พลังงานส่วนที่ 5 ของปฏิทินปัญจางคะคือ กรณะ หรือ เรียกว่า นักษัตรกาล เป็นการคำนวณระยะเวลาของครึ่งวันหรือครึ่งดิถีของวันทางจันทรคติโดยคำนวณ จากระยะของดาว อาทิตย์และดาวจันทร์ในช่วงทุกๆ 6 องศาทวีคูณ ผลทีได้เป็นพลังรังสีดี-ร้ายมีจำนวน 11 กรณะและหมุนเวียนกันต่อเนื่องกันตลอดดิถีตามหลักวิธีการคำนวณกรณะ คือ ใน 1 เดือนจันทรคติ กรณะลำดับที่ 1-7 หมุนเวียนกันเป็นเจ้าการ 8 ครั้งโดยเริ่มต้นในครึ่งวันหลังของดิถีที่ 1 ของเดือน ส่วนกรณะลำดับที่ 8-11 เป็นเจ้าการคงที่ไม่หมุนเวียน โดยใน 1 ดิถี หรือ 1 วันจันทรคติ จะมี 2 กรณะ (ครึ่งดิถี)
1.ปะวะกรณะ หรือ พวะ กรณะเป็นกรณะจร เป็นศุภะกรณะ หรือห้วงเวลามงคล เทวะประจำกรณะนี้คือ พระวิษณุ บางตำรากล่าวว่าเป็นอินทรเทพ เหมาะ สำหรับกิจการงานทุกชนิดทั้งงานถาวร หรืองานชั่วคราวงานที่ต้ออยู่ประจำหรือต้องเดินทาง เหมาะสำหรับการเข้าอยู่อาศัยในบ้านหลังใหม่ และดีสำหรับกิจกรรมที่เป็นชั่วคราวและถาวร พิธีกรรมทางศาสนา เริ่มกิจการใหม่ เสริมสุขภาพ อายุและจะเป็นมงคลมากหากร่วมในวิสาขะ,เชษฐนักษัตรและ และมีดาวอาทิตย์เป็นครหะ (ดาวเคราะห์) ควบคุม ปะวะกรณะ
2.พลวัตกรณะ หรือ พาลวะเป็นกรณะจร เป็นศุภะกรณะ หรือห้วงเวลามงคล พระพรหมเป็นเทวะประจำกรณะ ในห้วงเวลาของกรณะนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับพิธีมงคลสมรส พิธีบูชาพระพรหม การร่ำเรียน การศึกษา การสอน การบริจาค การให้ งานกิจกรรมทางศาสนา พิธีสเดาะเคราะห์ แก้กรรม ให้ผลดีกับพิธีกรรมทางพราหมณ์ และเป็นมงคลดีในกิจกรรมต่างๆรวมทั้งกิจกรรมทางด้านศาสนา และจะเป็นมงคลมากหากร่วมกับโรหิณีนักษัตร และมีดาวจันทร์เป็นครหะ(ดาวเคราะห์) ควบคุม พลวะกรณะ
3.เกาลวะกรณะ เป็นกรณะจร เป็นศุภะกรณะ หรือห้วงเวลามงคล มีจันทรเทพเป็นเทวะประจำกรณะ บางตำรากล่าวว่าเป็นมิตรเทพ (ชื่อซึ่งในภาษาสันสกฤต หมายถึง “เพื่อน” ผู้ที่คอยช่วยเหลือ ซื่อสัตย์ มิตรภาพ พันธสัญญาและการพบปะ) ในห้วงเวลาของกรณะนี้เหมาะสำหรับพิธีสมรสและการเริ่มต้นกิจการต่างๆ ที่ต้องการความถาวรและการสร้างมิตรภาพ และเป็นมงคลดีในเรื่องความรัก การแต่งงาน การเลือกคู่ครองงานที่เกี่ยวกับ ความสวยงาม เครื่องประดับ และจะเป็นมงคลมากหากร่วมกับอนุราธะนักษัตร และมีดาวอังคารเป็นครหะ(ดาวเคราะห์) ควบคุม เกาลวะกรณะ
4.ไตติละกรณะ เป็นกรณะจร เป็นศุภะกรณะ หรือห้วงเวลามงคล อินทรเทพเป็นเทวะประจำกรณะ บางตำรากล่าวว่าเป็น พระวิษณุกรรม(อีกชื่อหนึ่งคือ “ทวาษัตรา” ผู้ซึ่งเปรียบเสมือนช่างแห่งจักรวาล) เป็นเทวะประจำกรณะ แต่ในบางตำรากล่าวว่าไอยรามันเป็นเทพที่ควบคุม ไตติละกรณะ ไม่ใช่พระวิษณุกรรม ในห้วงเวลาของกรณะนี้เหมาะสำหรับการเริ่มต้นกิจการต่างๆที่เกี่ยวกับราชการ จะให้ผลดีทำให้มีพลังและอำนาจ และพิธีมงคลสมรส .และเป็นมงคลดีในเรื่องชื่อเสียง ความนิยมชมชอบ กิจการเกี่ยวบ้านที่พักอาศัยและจะเป็นมงคลมากหากร่วมกับอุตรผลคุนีนักษัตรนอกจากนี้ ยังเหมาะกับ พิธีกรรมเกี่ยวกับการแต่งงานกับหญิงที่มีลูกติด พิธีเกี่ยวกับความรักทั้งหมด พิธีกรรมเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย สวดพระเวทและเวทางคะ กิจกรรมอื่นๆของบุรุษเพศ และดาวพุธเป็นครหะ(ดาวเคราะห์) ซึ่งควบคุม ไตติละกรณะ
5.คฤชะกรณะ หรือ การะกรณะ เป็นกรณะจร เป็นศุภะกรณะ หรือห้วงเวลามหามงคล ให้พลังศุภมงคลมากกว่ากรณะอื่นๆ วาสุเทพเป็นเทวะประจำกรณะ ในห้วงเวลาของกรณะนี้เหมาะสำหรับการเริ่มต้นกิจการใหม่ต่างๆ การก่อสร้าง สร้างบ้าน อาคาร การซื้อขายทางธุรกิจ การทำปศุสัตว์ เกษตรกรรมต่างๆ .และเป็นมงคลดีในเรื่องการเพาะปลูก สร้างบ้าน กิจการที่พักอาศัยและจะเป็นมงคลมากหากร่วมกับนักษัตรที่ดี(ศุภะ) และมีดาวพฤหัส เป็นครหะ(ดาวเคราะห์) ควบคุม การะกรณะ
6.วานิชะกรณะ เป็นกรณะจร เป็นศุภะกรณะ หรือห้วงเวลามหามงคล ให้พลังศุภมงคลมากกว่ากรณะอื่นๆ มานิภาทรายักษ์เป็นเทวะประจำกรณะ บางตำรากล่าว่าเป็นพระลักษมี หรือ ศรีเทวี(ซึ่งเป็นพระมเหสีของพระวิษณุ ตามตำนานเทพ ที่คอยดูแลความมั่งคั่ง ความสุข และโชคลาภ) ในห้วงเวลาของกรณะนี้เหมาะสำหรับการเริ่มต้นการทำธุรกรรมการซื้อขายและผู้ ขายอาจจะเก็บเกี่ยวผลกำไรที่ดี ในขณะที่ผู้ซื้ออาจได้รับความเสียหายในกรณะนี้ และเป็นมงคลดีในเรื่องธุรกิจ การค้าขาย กิจการแลกเปลี่ยนต่างๆ งานที่ต้องกาความมั่นคง การพบปะสังสรรค์ งานรื่นเริงและจะเป็นมงคลมากหากร่วมกับนักษัตรที่ดี(ศุภะ)และมีดาวศุกร์เป็นครหะ(ดาวเคราะห์) ควบคุม วานิชะกรณะ
*7.วิษฏิกรณะ เป็นกรณะถาวรคงที่ ถือเป็นปาปะกรณะ(กรณะร้ายที่สุด) ให้โทษรุนแรง เทวะประจำกรณะคือ มฤตยู หรือพระยม เทพแห่งความตาย ไม่เหมาะกับงานมงคล และการเริ่มต้นกิจการใดใดในช่วงกรณะนี้ จะนำความเสียหายมาให้ แต่จะเหมาะสำหรับการจู่โจมทำลายศัตรู วางยาพิษ การเอาชนะความยากลำบาก และอุปสรรค ผลจะรุนแรงมากขึ้นอีกหากร่วมกับภรณีและอารทรานักษัตร และมีดาวเสาร์เป็นครหะ(ดาวเคราะห์) ควบคุม วิษฏิกรณะ
8.สกุณะกรณะ (สกุณี) เป็นกรณะถาวรคงที่ เป็นห้วงเวลาร้าย มีระยะเวลาครึ่งวันจันทรคติ ครุฑ เป็นเทวะประจำกรณะ บางตำรากล่าวว่าเป็นพระแม่กาลี (ชื่อนี้หมายถึง “เวลา” หรือ “ความตาย” และยังหมายถึงเทพแห่งกาลเวลาและการเปลี่ยนแปลงสถานะเพื่อบบรรลุโมกษะ)กรณะนี้จะเกิดขึ้นในเวลากลางคืนของแรม 14 ค่ำ จะเกิดการโจรกรรมและอาชญากรรม ไม่เป็นมงคลในกิจการทั่วไป แต่เหมาะสำหรับ พิธีมันตราศาธนะ การเพาะปลูก การปรุงยา เภษัชกรรม สมุนไพร การรักษาโรค ใช้เวทย์มนตร์ โหราศาสตร์ การทำนาย และเหมาะแก่การหลบหนีศัตรู ปรุงยาและเภษัช เริ่มต้นกิจการทุกชนิดที่เกี่ยวกับการทำสงคราม กรณะนี้ไม่มีดาวเคราะห์ใดใดป็นเจ้าการ
9.จตุษปาทะกรณะ เป็นกรณะถาวรคงที่ เป็นกรณะร้าย เทวะประจำกรณะคือ วัวกระทิง บางตำราว่าเป็นรุททะเทพ (ภาคหนึ่งของพระศิวะ) กรณะนี้จะเกิดขึ้นในวันพระจันทร์ดับ (อมาวสี) ไม่เป็นมงคลในกิจการทั่วไป แต่เหมาะสำหรับกิจการเกี่ยวกับวัว พิธีพรามหณ์ บูชาพรรพชน บูชาสังเวยเทวดา และกิจการเกี่ยวกับรัฐศาสตร์และการเมือง การปกครอง การ ประกอบพิธีกรรม ใช้เวทย์มนต์คาถาทำลายศัตรู และการเริ่มต้นกิจการหรือการดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสัตว์สี่เท้าโดย เฉพาะอย่างยิ่งวัวจะประสบความสำเร็จ กรณะนี้ไม่มีดาวเคราะห์ใดใดป็นเจ้าการ
10.นาคะกรณะ เป็นกรณะถาวรคงที่ ถือเป็น กรณะร้าย เทวะประจำกรณะคือ พญานาค ไม่เป็นมงคลในกิจการทั่วไปแต่เหมาะกับกิจการอสังหาฯ การทำการลงโทษ ทำทารุณ โหดร้าย (รุนแรงมาก-หากร่วมกับอาศเลษะนักษัตร)และเหมาะสำหรับการกระทำเพื่อการทำลาย และการล้มล้าง การทำสั่งชั่วร้าย การเป็นปฏิปักษ์ ปรปักษ์ การยึดครอง การฉกฉวย ขโมย ลักพา กรณะนี้ไม่มีดาวเคราะห์ใดใดป็นเจ้าการ
11.กิมะสตุฆนะกรณะ เป็นกรณะถาวรคงที่ ถือเป็นช่วงเวลามงคล เทพประจำกรณะนี้คือ ท้าวเวสสุวรรณ์ เทพเจ้าแห่งความมั่งคั่ง บางตำราว่าเป็นมารุตาเทพ ไม่เป็นมงคลในกิจการทั่วไป แต่ถือว่าเป็นกรณะที่ดีที่สุดสำหรับการเริ่มต้นงานใหม่ทุกๆอย่าง เหมาะกับการบูชาสักการะ งานการแสดง เกี่ยวกับอาหาร พิธีกรรมทางศาสนา ประสาทวิชา กิจกรรมเกี่ยวกับการพัฒนาหรือการขยาย พิธีมังคลาจานัคคี และเป็นมงคลสำหรับพิธีแต่งงาน และจะเป็นฤกษ์มหามงคลหากร่วมกับสวาตินักษัตร กรณะนี้ไม่มีดาวเคราะห์ใดใดป็นเจ้าการ
ปฏิทินปัญจางคะ กรณะ
พลังงานส่วนที่ 5 ของปฏิทินปัญจางคะคือ กรณะ หรือเรียกว่า นักษัตรกาล เป็นการคำนวณระยะเวลาของครึ่งวันหรือครึ่งดิถีของวันทางจันทรคติโดยคำนวณจากระยะของดาว อาทิตย์และดาวจันทร์ในช่วงทุกๆ 6 องศาทวีคูณ ผลทีได้เป็นพลังรังสีดี-ร้ายมีจำนวน 11 กรณะและหมุนเวียนกันต่อเนื่องกันตลอดดิถีตามหลักวิธีการคำนวณกรณะ คือ ใน 1 เดือนจันทรคติ กรณะลำดับที่ 1-7 หมุนเวียนกันเป็นเจ้าการ 8 ครั้งโดยเริ่มต้นในครึ่งวันหลังของดิถีที่ 1 ของเดือน ส่วนกรณะลำดับที่ 8-11 เป็นเจ้าการคงที่ไม่หมุนเวียน โดยใน 1 ดิถี หรือ 1 วันจันทรคติ จะมี 2 กรณะ (ครึ่งดิถี)
1.ปะวะกรณะ เป็นช่วงเวลามงคล เทวะประจำกรณะนี้คือ พระวิษณุ เหมาะสำหรับกิจการงานทุกชนิดทั้งงานถาวร หรืองานชั่วคราว และเหมาะสำหรับการเข้าอยู่อาศัยในบ้านหลังใหม่ และดีสำหรับกิจกรรมที่เป็นชั่วคราวและถาวร เริ่มกิจการใหม่ เสริมสุขภาพ อายุและจะเป็นมงคลมากหากร่วมในวิสาขะ,เชษฐนักษัตร
2.พลวัตกรณะ เป็นช่วงเวลามงคล พระพรหมเป็นเทวะประจำกรณะ ในห้วงเวลาของกรณะนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับพิธีมงคลสมรส และพิธีบูชาพระพรหม และเป็นมงคลดีในกิจกรรมต่างๆรวมทั้งกิจกรรมทางด้านศาสนา และจะเป็นมงคลมากหากร่วมกับโรหิณีนักษัตร
3.เกาลวะกรณะ เป็นช่วงเวลามงคล จันทรเทพเป็นเทวะประจำกรณะ ในห้วงเวลาของกรณะนี้เหมาะสำหรับพิธีสมรสและการเริ่มต้นกิจการต่างๆ ที่ต้องการความถาวรและการสร้างมิตรภาพ และเป็นมงคลดีในเรื่องความรัก การแต่งงาน การเลือกคู่ครองงานที่เกี่ยวกับ ความสวยงาม เครื่องประดับ และจะเป็นมงคลมากหากร่วมกับอนุราธะนักษัตร
4.ไตติละกรณะ เป็นช่วงเวลามงคล อินทรเทพเป็นเทวะประจำกรณะ ในห้วงเวลาของกรณะนี้เหมาะสำหรับการเริ่มต้นกิจการต่างๆที่เกี่ยวกับราชการจะให้ผลดีทำให้มีพลังและอำนาจ และพิธีมงคลสมรส .และเป็นมงคลดีในเรื่องชื่อเสียง ความนิยมชมชอบ กิจการเกี่ยวบ้านที่พักอาศัยและจะเป็นมงคลมากหากร่วมกับอุตรผลคุนีนักษัตร
5.คฤชะกรณะ เป็นช่วงเวลามหามงคล ให้พลังศุภมงคลมากกว่ากรณะอื่นๆ วาสุเทพเป็นเทวะประจำกรณะ ในห้วงเวลาของกรณะนี้เหมาะสำหรับการเริ่มต้นกิจการใหม่ต่างๆ การก่อสร้าง สร้างบ้าน อาคาร การซื้อขายทางธุรกิจ การทำปศุสัตว์ เกษตรกรรมต่างๆ .และเป็นมงคลดีในเรื่องการเพาะปลูก สร้างบ้าน กิจการที่พักอาศัยและจะเป็นมงคลมากหากร่วมกับนักษัตรที่ดี(ศุภะ)
6.วานิชะกรณะ เป็นช่วงเวลมหามงคล ให้พลังศุภมงคลมากกว่ากรณะอื่นๆ มานิภาทรายักษ์เป็นเทวะประจำกรณะ ในห้วงเวลาของกรณะนี้เหมาะสำหรับการเริ่มต้นการทำธุรกรรมการซื้อขายและผู้ขายอาจจะเก็บเกี่ยวผลกำไรที่ดี ในขณะที่ผู้ซื้ออาจได้รับความเสียหายในกรณะนี้ และเป็นมงคลดีในเรื่องธุรกิจ การค้าขาย กิจการแลกเปลี่ยนต่างๆและจะเป็นมงคลมากหากร่วมกับนักษัตรที่ดี(ศุภะ)
7.วิษฏิกรณะ-กรณะถาวรคงที่ เป็นกรณะร้าย เทวะประจำกรณะคือ มฤตยู เทพแห่งความตาย ไม่เหมาะกับงานมงคล และการเริ่มต้นกิจการใดใดในช่วงกรณะนี้ จะนำความเสียหายมาให้ แต่จะเหมาะสำหรับการจู่โจมทำลายศัตรู วางยาพิษ ผลจะรุนแรงมากขึ้นอีกหากร่วมกับภรณีและอารทรานักษัตร
8.สกุณะกรณะ กรณะถาวรคงที่ เป็นห้วงเวลาร้าย มีระยะเวลาครึ่งวันจันทรคติ ครุฑ เป็นเทวะประจำกรณะ กรณะนี้จะเกิดขึ้นในเวลากลางคืนของแรม 14 ค่ำ จะเกิดการโจรกรรมและอาชญากรรม ไม่เป็นมงคลในกิจการทั่วไป แต่เหมาะสำหรับการปรุงยา เภษัชกรรม การรักษาโรค ใช้เวทย์มนตร์ โหราศาสตร์ การทำนาย และเหมาะแก่การหลบหนีศัตรู ปรุงยาและเภษัช เริ่มต้นกิจการทุกชนิดที่เกี่ยวกับการทำสงคราม
9.จตุษปาทะกรณะ กรณะถาวรคงที่ เป็นกรณะร้าย เทวะประจำกรณะคือ วัวกระทิง กรณะนี้จะเกิดขึ้นในวันพระจันทร์ดับ (อมาวสี) ไม่เป็นมงคลในกิจการทั่วไป แต่เหมาะสำหรับกิจการเกี่ยวกับวัว พิธีพรามหณ์ บูชาพรรพชน และกิจการเกี่ยวกับการเมือง การประกอบพิธีกรรม ใช้เวทย์มนต์คาถาทำลายศัตรู และการเริ่มต้นกิจการหรือการดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสัตว์สี่เท้าโดยเฉพาะอย่างยิ่งวัวจะประสบความสำเร็จ
10.นาคะกรณะ กรณะถาวรคงที่ เป็นกรณะร้าย เทวะประจำกรณะคือ พญานาค ไม่เป็นมงคลในกิจการทั่วไปแต่เหมาะกับกิจการอสังหาฯ การทำการลงโทษ ทำทารุณ โหดร้าย (รุนแรงมาก-หากร่วมกับอาศเลษะนักษัตร)และเหมาะสำหรับการกระทำเพื่อการทำลายและการล้มล้าง
11.กิมะสตุฆนะกรณะ กรณะถาวรคงที่ เป็นช่วงเวลามงคล เทพประจำกรณะนี้คือ ท้าวเวสสุวรรณ์ เทพเจ้าแห่งความมั่งคั่ง ไม่เป็นมงคลในกิจการทั่วไป แต่ถือว่าเป็นกรณะที่ดีที่สุดสำหรับการเริ่มต้นงานใหม่ทุกๆอย่าง เหมาะกับการบูชาสักการะ งานการแสดง เกี่ยวกับอาหาร เป็นมงคลสำหรับพิธีแต่งงาน และจะเป็นฤกษ์มหามงคลหากร่วมกับสวาตินักษัตร