โศลกที่ ๒๒
ถ้าพระเคราะห์เป็นอุจจ์ทั้ง ๖ พระเคราะห์ เจ้าชะตาจะได้เป็นจอมจักรพรรดิ์และปกครองโลกผู้เดียวโดยสิ้นเชิง ถ้าพระเคราะห์เป็นอุจจ์ ๕ พระเคราะห์ และมีพฤหัสบดีกุมลัคนาด้วย เจ้าชะตาจะได้ครองโลก ฯ
หมายเหตุ
ดาว ๗ ดวงตั้งแต่อาทิตย์ถึงเสาร์ จะเป็นอุจจ์พร้อมกันหมดในเวลาเดียวกันไม่ได้เกี่ยวกับระยะเชิงมุมของพุธและศุกร์ แต่อาทิตย์และศุกร์สามารถเป็นอุจจ์พร้อมกันได้ อาทิตย์ พุธเป็นอุจจ์พร้อมกันไม่ได้ พุธ ศุกร์ก็ไม่สามารถเป็นอุจจ์พร้อมกันได้ เพราะฉะนั้นในราศีจักราดาวจะเป็นอุจจ์พร้อมกันได้เพียง ๖ ดวงเท่านั้น โดยยกเว้นพุธดาวเดียว ในโยคที่ ๑ ของโศลกนี้กล่าวว่าจะได้เป็นจอมจักรพรรดิ์ ถ้าในชะตามีดาวได้ตำแหน่งอุจจ์ในราศีถึง ๖ โดยไม่บังคับตำแหน่งลัคนา ถ้ามีดาวเป็นอุจจ์ ๕ ดวง ต้องมีพฤหัสบดีเป็นอุจจ์และกุมลัคนาด้วยจึงจะใหญ่จริงตามในโยคที่ ๒ บุคคลธรรมดาถ้าไม่มีอุจจ์ถึง ๕ ตัวแล้ว อย่าไปฝันถึงว่าจะได้เป็นมหาราชาเลยตามโศลกนี้ เป็นได้แต่เพียงราชาธรรมดาเท่านั้นเอง ฯ
โศลกที่ ๒๓
ถ้าเสาร์อยู่ราศีกุมภ์และกุมลัคนาด้วย และมีดาวเป็นอุจจ์อีก ๔ ดวง เจ้าชะตาจะได้เป็นจักรพรรดิ์ ถ้าพุธอยู่ราศีเมษกุมลัคนา มีพฤหัสบดีเป็นอุจจ์ เจ้าชะตาจะได้เป็นราชา ฯ
โศลกที่ ๒๔
ถ้าจันทร์กุมลัคนาในราศีพฤษภ และได้รับแสงจากพระเคราะห์อื่นๆอีก ๖ พระเคราะห์ เจ้าชะตาจะได้เป็นราชาแต่อายุยังน้อย ถ้ามีดาวได้ตำแหน่งอุจจ์ ๑ ดวง ดาวที่เหลืออีก ๖ ดวงได้ตำแหน่งเกษตร์ หรืออยู่ในเรือนมิตร เจ้าชะตาจะได้เป็นใหญ่ และมีโอกาสดีในชีวิต ฯ
โศลกที่ ๒๕
ถ้าอังคารร่วมกับพฤหัสบดี และจันทร์ได้ตำแหน่งวรโครตมนวางค์ หรือได้ตำแหน่งปุษกรองศา เจ้าชะตาจะได้เป็นราชา ถ้าจันทร์เพ็ญในชะตา ได้รับแสงจากศุภเคราะห์ซึ่งอยู่ในภพที่ ๑๐ จากลัคนา เจ้าชะตาจะได้เป็นราชา ฯ
หมายเหตุ
โยคที่สองในโศลกนี้ไม่บังคับว่าลัคนาอยู่ในที่ใดจากจันทร์ บังคับแต่ว่าจันทร์เพ็ญเท่านั้น การบังคับจันทร์เพ็ญก็เท่ากับบังคับว่าอาทิตย์ต้องอยู่ในภพที่ ๗ จากจันทร์ไปด้วยในตัว แต่บังคับต่อไปว่าจันทร์เพ็ญนั้นต้องได้รับแสงจากศุภเคราะห์ ซึ่งศุภเคราะห์ที่ให้แสงถึงจันทร์นั้นจะต้องอยู่
ในภพที่ ๑๐ จากลัคนาด้วย มีศุภเคราะห์พฤหัสบดีเพียงดวงเดียวที่ไม่มีระยะเชิงมุมจำกัดเกี่ยวกับอาทิตย์ สำหรับศุภเคราะห์พุธและศุกร์มีเชิงมุมจำกัด ฉะนั้นถ้าเป็นศุภเคราะห์พุธและศุกร์ ดาวทั้งสองจะต้องอยู่ร่วมกับอาทิตย์ จึงจะให้แสงถึงจันทร์ด้วย ในกรณีเช่นนี้ ลัคนาจะต้องอยู่ในภพที่ ๔ จากอาทิตย์ด้วย และถ้าลัคนานั้นกุมพฤหัสบดีด้วย โยคนี้ก็สมบูรณ์ เพราะจันทร์ได้รับแสงจากศุภเคราะห์ทุกดวง
โศลกที่ ๒๖
ถ้าจันทร์ร่วมกับพฤหัสบดีและศุกร์ในราศีธนู พุธกุมลัคนา อังคารอยู่ราศีกันย์ มีเสาร์อยู่ในราศีมังกร และเป็นภพที่ ๔ จากลัคนาด้วย เจ้าชะตาจะเป็นราชาผู้มีอำนาจมากและเป็นที่ยำเกรงแก่ราชาทั่วๆไป ฯ
หมายเหตุ
เมื่อคิดตามโศลกนี้ก็เท่ากับบังคับลัคนาให้กุมพุธในราศีตุลย์ เกี่ยวกับระยะเชิงมุมของพุธและศุกร์ดังได้กล่าวมาแล้ว เมื่อเป็นเช่นนี้ตำแหน่งของอาทิตย์จะอยู่ได้เพียงสองราศีเท่านั้น คือราศีตุลย์หรือพิจิก ข้าพเจ้าเห็นว่าอาทิตย์ควรอยู่ราศีตุลย์มากกว่า
โศลกที่ ๒๗
ในชะตามีพุธอยู่ราศีกันย์ จันทร์อยู่ราศีมิน อังคารอยู่ราศีเมถุน พฤหัสบดีอยู่ราศีธนู และเสาร์อยู่ราศีมังกร เจ้าชะตาจะได้เป็นราชา ถ้าจันทร์เพ็ญและมีกำลังเข้มแข็ง อยู่ราศีมินกุมลัคนา อังคารอยู่ราศีมังกร และเสาร์อยู่ราศีกุมภ์ เจ้าชะตาจะเป็นราชาที่มีโชคดี ฯ
หมายเหตุ
ในโยคที่ ๑ เมื่อบังคับพุธเล็งกับจันทร์ ก็เท่ากับบอกใบ้ว่าเพ็ญจันทร์อยู่แล้ว เพราะอาทิตย์โดยปกติห่างจากพุธได้ไม่เกิน ๒๘ องศา ในโยคที่ ๒ กล่าวว่าจันทร์เพ็ญและต้องเข้มแข็งด้วย โดยปกติจันทร์เพ็ญก็เข้มแข็งอยู่แล้ว จันทร์เพ็ญจะไม่เข้มแข็งได้ในเมื่อตำแหน่งจันทร์นั้น อยู่ในมรณะองศา ตำแหน่งจันทร์อยู่ในวิษนาฑี อยู่ในนวางค์นิจ อยู่ในนวางค์พิษ และตำแหน่งจันทร์เพ็ญเป็นจันทรอุปราคา เป็นต้น
โศลกที่ ๒๘
ถ้าอังคารกุมลัคนาในราศีมังกร มีจันทร์อยู่ในราศีกรกฏด้วย เจ้าชะตาจะได้เป็นราชา ถ้าอังคารอยู่ในราศีมังกร มีอาทิตย์อยู่ในราศีเมษ และมีพฤหัสบดีอยู่ในราศีกุมภ์ เจ้าชะตาจะได้เป็นราชา ฯ
โศลกที่ ๒๙
ถ้าจันทร์เพ็ญร่วมกับพระเคราะห์ใดๆที่ไม่ใช่เจ้าเรือนของลัคนา และจันทร์เพ็ญได้รับแสงจากศุกร์ พุธและพฤหัสบดีด้วย เจ้าชะตาจะได้เป็นราชา ถ้าพฤหัสบดี ศุกร์และอังคารได้ตำแหน่งวรโคตมนวางค์ทั้งสามพระเคราะห์ และในภพเกนทระจากลัคนาไม่มีบาปเคราะห์สถิตอยู่เลย เจ้าชะตาจะได้เป็นราชา ฯ
โศลกที่ ๓๐
ถ้าดาวพระเคราะห์ทุกดวงสถิตอยู่ศีระโษทัยราศี และมีพระจันทร์อยู่ในราศีกรกฏ ซึ่งรับแสงจากศุภเคราะห์ด้วย เจ้าชะตาจะเป็นราชา ถ้าเจ้าเรือนของลัคนาอยู่ในภพที่ ๙ หรือภพที่ ๑๐ จากลัคนา มีจันทร์กุมลัคนาด้วย เจ้าชะตาจะได้เป็นใหญ่ในแผ่นดิน ฯ
โศลกที่ ๓๑
ถ้าอาทิตย์ร่วมกับจันทร์และอยู่ในราศีธนู มีองศามากกว่า ๑๕ องศา มีเสาร์ที่เข้มแข็งมากกุมลัคนา และมีอังคารเป็นอุจจ์ เจ้าชะตาจะได้เป็นราชาที่มีกำลังเข้มแข็งและมีอำนาจมาก สามารถปราบศัตรูให้ราบคาบลงได้มีนิสัยดุร้ายและกล้าหาญมาก มีชื่อเสียงเป็นที่เกรงขามแก่ศัตรูทั่วไป ฯ
หมายเหตุ
โยคนี้แปลกทีอ้างเอาอัสตะจันทร์ คือเอาอามาวสีมาเป็นราชาโยคด้วย ซึ่งไม่ค่อยจะได้พบกันนักในคัมภีร์ต่างๆ อีกประการหนึ่งอ้างบังคับให้อาทิตย์อยู่ราศีธนู แต่ต้องเกิน ๑๕ องศาด้วย ตามความเข้าใจของข้าพเจ้า อาทิตย์เข้มแข็งในราศีสัตว์สี่เท้า จะเห็นได้ว่าเป็นเกษตร์ในสิงห์ เป็นอุจจ์ในเมษ ซึ่งเป็นราศีของสัตว์สี่เท้าทั้งสิ้น ในโศลกนี้บังคับอาทิตย์อยู่ราศีธนู ซึ่งในพฤษภก็เป็นราศีสัตว์สี่เท้าเหมือนกันแต่ไม่พูดถึง ในราศีธนูครึ่งแรกเป็นธนูเป็นราศีที่มีรูปคน ครึ่งหลังเป็นรูปม้าเป็นราศีสัตว์สี่เท้า ในราศีมังกรครึ่งแรกเป็นสัตว์บก ซึ่งเป็นสัตว์สี่เท้า ครึ่งหลังเป็นสัตว์สี่เท้า แต่ทำไมในโศลกนี้บังคับแต่ครึ่งหลังของธนูเป็นตำแหน่งให้อาทิตย์อยู่เพียงตำแหน่งเดียว ข้าพเจ้าเข้าใจว่าในราศีพฤษภและมังกรซึ่งครองด้วยศุกร์และเสาร์เป็นศัตรูของอาทิตย์ทั้งสองแห่ง แต่ในธนูครองด้วยพฤหัสบดีซึ่งเป็นมิตรกับอาทิตย์
โศลกที่ ๓๒
ถ้าเจ้าเรือนของลัคนาอยู่ในภพอุปจัยจากพระจันทร์ในชะตา มีศุภเคราะห์อยู่เป็นเกนทระกับลัคนา และศุภเคราะห์นั้นต้องอยู่ในนวางค์ที่ครองด้วยศุภเคราะห์ด้วย ในชะตามีบาปเคราะห์ไม่เข้มแข็ง เจ้าชะตาจะได้เป็นราชาซึ่งมีอำนาจเข้มแข็งเทียบเท่ากับพระอินทร์ ฯ