โศลกที่ ๑๐๙
เสาร์กุมลัคนา มีอังคารอยู่ในภพที่ ๑๒ มีอาทิตย์ จันทร์และพุธร่วมกัน อยู่ในภพที่ ๗ เจ้าชะตาจะตายในต่างประเทศ ฯ
โศลกที่ ๑๑๐
มีบาปเคราะห์อยู่ในภพที่ ๘ จากลัคนา และเจ้าเรือนของภพที่ ๘ อยู่ในภพที่ ๑๒ จากลัคนา หรือเป็นเกนทระกับลัคนา ถ้าเจ้าเรือนของลัคนาไม่เข้มแข็ง เจ้าชะตาจะตายผลกรรมชั่วของเจ้าชะตาเอง ฯ
โศลกที่ ๑๑๑
ถ้าจันทร์อยู่ในเรือนอังคารหรือเสาร์ รับแสงจากบาปเคราะห์ และจันทร์นั้นถูกกระหนาบหน้าหลังด้วยบาปเคราะห์ เจ้าชะตาจะถูกยิงตาย ถ้าจันทร์อยู่ในภพที่ ๔ และเป็นราศีกันย์ด้วย ดาวอื่นๆอยู่อย่างเดียวกันกับที่ได้กล่าวมาแล้ว เจ้าชะตาจะถูกยิงตาย ฯ
โศลกที่ ๑๑๒
ถ้าผู้ใดเกิดในเวลาของยามที่เป็นพิษซึ่งมีชื่อว่า วิษฆฏิกะ หรือ นาทีพิษ และใน
ภพที่ ๘ จากลัคนา มีบาปเคราะห์สถิตอยู่ เจ้าชะตาจะตายด้วยยาพิษหรือถูกยิงตาย
ถ้าเจ้าเรือนของลัคนาร่วมกับพระเคราะห์อื่นๆอีกหลายพระเคราะห์ และในจำนวนพระเคราะห์เหล่านั้นมีเจ้าเรือนของภพที่ ๘ จากลัคนาร่วมอยู่ด้วย เจ้าชะตาจะไปตายร่วมกับผู้อื่นอีกหลายคนหรือตายพร้อมๆกันหลายคน ฯ
หมายเหตุ
คำว่าวิษฆฏิกะคือจำนวนนาทีพิษของจันทร์ที่โคจรอยู่ในนักษัตรต่างๆทั้ง ๒๗ นักษัตร ในนักษัตรต่างๆท่านผู้รู้ได้วางตำแหน่งพิษไว้มีความกว้างประมาณ ๑ องศาหรือ ๕๓ ลิบดา ๒๐ พีลิบดา ส่วนที่เป็นพิษในนักษัตรต่างๆไม่ตรงกันเสมอไป ส่วนมากถือว่าถ้าจันทร์โคจรอยู่ในตำแหน่งนี้ถือว่าให้โทษ ซึ่งกินเวลาประมาณ ๑ ชั่วโมง ๓๖ นาที
นักษัตร องศาโดยประมาณจากเมษ องศาที่แท้จริงในราศีต่างๆ
๑.อัศวินี ๑๑ เมษ ๑๐°-๖’-๑๓” >๑๑°-๕๙’-๓๓”
๒.ภรณี ๑๙ เมษ ๑๘-๔๐-๐ >๑๙-๓๓-๒๐
๓.กฤติกา ๓๔ พฤษภ ๓-๒๐-๐>๔-๑๓-๒๐
๔.โรหิณี ๔๙ พฤษภ ๑๘-๕๓-๐>๑๙-๔๖-๒๐
๕.มฤคศรีษะ ๕๗ พฤษภ ๒๖-๒๖-๑๓>๒๗-๑๘-๓๓
๖.อาระทรา ๗๒ เมถุน ๑๑-๒๐-๐>๑๒-๑๓-๒๐
๗.ปุนระวะสุ ๘๗ เมถุน ๒๖-๔๐-๐>๒๗-๓๓-๒๐
๘.ปุษยะ ๙๘ กรกฏ ๗-๔๖-๔๐>๘-๔๐-๐
๙.อาศะเลษะ ๑๑๔ กรกฏ ๒๓-๔๖-๔๐>๒๔-๔๐-๐
๑๐.มะฆะ ๑๒๗ สิงห์ ๖-๔๐-๐>๗-๓๓-๒๐
๑๑.ปูรวะผลคุณี ๑๓๘ สิงห์ ๑๗°-๔๖’-๔๐”>๑๘°-๔๐’-๐”
๑๒.อุตตระผลคุณี ๑๕๑ กันย์ ๐-๔๐-๐>๑-๓๓-๒๐
๑๓.หัสตะ ๑๖๗ กันย์ ๑๖-๔๐-๐>๑๗-๓๓-๒๐
๑๔.จิตรา ๑๗๘ กันย์ ๒๗-๔๖-๔๐>๒๘-๔๐-๐
๑๕.สวาตี ๑๙๐ ตุลย์ ๙-๔๖-๑๓>๑๐-๓๙-๓๓
๑๖.วิศาขา ๒๐๓ ตุลย์ ๙-๔๖-๑๓>๒๓-๕๙-๓๓
๑๗.อนุราธา ๒๑๖ พิจิก ๕-๓๓-๒๐>๖-๒๖-๔๐
๑๘.ชะเยษฐา ๒๓๐ พิจิก ๑๙-๔๖-๑๓>๒๐-๓๙-๓๓
๑๙.มูลา ๒๕๓ ธนู ๑๒-๒๖-๔๐>๑๓-๒๐-๐
๒๐.ปูรวะษาณา ๒๕๙ ธนู ๑๘-๔๐-๐>๑๙-๓๓-๒๐
๒๑.อุตตระษาณา ๒๗๒ มังกร ๑-๖-๔๐>๒-๐-๐
๒๒.ศระวะณะ ๒๘๓ มังกร ๑๒-๑๓-๒๐>๑๓-๖-๔๐
๒๓.ธนิษฏา ๒๙๖ มังกร ๒๕-๓๓-๒๐>๒๖-๒๖-๔๐
๒๔.ศตะภิษก ๓๑๑ กุมภ์ ๑๐-๔๐-๐>๑๑-๓๓-๒๐
๒๕.ปูรวะภาทระปะทา ๓๒๔ กุมภ์ ๒๓-๑๓-๒๐>๑๔-๖-๔๐
๒๖.อุตตระภาทระปทา ๓๓๗ มิน ๖-๒๖-๑๓>๗-๑๙-๓๓
๒๗.เรวะตี ๓๕๔ มิน ๒๓-๒๐-๐>๒๔-๑๓-๒๐
โศลกที่ ๑๑๓
ผู้รู้โหราศาสตร์ชั้นอาจารย์เชื่อกันว่าสาเหตุที่ทำให้เจ้าชะตาตายเกี่ยวกับพระเคราะห์ที่เป็นเจ้านวางค์ของเจ้าเรือนลัคนา และเกี่ยวกับนวางค์ซึ่งเทียบกับราศีที่เจ้าเรือนลัคนาสถิตด้วย ฯ
โศลกที่ ๑๑๔
ท่านให้พิจารณาดูว่าเจ้าเรือนของลัคนานั้นอยู่นวางค์ใด และนวางค์นั้นเทียบได้กับราศีใด เจ้าชะตาจะตายดังเหตุต่อไปนี้ นวางค์เมษจะตายด้วยโรคที่มีความร้อนสูง นวางค์พฤษภจะตายด้วยโรคหืดหรือโรคลำไส้ นวางค์เมถุนจะตายด้วยโรคปวดศรีษะ โรคสมอง นวางค์กรกฏจะตายด้วยโรคข้ออักเสบหรือโรคจิต นวางค์สิงห์จะตายด้วยโรคเนื้องอก นวางค์กันย์จะตายด้วยโรคกระเพราะอาหาร กามโรค ฯลฯ
โศลกที่ ๑๑๕
นวางค์ตุลย์จะตายด้วยความโศกเศร้าเสียใจ ไข้ต่างๆหรือจากสัตว์ ๔ เท้า นวางค์พิจิกจะตายด้วยถูกหินทับ ถูกอาวุธหรืออุปัทวเหตุอื่น นวางค์ธนูโรคข้ออักเสบอย่างร้ายแรง นวางค์มังกรจะตายจากสัตว์ป่าเช่นเสือ สิงโต หรือโรคเกี่ยวกับท้อง นวางค์กุมภ์จะตายด้วยน้ำมือของสตรีเพศหรือเสือกัดตาย และในนวางค์มินจะตายด้วยโรคบิดหรือตกน้ำตาย ที่ตายของเจ้าชะตาท่านว่าให้ดูจากนวางค์ที่ ๖๔ จากนวางค์ของลัคนา ฯ
โศลกที่ ๑๑๖
ถ้าเกิดกลางวันและลัคนาสถิตในราศีซึ่งมีความเข้มแข็งในเวลากลางคืน หรือถ้าเกิดกลางคืน และลัคนาสถิตในราศีซึ่งมีความเข้มแข็งในเวลากลางวัน ท่านว่าเจ้าชะตาจะตายเกี่ยวกับดาวที่ร่วมหรือให้แสงถึงเจ้านวางค์ของลัคนา ฯ
โศลกที่ ๑๑๗
ให้พิจารณาดูว่าลัคนาสถิตในราศีใด และลัคนานั้นเลยเข้ามาในราศีนั้นกี่องศา
แล้วจำนวนองศาของที่ลัคนายังไม่ผ่านนี้เป็นเวลาที่สำคัญที่สุด เกี่ยวกับความไม่รู้สึกตัวของเจ้าชะตาก่อนที่จะตาย ถ้าเจ้านวางค์ของลัคนาให้แสงถึงลัคนาและบาปเคราะห์ให้แสงถึงลัคนาด้วย เวลาไม่รู้สึกตัวก่อนตายนั้นให้เพิ่มขึ้นเป็น ๒ เท่า ถ้าเจ้านวางค์ของลัคนาเป็นดาวศุภเคราะห์เวลาหมดความรู้สึกจะเพิ่มขึ้นเป็น ๓ เท่า การตายของเจ้าชะตาดูจากดูจากดาวที่ครองตรียางค์ที่ ๒๒ จากตรียางค์ของลัคนา ฯ
โศลกที่ ๑๑๘
ในเวลาสิ้นใจถ้าเราทำดวงชะตาขึ้น ลัคนาในเวลานั้นเรียกมรณะลัคนา ถ้ามรณะลัคนากุมด้วยพฤหัสบดีตายแล้วจะได้ไปพบพระเจ้าหรือชั้นสวรรค์ ถ้าอาทิตย์หรืออังคารเข้ากุมมรณะลัคนา จะไปพบสิ่งชั่วร้ายหรือตกนรก ถ้าจันทร์หรือศุกร์เข้ากุมมรณะลัคนาจะได้ขึ้นสวรรค์ชั้นพรหม ถ้าเสาร์หรือพุธเข้ากุมมรณะลัคนาจะตกนรก ฯ
โศลกที่ ๑๑๙
เกี่ยวกับการที่จะรู้ว่าเมื่อตายแล้ววิญญาณนั้นจะไปยังสวรรค์ชั้นใด เขาแบ่งราศีทั้ง ๑๒ ราศีออกเป็น ๓ พวกๆละ ๔ ราศีนับจากเมษถึงกรกฏเป็นอาณาเขตของภูโลกะ นับแต่สิงห์ถึงพิจิกเป็นอาณาเขตของภูวระโลกะ และนับแต่ธนูถึงมินเป็นอาณาเขตของสุวรโลกะ ถ้ามรณะลัคนาอยู่ในราศีจำพวกใดก็ขึ้นสวรรค์ประเภทนั้น ฯ
โศลกที่ ๑๒๐
ถ้าเจ้าเรือนของภพที่ ๑๒ จากลัคนาอยู่ในวรรคของบาปเคราะห์ในระบบษัษฐะยำศะและในเวลาเดียวกันได้รับแสงจากบาปเคราะห์ด้วย ตายแล้วตกนรก ถ้าราหูอยู่ในภพที่ ๑๒ จากลัคนา และมีมานทิกับเจ้าเรือนภพที่ ๘ ร่วมราหู และยังได้รับแสงจากเจ้าเรือนภพที่ ๖ ด้วย ตายแล้วตกนรก ฯ
โศลกที่ ๑๒๑
ถ้าศุภเคราะห์ที่เป็นอุจจ์อยู่ในภพที่ ๑๒ จากลัคนา และศุภเคราะห์นั้นอยู่ในวรรค
ของศุภเคราะห์ ได้รับแสงจากศุภเคราะห์และบาปเคราะห์รวมกัน ตายแล้วจะขึ้นสวรรค์ ถ้าพฤหัสบดีเป็นเจ้าเรือนภพที่ ๑๐ และอยู่ในภพที่ ๑๒ รับแสงจากศุภเคราะห์ตายแล้วขึ้นสวรรค์
โศลกที่ ๑๒๒
ถ้าพฤหัสบดีเข้มแข็งอยู่ราศีกรกฏในนวางค์ของธนูและมีพระเคราะห์อื่นๆ อีก ๓ หรือ ๔ ดวงอยู่เป็นเกนทระกับพฤหัสบดีด้วย ตายแล้วขึ้นสวรรค์ชั้นพรหม ฯ
โศลกที่ ๑๒๓
พฤหัสบดีกุมลัคนาในราศีธนู และพฤหัสบดีอยู่ในนวางค์เมษ มีศุกร์อยู่ในภพที่ ๗ มีพระจันทร์เข้มแข็งอยู่ในราศีกันย์ ตายแล้วขึ้นสวรรค์ ฯ
โศลกที่ ๑๒๔
ในบทที่กล่าวมานี้เกี่ยวกับการคำนวณหาอายุของเจ้าชะตา รวมทั้งเวลาตายที่แน่นอนด้วย ซึ่งมีการคำนวณอยู่หลายประการด้วยกัน อันใดจะถูกต้องแก่ดวงชะตาของผู้ใดนั้นเป็นการตัดสินใจของโหรเอง เพราะเรื่องการตายเป็นเรื่องยากที่สุด ท่านไวทยะนาถะได้กล่าวเกี่ยวกับเรื่องตายไว้ในบทที่ ๕ ของปาริชาตชาดกไว้เพียงเท่านี้ ฯ