Website แห่งแรกและแห่งเดียวในเมืองไทย ที่ให้บริการฤกษ์ยามชั้นสูงของโหราศาสตร์ภารตะจากคัมภีร์พระเวทของพราหมณ์อันศักดิ์สิทธิ์ และได้ผลตอบรับดีสูงสุดเป็นปีที่ 15 แล้ว WebSite ของเราให้การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในระดับสูงสุด ด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงจากยุโรป "SiteGuarding" บริการดูฮวงจุ้ย แก้ฮวงจุ้ย เสริมฮวงจุ้ย ด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปี***

ganesh hindu gods temple india

โศลกที่ ๕๗

  • ท่านผู้รู้ได้กำหนดองศาวิบัติของพระจันทร์ไว้ทุก ๆ ราศี เรียกว่าตำแหน่งมฤตยูภาคาของพระจันทร์ หรือตำแหน่งมรณะองศาของพระจันทร์ไว้ดังนี้ นับแต่ราศีเมษเรียงลำดับกันไป คือ ๘ – ๒๕ – ๒๒ – ๒๒ – ๒๑ – ๑ – ๔ – ๒๓ – ๑๘ – ๒๐ – ๒๐ และ ๑๐ ท่านว่าถ้าเวลาเกิดของผู้ใดมีตำแหน่งของพระจันทร์ได้องศาตามที่กล่าวมานี้ และพระจันทร์นั้นกุมลัคนาหรือให้แสงถึงลัคนาด้วย เจ้าชะตาจะตายในเร็ววัน ฯ

 

หมายเหตุ

               เรื่องตำแหน่งมฤตยูองศาของพระจันทร์นี้ ในบางคัมภีร์มีผิดเพี้ยนกันไปบ้าง แต่เท่าที่ใช้กันในส่วนมากใช้ตามคัมภีร์ที่เป็นหลัก คำว่ามุหูรตตะที่กล่าวในที่นี้ หมายความว่าเวลา ๒ ฆะฏิกะ หรือ ๒ มหานาที คือ เท่ากับ ๔๘ นาทีในสมัยนี้ ถ้าเราคิดมัธยมจันทร์ใน ๑ วัน เท่ากับ ๑๒ องศาใน ๔๘ นาทีพระจันทร์จะโคจรไปได้ ๒๔ ลิบดา เพราะฉะนั้นในระยะที่พระจันทร์โคจร ๒๔ ลิบตา หรือคิดเป็นเวลา ๔๘ นาทีนี้ จะมีความสัมพันธ์เกี่ยวกับมฤตยูองศาของจันทร์มาก คือในเวลาเกิดของผู้ใดสมมุติว่าพระจันทร์สถิตราศีเมษ ๘ องศาพอดี ตำแหน่งของพระจันทร์นั้นเป็นมฤตยูองศาในชะตา แต่โดยมากสมผุสพระจันทร์จะมีเศษไม่ค่อยพอดี เขาจึงถือเศษของมุหูรตะเป็นมาตรฐาน คือถือเอาว่าขาดหรือเกินจำนวน ๘ องศาไป ๔๘ นาที หรือประมาณ ๒๔ ลิบตาก็ถือว่ายังเป็นตำแหน่งมรณะอยู่ ฉะนั้นสำหรับราศีเมษถ้าสมผุสพระจันทร์ตั้งแต่ ๗ องศา ๓๖ ลิบดา ถึง ๘ องศา ๒๔ ลิบดา ก็นับเป็นมรณะองศาทั้งสิ้น อนึ่งในจำนวน ๔๘ นาทีหรือหนึ่งมุหูรตะนี้ การคิดเป็นองศาลิบตาของพระจันทร์ย่อมไม่แน่นอนเสมอไป เพราะพระจันทร์โคจรไม่เท่ากันทุก ๆ วัน ฉะนั้นก่อนจะคิดมฤตยูองศาที่แท้จริงในวันใด ต้องรู้มัธยมจันทร์ในวันนั้นโดยถูกต้องเสียก่อน

โศลกที่ ๕๘

  • เมื่อได้กำหนดองศาวิบัติของพระจันทร์แล้ว ท่านผู้รู้ก็ได้กำหนดองศาให้คุณของพระจันทร์ประจำราศีต่าง ๆ ไว้ด้วย ตำแหน่งของพระจันทร์ที่ได้องศาเหล่านี้มีชื่อว่า ปุษกะระ หรือ ปุษกร ซึ่งหมายความว่า สวรรค์ อากาศ สระน้ำ ดอกบัว นางกวัก วิชาเต้นรำ ฯลฯ ซึ่งล้วนแล้วแต่เรื่องให้ความผาสุขและรื่นรมย์ทั้งสิ้น องศาของปุษกรจันทร์ตั้งแต่ราศีเมษเป็นลำดับไป ท่านกำหนดเอาไว้ดังนี้ ๒๑ – ๑๔ – ๑๘ – ๘ – ๑๙ – ๙ – ๒๔ – ๑๑ – ๒๓ – ๑๔ – ๑๙ และ ๙ ท่านว่าผู้ใดเกิดได้องศาของพระจันทร์ตามนี้ และจันทร์ในชะตาให้แสงถึงลัคนาด้วย เจ้าชะตาจะมีความสุขมาก การคิดเศษขาดหรือเกินจากองศาที่กำหนดไว้นี้คิดเวลา ๑ มุหูรตะ เช่นเดียวกันกับที่ได้กล่าวมาแล้ว ฯ

โศลกที่ ๕๙ – ๖๐

  • ท่านผู้รู้ในสมัยโบราณได้จำแนกราศีต่าง ๆ ไว้เพื่อเทียบเท่ากับนครต่าง ๆ ของอินเดียโบราณ โดยคิดเทียบจากราศีเมษเป็นลำดับไป ได้แก่เมืองเหล่านี้คือ ปาฏะละ กรรณาฏะ เจระ โจละ ปาณฑยะ เกระละ โกลลาสะ มะละยา เสนธะวา อุมะกปาญจาละ ยะวะนะ และ โกศะละ ฯ

โศลกที่ ๖๑

  • ในการพิจารณาดวงชะตาท่านให้ความเห็นว่า จุดสำคัญส่วนใหญ่ให้สังเกตุดูเจ้าเรือนของภพต่าง ๆ เป็นหลัก เพราะตำแหน่งของเจ้าเรือนของภพต่าง ๆ ย่อมมีอิทธิพลต่อภพนั้น ๆ มากกว่าดาวอื่น ๆ สำหรับภพที่ ๔ จากตำแหน่งของพระอาทิตย์ในชะตาชื่อพิเศษเรียกว่า อภิชิต ในคัมภีร์ปาริชาต ซึ่งเกี่ยวกับโหราศาสตร์ได้กล่าวเกี่ยวกับชื่อ และความหมายของภพและราศีต่าง ๆ ไว้เพียงเท่านี้ ความสำคัญของราศีต่าง ๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับดาวนพเคราะห์ทั้งหลาย ไวทยะนาถะ ผู้รวบรวมคัมภีร์ปาริชาตินี้ขึ้น ได้กล่าวไว้ในบทที่ ๑ หมดสิ้นแต่เพียงเท่านี้ ฯ

****************************************************************************************