การลดอายุดาวเกี่ยวกับมีภพที่ดาวสถิตจากลัคนา
โศลกที่ ๙
ท่านให้ถือเอาตำแหน่งของลัคนาเป็นหลัก โดยมีกฎเกณฑ์ว่า นับถอยหลังจากภพที่ ๑๒ จากลัคนาไป ๖ ภพด้วยกัน คือ ๑๒-๑๑-๑๐-๙-๘ และ ๗ ถ้าบาปเคราะห์สถิตในภพเหล่านั้น จะเสียกำลังเป็นลำดับกันดังต่อไปนี้ ภพที่ ๑๒ เสียทั้งหมด ภพที่ ๑๑ เสียหนึ่งในสอง ภพที่ ๑๐ เสียหนึ่งในสาม ภพที่ ๙ เสียหนึ่งในสี่ ภพที่ ๘ เสียหนึ่งในห้า ภพที่ ๗ เสียหนึ่งในหก แต่ถ้าดาวนั้นเป็นศุภเคราะห์จะเสียน้อยลงเพียงครึ่งหนึ่งของบาปเคราะห์คือ ภพที่ ๑๒ เสียหนึ่งในสอง ภพที่ ๑๑ เสียหนึ่งในสี่ ภพที่ ๑๐ เสียหนึ่งในหก ภพที่ ๙ เสียหนึ่งในแปด ภพที่ ๘ เสียหนึ่งในสิบ ภพที่ ๗ เสียหนึ่งในสิบสอง ทั้งนี้คิดจากจำนวนอายุเต็มของดาวแต่ละดวง ถ้าในภพเดียวกับมีดาวหลายดวงคิดหักแต่เฉพาะพระเคราะห์ที่เข้มแข็งที่สุดเท่านั้น ส่วนพระเคราะห์อื่นๆไม่ต้องคิดหัก
โศลกที่ ๑๐
ถ้ามีดาวพระเคราะห์หลายดวงร่วมอยู่ในภพเดียวกัน ในการคิดหักอายุดาวให้ลดลงตามส่วนเกี่ยวกับภพจากลัคนา ท่านให้พิจารณาให้หักแต่เฉพาะดาวที่เข้มแข็งที่สุดเท่านั้น ส่วนดาวนอกนั้นไม่หัก แต่อาจคิดหักตามระบบอื่นๆได้ ฯ
การลดอายุพระเคราะห์เกี่ยวกับบาปเคราะห์กุมลัคนา
โศลกที่ ๑๑
ในดวงชะตาถ้ามีบาปเคราะห์กุมลัคนา ท่านมีวิธีหักอายุจากลัคนาอีกแบบหนึ่งคือ พิจารณาว่าลัคนาโคจรเข้าไปในราศีใดเป็นจำนวนนวางค์เท่าใด เอาจำนวนนวางค์ของลัคนาในราศีที่ลัคนาสถิตเป็นตัวตั้ง คูณด้วยจำนวนอายุต่างๆที่หาได้ตามระบบอื่นๆแล้วหารด้วยจำนวนนวางค์ทั้งหมดใน ๑๒ ราศี คือหารด้วย ๑๐๘ ผลลัพธ์จะได้เป็นจำนวนปี เดือน วันตามส่วนสัมพันธ์ของเศษปี
ท่านยังให้ความเห็นเพิ่มเติมไว้ว่าถ้าบาปเคราะห์ที่กุมลัคนานั้นได้รับแสงจากศุภเคราะห์ด้วย จำนวนอายุที่คิดลบหรือหักออก ใช้หักออกเพียงครึ่งเดียว ฯ
หมายเหตุ
สมมุติว่าการหาอายุตามระบบใดๆ ได้รวมทั้งสิ้น ๑๐๐ ปี ซึ่งเป็นจำนวนอายุยืน แต่ลัคนาอยู่ในราศีเมษ ๒๗ องศา คืออยู่ในนวางค์ที่ ๙ ของราศีเมษ และลัคนานั้นกุมเสาร์ ซึ่งเป็นบาปเคราะห์ เมื่อคิดหักตามโศลกนี้เอา ๙ ตั้ง หารด้วย ๑๐๘ จะได้
๑ × จำนวนอายุที่คิดไว้
๑๒
๑๒๖
๑ × ๑๐๐
๑๒
= ๘ ปี ๔ เดือน
ดังนั้นเราต้องหักจำนวนนี้ออกจาก ๑๐๐ ปี เจ้าชะตาจะมีอายุเพียง ๙๑ ปี ๘ เดือนเท่านั้น แต่ถ้าในชะตามีพฤหัสบดีเล็งลัคนาอยู่ในราศีตุลย์ด้วย จำนวน ๘ ปี ๔ เดือนที่หักออกนั้น คิดหักออกเพียงครึ่งเดียว คือ ๔ ปี ๒ เดือน เจ้าชะตาควรจะมีอายุเต็มที่เท่ากับ ๙๕ ปี ๑๐ เดือน
โศลกที่ ๑๒-๑๓
การหักอายุเกี่ยวกับบาปเคราะห์กุมลัคนาอีกระบบหนึ่งคือ พิจารณาว่าลัคนามีองศาและลิบดาเท่าใดในราศีที่ลัคนาสถิต แตกองศาและลิบดาของลัคนาในราศีนั้น ให้เป็นจำนวนลิบดาทั้งหมด ซึ่งจำนวนลิบดาที่ได้นี้จะไม่เกิน ๑๘๐๐ ลิบดาไปได้ เมื่อจำนวนลิบดาทั้งสิ้นเท่าใด แล้วเอา ๒๑๖๐๐ ไปหาร คูณด้วยกำลังดาวที่จะหาตามระบบที่ต้องการ ผลลัพธ์จะได้เป็นจำนวนปี ซึ่งจะแตกเป็นเดือนและวันได้ตามเศษของปีนั้น จำนวนที่ได้นี้เอาไปหักจำนวนอายุเต็มของดาวแต่ละดวงที่ต้องการคิด การที่เอาผลลัพธ์ตามนี้ไปหักอายุเต็มของดาวต่างๆนั้นกระทำเมื่อลัคนากุมบาปเคราะห์ แต่ถ้าบาปเคราะห์ที่กุมลัคนานั้นได้รับแสงจากศุภเคราะห์ด้วย การหักอายุออกคิดเพียงครึ่งหนึ่งของผลที่หาได้ การคิดหักดังกล่าวมานี้ คิดหักเฉพาะในระบบสรรคิกะอายุรทัย และระบบปิณฑายุรทัยเท่านั้น ไม่ได้นำไปใช้กับระบบอื่นๆ ฯ
โศลกที่ ๑๔
ถ้าลัคนาเข้มแข็ง แตกองศาลิบดาของลัคนาเป็นลิบดาทั้งหมด แล้วหารด้วย ๒๐๐ ผลลัพธ์จะเป็นจำนวนปี ที่จะต้องเอาไปบวกเพิ่มกับลัคนายุส อายุรทัย ฯ
หมายเหตุ
จำนวน ๒๐๐ ที่เอาไปหารคือจำนวน ๒๐๐ ลิบดาหรือเท่ากับจำนวน ๑ นวางค์นั่นเอง ในการคิดอย่างนี้ถือว่าหนึ่งนวางค์เท่ากับหนึ่งปีและเศษของนวางค์ก็เป็นเศษปี