะ”ได้จัดแบ่งพลังและอิทธิพลของนักษัตรต่างๆตามพลังรังสีที่แสดงออกมาเป็น 7 กลุ่มดังนี้
1.นักษัตรมั่นคงถาวร(สถิระ)-ให้พลังงานที่คงที่สม่ำเสมอเหมาะสำหรับเริ่มกิจการมงคลต่างๆเช่น พิธีราชาภิเษก พิธีตั้งหลักเมือง พิธีแรกนาขวัญ ปลูกต้นไม้ยืนต้น สร้างบ้านเรือน สร้างวัด อาราม อุโบสถ วิหารและสร้างถาวรวัตถุต่างๆ พิธีเข้าอยู่บ้านใหม่ การเริ่มต้นความสัมพันธ์ฉันมิตร การสร้างมิตรภาพ ความรัก พิธีประดับเกียรติยศ พิธีวินายกะ ศานติ เริ่มต้นการศึกษาดนตรี สร้างมิตรภาพระหว่างเพศ สวมใส่เครื่องประดับ ใช้เสื้อผ้าใหม่ ฯลฯ ให้ผลดีคงที่ถาวร
2.นักษัตรเคลื่อนไหว-(จาระ)ให้พลังงานที่สัมพันธ์กับการเคลื่อนไหว การก้าวไปข้างหน้า เหมาะสำหรับเริ่มกิจการมงคลต่างๆ เช่นเริ่มต้นหัดขับขึ่ ช้าง ม้า ยานพาหนะออกรถใหม่ เปิดร้านค้ากิจการใหม่ ทำเครื่องประดับเพชรพลอยเพื่อสวมใส่ให้ผลดีเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้า3.นักษัตรร้ายกาจ(วัชระ)-ให้พลังงานที่ร้ายกาจ เหมาะสำหรับเริ่มกิจการที่เกี่ยวข้องกับการทำลาย การซื้อและสร้างอาวุธ การวางแผนชั่วร้าย การตัด วางยาพิษ การหลอกลวง การจับกุมคุมขัง การเผาผลาญ การจัดการกับคนชั่ว การควบคุมสัตว์ร้าย การใช้ไฟ ให้ผลเป็นความสำเร็จ
4.นักษัตรรวม-ผสมผสาน (มิษระ)-ให้พลังงานที่เป็นผลรวมจากพลังงานของนักษัตรอื่นๆ เหมาะสำหรับเริ่มกิจการที่ดีทั่วไป
5.นักษัตรแจ่มใส-รุ่งโรจน์ (ลฆุ)-ให้พลังงานที่เป็นผลดีเจริญรุ่งเรือง เหมาะสำหรับเริ่มกิจการ เริ่มใช้เครื่องประดับ พิธีรื่นเริง งานมงคล การกีฬา การแข่งขัน การปรุงยา การักษาโรค เปิดโรงงานอุตสาหกรรม การเดินทางไกล การเริ่มต้นศึกษาศิลปต่างๆ ประติมากรรมดนตรี จิตรกรรม ฯลฯ
6.นักษัตรเฉียบขาด(อุคระ)-ให้พลังงานที่เป็นผลรุนแรง เฉียบขาด เหมาะสำหรับเริ่มกิจการ เช่น การใช้เวทมนต์ คาถาอาคม สะกดภูติผีปิศาจ การจับกุมคุมขัง การฆาตกรรม การตีตนออกห่างจากมิตร การใช้เสื้อผ้าใหม่ การโยกย้าย การย้ายถิ่นที่อยู่ การเริ่มต้นการฝึกหัดขับร้อง การฝึกสัตว์ให้เชื่อง การเข้าทำงานใหม่ให้ความรุ่งเรืองก้าวหน้า
7.นักษัตรอ่อนโยน (มฤธุ)-ให้พลังงานที่เป็นผลอ่อนโยน ละมุนลมัย เหมาะสำหรับการพิธีทรงเครื่องต้น เริ่มใช้เครื่องแต่งกายใหม่ เริ่มหัดระบำรำฟ้อน ดนตรี วิจิตรศิลป์ การติดต่อทางชู้สาวและความรัก พิธีมงคลต่างๆ ให้ผลดี
*เวลาต้องห้ามของแต่ละนักษัตร (นักษัตรตะยะชะยะกาล)*
เวลาต่างๆของแต่ละนักษัตรที่จันทร์เสวย มีช่วงเวลาบางช่วงที่ไม่เป็นมงคลเรียกว่า “ตะยะชะยะกาล”ซึ่งต้องงดเว้น มีช่วงเวลานานถึง 96 นาที ซึ่งโบราณได้กำหนดเวลาที่ต้องงดเว้นเอาไว้้ ตัวอย่างเช่น ปฎิทินวันที่ 18 ม.ค. 56 ฤกษ์บนบอกว่า “จันทร์ สถิตราศีมีน เสวยฤกษ์ที่ ๒๗ เรวตีนักษัตร สมโณฤกษ์ สิ้นสุดเวลา 20.53 นาฬิกา-ต่อด้วยฤกษ์ที่ ๑ อัศวินีนักษัตร ทลิทโทฤกษ์ ”หมายความว่าดาวจันทร์เริ่มเสวยนักษัตร ที่ 1 อัศวินี ในเวลา 20.54 น. ตะยะชะยะกาลของอัศวินีนักษัตรคือให้งดเว้นเวลา 96 นาทีในชั่วโมงที่ 20และ 96 นาทีสุดท้ายของ นักษัตรนี้ ดังนั้นชั่วโมงที่ 20 คือ เวลา 20.54 น. + 20 ชั่วโมง = เวลา 15.54 น.ของวันที่ 19 ม.ค. 56 เป็นจุดเริ่มต้นของ ตะยะชะยะกาล ซึ่งมีระยะเวลานาน 96 นาที (เวลา 15.54 น. + 96 นาที = เวลา 17.30 น. )
หมายความว่า ตั้งแต่เวลา 15.54 น. ถึงเวลา 17.30 น.ของวันที่ 19 ม.ค. 56 เป็นเวลาตะยะชะยะกาลให้งดเว้นประกอบการมงคลและเริ่มกิจการใหม่ทั้งปวง
(1.4) โยค-หรือนักษัตรโยค
นักษัตรโยคมีการคำนวณองศาสัมพันธ์ระหว่างอาทิตย์และจันทร์ เพื่อหาพลังรังษีที่เป็นศุภผล หรือเป็นมงคลเอื้อประโยชน์ต่อชีวิต และจิตวิญญาณของมนุษย์ และพลังงานที่ไม่เป็นศุภผลที่ให้โทษ ซึ่งเรียกว่านักษัตรโยค โดย 1 ในรอบเดือนทางจันทรคติจะมีโยคทั้งดีและร้ายหมุนเวียนสลับสับเปลี่ยน แต่ละโยคมีระยะ 13 องศา 20 ลิปดา มีจำนวนทั้งหมด 27 โยค ดังนี้
(1.5) กรณะ-หรือนักษัตรกาล
พลังงานส่วนที่ 5 คือ กรณะ หรือเรียกว่า นักษัตรกาลเป็นการคำนวณระยะเวลาของครึ่งวันของวันทางจันทรคติโดยคำนวณจากระยะของดาวอาทิตย์และดาวจันทร์ในช่วงทุกๆ 6 องศาทวีคูณ ผลทีได้เป็นพลังรังสีดี-ร้ายมีจำนวน 11 กรณะและหมุนเวียนกันต่อเนื่องกันตลอดดิถีตามหลักวิธีการคำนวณกรณะคือ ใน 1 เดือนจันทรคติ กรณะลำดับที่ 1-7 หมุนเวียนกันเป็นเจ้าการ 8 ครั้งโดยเริ่มต้นในครึ่งวันหลังของดิถีที่ 1 ของเดือน ลำดับที่ 8-11 เป็นเจ้าการคงที่ไม่หมุนเวียน โดยใน 1 วันจะมี 2 กรณะ
1.ปะวะกรณะ ดีสำหรับกิจกรรมที่เป็นชั่วคราวและถาวร กิจการใหม่ สุขภาพ อายุและจะเป็นมงคลมากหากร่วมในวิสาขะ,เชษฐนักษัตร
2.พลวัตกรณะ เป็นมงคลดีในกิจกรรมต่างๆรวมทั้งกิจกรรมทางด้านศาสนา และจะเป็นมงคลมากหากร่วมกับโรหิณีนักษัตร
3.เกาลวะกรณะ เป็นมงคลดีในเรื่องความรักการแต่งงาน ความสวยงามเครื่องประดับและจะเป็นมงคลมากหากร่วมกับอนุราธะนักษัตร
4.ไตติละกรณะ เป็นมงคลดีในเรื่องชื่อเสียง ความนิยมชมชอบ กิจการเกี่ยวบ้านที่พักอาศัยและจะเป็นมงคลมากหากร่วมกับอุตรผลคุนี
5.คฤชะกรณะ เป็นมงคลดีในเรื่องการเพาะปลูก สร้างบ้าน กิจการที่พักอาศัยและจะเป็นมงคลมากหากร่วมกับนักษัตรที่ดี(ศุภะ)
6.วานิชะกรณะ เป็นมงคลดีในเรื่องธุรกิจ การค้าขาย กิจการแลกเปลี่ยนต่างๆและจะเป็นมงคลมากหากร่วมกับนักษัตรที่ดี(ศุภะ)
7.วิษฏิกรณะ ไม่เป็นมงคลแต่จะเหมาะสำหรับการจู่โจมทำลายศัตรู วางยาพิษ ผลจะรุนแรง หากร่วมกับภรณีและอารทรานักษัตร
8.สกุณะกรณะ ไม่เป็นมงคลในกิจการทั่วไปแต่เหมาะสำหรับการปรุงยา เภษัชกรรม การรักษาโรค ใช้เวทย์มนตร์ โหราศาสตร์
9.จตุษปาทะกรณะ ไม่เป็นมงคลในกิจการทั่วไปแต่เหมาะสำหรับกิจการเกี่ยวกับวัว พิธีพราหมณ์ บูชาพรรพชน และกิจการการเมือง
10.นาคะกรณะไม่เป็นมงคลในกิจการทั่วไปแต่เหมาะกับกิจการอสังหาฯการลงโทษ ทำทารุณ โหดร้าย (รุนแรงมาก-อาศเลษะนักษัตร)
11.กิมะสตุฆนะกรณะ ไม่เป็นมงคลในกิจการทั่วไปแต่เหมาะกับการบูชาสักการะ งานการแสดง เกี่ยวกับอาหารแต่เป็นมงคลสำหรับพิธีแต่งงานและเป็นมหามงคลในสวาตินักษัตร