อธิโยคเป็นโยคที่ให้ผลดีเป็นอย่างมากซึ่งอ้างจากคัมภีร์โบราณหลายคัมภีร์ ซึ่งโยคนี้จะเกิดขึ้นโดย มีดาวศุภเคราะห์ธรรมชาติสถิตย์ในเรือนที่ 6 (อริ), เรือนที่ 7 (ปัตนิ) และเรือนที่ 8 (มรณะ)จากชนมราศี หรือชนมจันทร์ ซึ่งก็คือราศีที่จันทร์สถิต โดยอ้างอิงจากคัมภีร์ พฤหัต ประราสาระโหรา (บทที่ 38, โศลกที่ 5) กล่าวไว้ว่า…..
“เมื่อดาวเคราะห์ที่ให้คุณสถิตย์ในเรือนที่ 6, 7 และ 8 จากดาวจันทร์, ย่อมทำให้อธิโยคเกิดขึ้น ผลของโยคจะทำให้เจ้าชาตาจะได้เป็นราชาหรือรัฐมนตรีหรือผู้บัญชาการสูงสุด ทั้งนี้ให้ดูจากความเข้มแข็งของดาวเคราะห์นั้นๆที่ส่งผลให้เกิดเป็นโยค”
इन्द्रोः षष्टाष्टदौरधियोग शुभग्रहैः |बलानुसारतस्तत्र नृपोमात्यो बलाधिपाः ‖
อินฺโทฺร ษษฺฏาษฺฏเทารธิโยค ศุภคฺรไห ฯ พลานุสารตสฺตตฺร นฤโปมาตฺโย พลาธิปา ‖
โหราจารย์วราหะมิหิรา ใช้คำนิยามต่างกันเล็กน้อยสำหรับการพิจารณา”อธิโยค” และทำให้การวินิจฉัยโยคนี้มีความสุขุมลุ่มลึกมากขึ้น (พฤหัต ชาดก บทที่13 โศลกที่ 2) กล่าวว่า...........
सौम्यै स्मरारिनिधनेष्वाधियोग इन्द्रोस्तस्मिंश्र्चभूपसचिवक्षितिपाल जन्म
संपन्नसौरव्यविभवाहतश‖त्रवश्र्च दीर्धायुतो विगतरोग भयाश्र्च जाताः ‖
เสามฺไย สฺมรารินิธเนษฺวาธิโยค อินฺโทฺรสฺตสฺมิํศฺรฺจภูปสจิวกฺษิติปาล ชนฺม
สํปนฺนเสารวฺยวิภวาหตศ ‖ ตฺรวศฺรฺจ ทีรฺธายุโต วิคตโรค ภยาศฺรฺจ ชาตา ‖
เมื่อดาวศุภเคราะห์ใดใดสถิตย์ในเรือนที่ 6, 7 และที่ 8 จากตำแหน่งที่จันทร์สถิตย์ ย่อมก่อให้เกิดเป็น "อธิโยค" ในดวงชาตา ผลที่ได้ก็คือเจ้าชาตาจะได้เป็นผู้นำ,ผู้บัญชาการ,รัฐมนตรี,ราชาหรือเทียบเท่า และผู้ที่เกิดภายใต้โยคนี้จะเป็นสุภาพบุรุษ มีความสุข และประสบความสำเร็จ ชีวิตเต็มไปด้วยความหรูหรา มั่งคั่งร่ำรวย มีทรัพย์สินมากมาย มีอายุยืนยาว และปราศจากจากโรคภัยทั้งหลาย
โหราจารย์วราหะมิหิรา กล่าวถึง सौम्यैः (เสามไยห์) หมายถึงดาวศุภเคราะห์ธรรมชาติซึ่งหมายถึงดาวพฤหัส, ดาวพุธและดาวศุกร์ ส่วนมหาฤาษีประราสาระ ใช้คำว่า शुभग्रहैः (ศุภะคระไหห์) ซึ่งตีความได้ว่า หมายถึงดาวเคราะห์ที่ให้คุณแก่ดวงชาตา(ให้ศุภผล)
ซึ่งอาจจะเกิดความสับสนหากเพราะโหราจารย์วราหะมิหิราอ้างอิงถึงดาวศุภเคราะห์ธรรมชาติเท่านั้น ส่วนมหาฤาษีประราสาระ กล่าวถึงดาวเคราะห์ที่ให้คุณแก่ดวงชาตา(ซึ่งดาวบาปเคราะห์ก็อาจจะให้ศุภผลด้วย)
ถ้าโยคนี้เกิดจากดาวศุภเคราะห์ธรรมชาติเท่านั้น ตามมติของโหราจารย์วราหะมิหิรา กล่าวไว้ เช่น ดาวพุธและศุกร์ดาวศุภเคราะห์ธรรมชาติที่สถิตย์ในเรือนที่ 6, 7 หรือ 8 จากดาวจันทร์ ดังนั้นดาวจันทร์จะต้องเป็นจันทร์ที่มีแสงหรือมีกำลัง เช่น จันทร์เพ็ญ หรือใกล้เคียง เช่น ขึ้น 13 ค่ำ-แรม 3 ค่ำ ก็เพราะดาวพุธจะอยู่ห่างจากดาวอาทิตย์ได้ไม่เกิน 28 ° และดาวศุกร์จะอยู่ห่างจากดาวอาทิตย์ได้ไม่เกิน 47 °
ในกรณีเช่นนี้ดาวจันทร์ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของโยคนี้ก็จะมีข้อได้เปรียบทางด้านกำลังจากระบบษัฑพละอีกด้วย ซึ่งก็คือได้กำลังจาก"ปักษะพละ"
หากเราตีความจากคำจำกัดความตามมติของมหาฤาษีประราสาระ คำว่า शुभग्रहैः (ศุภะคระไหห์) หมายถึง ดาวเคราะห์ที่ให้คุณหรือให้ศุภผล เช่น ดาวอังคารและดาวเสาร์ก็อาจจะทำให้เกิดเป็น"อธิโยค"ขึ้นมาก็ได้ ทั้งนี้จะต้องขึ้นอยู่กับลัคนาและราศีที่ดาวเหล่านั้นสถิตย์ เช่น ได้ตำแหน่งเป็นอุจน์ เป็นเกษตร ฯลฯ ซึ่งทำให้ดาวบาปเคราะห์เหล่านี้กลายเป็นดาวให้คุณ หรือให้ศุภผล
หากเป็นเช่นนี้ดาวจันทร์ก็ไม่จำเป็นจะต้องเป็นจันทร์ที่มีแสงหรือมีกำลัง หรือได้กำลังจาก "ปักษ์พละ"แต่อย่างใด ดังนั้นคำว่า शुभग्रहैः (ศุภะคระไหห์) ของมหาฤาษีประราสาระ จึงควรตีความได้ว่า ดาวที่ก่อให้เกิด "อธิโยค" นี้ควรเป็นดาวศุภเคราะห์ธรรมชาติ ซึ่งก็คือ ดาวพุธ ดาวศุกร์ และดาวพฤหัส สามดวงนี้เท่านั้น ซึ่งจะตรงกับมติของโหราจารย์วราหะมิหิรา
อ้างอิงจากคัมภีร์ศราวลี "อธิโยค" ถูกจัดอยู่ใน"ราชาโยค"ประเภทหนึ่ง ซึ่งให้ผลในแง่ของอำนาจของราชา หรืออำนาจทางการเมือง ซึ่งมีเงื่อนไขเป็นดาวศุภเคราะห์ธรรมชาติ เช่น ดาวพุธ ดาวศุกร์ และดาวพฤหัส เช่นเดียวกับมติของโหราจารย์วราหะมิหิรา แต่มีเงื่อนไขเพิ่มเติมก็คือ ดาวเหล่านี้ต้องไม่เป็นดาวดับ(อัสตะ)เพราะรัสมีอาทิตย์ อีกทั้งต้องไม่สถิตย์ร่วมกับดาวบาปเคราะห์อื่นๆ
หมายเหตุ-คำว่า”ราชา” หรือ”ราชาโยค” ในคัมภีร์โหราศาสตร์ท่านไม่ได้หมายถึง ความเป็นกษัตริย์อย่างเดียว แต่หมายเอาถึง ความมีสิทธิอำนาจสูงสุดเหนือขอบเขต(อาณาจักร)ที่ตนปกครองอยู่ ซึ่งอาจจะเป็นผู้ใหญ่บ้าน กำนัน นายอำเภอ ผู้ว่าราชการจังหวัด หรือนายกรัฐมนตรี หรือเป็นกษัตริย์ หรือ เจ้าของธุรกิจที่มีขนาดใหญ่ มีสาขา มีอาณาจักรของตนและมีสิทธิอำนาจเด็ดขาดในบริษัทของตนและมีความสุขสะดวกสบายคล้ายพระราชาตามนิยามของคำว่า “ราชาโยค” ซึ่งจะได้เป็นใหญ่เป็นโตหรือมีอำนาจมากน้อยขนาดไหนก็ขึ้นอยู่กับพื้นดวงและความเข้มแข็งของดาวเคราะห์ที่ก่อเป็นรูปราชาโยคขึ้น
ในทางโหราศาสตร์ การตีความตามตัวอักษรอย่างตายตัวไม่ยืดหยุ่นอาจทำให้เราถูกจำกัดทางด้านความคิด แต่การตีความอย่างเสรีภายใต้กรอบทฤษฎีพื้นฐานทางโหราศาสตร์ จะทำให้เราเกิดความเข้าใจที่ดีขึ้นเกี่ยวกับผลของอธิโยค
สำหรับ"อธิโยค" เราสามารถแบ่งออกได้เป็น 7 ประเภท ดังนี้
1) ดาวพุธ ศุกร์ พฤหัส สถิตย์ในเรือนที่ 6, 7 และที่ 8 จากดาวจันทร์
2) ดาวพุธ ศุกร์ พฤหัส ทั้ง 3 ดวง สถิตย์ในเรือนที่ 6 จากดาวจันทร์
3) ดาวพุธ ศุกร์ พฤหัส ทั้ง 3 ดวง สถิตย์ในเรือนที่ 7 จากดาวจันทร์
4) ดาวพุธ ศุกร์ พฤหัส ทั้ง 3 ดวง สถิตย์ในเรือนที่ 8 จากดาวจันทร์
5) ดาวพุธ ศุกร์ พฤหัส สถิตย์ในเรือนที่ 6 และ 7 จากดาวจันทร์
6) ดาวพุธ ศุกร์ พฤหัส สถิตย์ในเรือนที่ 7 และ 8 จากดาวจันทร์
7) ดาวพุธ ศุกร์ พฤหัส สถิตย์ในเรือนที่ 8 และ 6 จากดาวจันทร์
อีกประการหนึ่ง อธิโยคนี้อาจจะแบ่งย่อยออกไปได้อีก หากดาวศุภเคราะห์ทั้ง 3 ดวงนี้สลับสับเปลี่ยนตำแหน่งที่สถิตย์ในเรือนทั้ง 3 (เรือนที่ 6 อริ เรือนที่ 7 ปัตนิและเรือนที่ 8 มรณะ) ผลที่ได้ย่อมแตกต่างกันตามความหมายของเรือนที่ดาวเหล่านี้ไปสถิตย์ นอกจากนี้ก็ยังพิจารณาไปถึงนักษัตรที่ดาวทั้ง 3 ดวงนี้เสวยอีกด้วย ผลที่ได้รับก็ย่อมแตกต่างกันตามความหมายของนักษัตรนั้นๆ
ถ้าหากว่ามี ดาวบาปเคราะห์ สถิตย์ร่วมกับดาวศุภเคราะห์ โหราจารย์บางท่านกล่าวว่าจะทำลายผลของโยค ส่วนท่านอื่น ๆ ถือว่าดาวบาปเคราะห์ก็สามารถเป็นโยคได้ แต่จะทำให้เจ้าชาตากลายเป็นคนโหดร้าย อำมหิต ผลของโยคจะทำให้เจ้าชาตา ได้เป็นราชา รัฐมนตรีหรือผู้บัญชาสูงสุด สามารถเกิดขึ้นได้บางกรณี แต่ในส่วนใหญ่โยคนี้จะนำเจ้าชาตาไปสู่ความร่ำรวยพร้อมๆกับความสำเร็จ นอกจากนี้ยังทำให้เจ้าชาตากลายเป็นผู้มีชื่อเสียง
ดวงตัวอย่าง –ของมหาเศรษฐีบิล เกตส์ (Bill Gates)เกิดเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ค.ศ. 1955 เวลา 21.25 น. ณ เมืองซีแอตเทิล (Seattle 47N 48, 122W19) ประเทศ สหรัฐอเมริกา สมดุลจันทรทศา ดาวเสาร์เสวยอายุขณะเกิด 0 ปี 9 เดือน 21 วัน
ดาวจันทร์อยู่ในเรือนที่ 10 (กรรมะ) และมีดาวศุภเคราะห์อยู่ในเรือนที่ 6, 7 และ 8 จากดาวจันทร์ถูกต้องตามคัมภีร์ ดาวพฤหัสบดีอยู่ในเรือนที่ 6 (อริ)ดาวพุธอยู่ในเรือนที่ 7 (ปัตนิ)และดาวศุกร์อยู่ในเรือนที่ 8 (มรณะ) โดยตำแหน่งดาวและเรือนที่สถิตย์ถือว่าเป็น"อธิโยค"ที่มีกำลังอย่างเต็มเปี่ยม อย่างไรก็ตามสิ่งที่เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับ"อธิโยค"นี้ก็คือดาวจันทร์อยู่สถานะ "ธนะธิปติ" ซึ่งหมายความว่าให้กำลังทางด้านการเงินและทรัพย์สิน (ดาวจันทร์เป็นเจ้าเรือนที่ 2 หรือกดุมภะในชาตานี้) และจันทร์เป็นจันทร์ข้างขึ้นใกล้จะเพ็ญ (ขึ้น 13 ค่ำ) ซึ่งถือว่าดาวจันทร์นี้มีกำลังแรง อีกทั้งสถิตย์ในภพสูงสุดในดวงชาตา คืออยู่ในเรือนที่ 10 (กรรมะ)
ระบบปฏิบัติการ“ Windows” ของ Bill Gates ทำให้เขาเป็นหนึ่งในคนที่รวยที่สุดของโลก ลัคนาราศีมิถุนมีดาวพุธเจ้าเรือนลัคน์ (ลัคนาธิปติ) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ"อธิโยค" ได้ตำแหน่งมหาอุจน์ ซึ่งก็ยิ่งเพิ่มกำลังและความแข็งแกร่งให้กับ"อธิโยค"นี้มากขึ้น
ดาวพุธในฐานะเจ้าเรือนลัคน์ได้รับกำลังเพิ่มเติมจากการอยู่ร่วมกับดาวอังคารเป็น "ลาภะธิปติ" (ดาวแห่งลาภผล) ซึ่งดาวอังคารเป็นเจ้าเรือนที่ 11 (ลาภะ) อยู่ในตำแหน่งเล็งกับดาวจันทร์เจ้าเรือนที่ 2 (กดุมภะ) ทำให้เกิดเป็น ศศิ - มังคลาโยค (จันทรมังคลาโยค) ซึ่งเป็นโยคแห่งความรุ่งเรืองทางด้านการเงินโดยเฉพาะ
ดาวพฤหัสครองราศีสิงห์ซึ่งเป็นราศีคู่มิตร ในขณะที่ดาวศุกร์สถิตย์ในเรือน"มูลตรีโกณ" ก็ยิ่งทำให้"อธิโยค"ได้รับความเข้มแข็งจากหลายปัจจัยมาสนับสนุน ในดวงนี้มี "ลัคนา"อันทรงพลังเป็นอย่างมากซึ่งเพราะเสวย"วรรคอุตมางศะ"(วรโคตรนวางศ์) และนอกจากนี้ก็ยังมี ดาวพุธสถิตย์ในเรือนเกณฑ์ที่ 4 ซึ่งถือว่าเป็น หนึ่งใน"ปัญมหาบุรุษโยค" อีกด้วย