ข้อควรระวัง-การทำลายผลของฤกษ์ยาม
ในการคำนวณฤกษ์ยามมงคลชั้นสูงนั้น จะต้องคำนวณทั้งฤกษ์ฟ้า (นภดล หรือฤกษ์บน) + ฤกษ์ดิน (ภูมิดล หรือ ฤกษ์ล่าง)+ ฤกษ์คน หรือดวงชาตาของคน รวมทั้งสามอย่างให้สมพงศ์กันจึงจะได้ผลสมบูรณ์ที่สุด แต่อย่างไรก็ตามฤกษ์ยามในเริ่มแรกก็เหมือนเด็กเกิดใหม่ เหมือนกับหน่ออ่อนของต้นไม้ที่จะกำลังเจริญเติบโต ดังนั้นผลของฤกษ์ยามก็ต้องรอเวลาให้ผลิดอกออกผลเช่นกัน ไม่ใช่ว่าได้ฤกษ์ดีแล้วจะต้องได้ดีในทันทีทันใดเดี๋ยวนั้นทั้งหมด
ในการนำฤกษ์ยามไปใช้ในแต่ละครั้ง ก็จะต้องเข้าใจว่าในขณะนั้น พลังงานบนฟ้าและดินกำลังจะผสานกับพลังในร่างกายของเรา เพื่อส่งเสริมหรือแก้ไขสิ่งไม่ดีต่าง ๆของดวงชาตาซึ่งในตอนนี้ถือว่าสำคัญมากที่สุดและเป็นหัวใจของฤกษ์ยาม ส่วนโหรฯก็จะกำหนดเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุดเอาไว้ให้ (เวลาปฐมฤกษ์และปัจฉิมฤกษ์) เพื่อท่านผู้ที่ใช้ฤกษ์จะต้องสำรวมระวัง ตั้งอกตั้งใจ ตั้งจิตอธิฐานขอให้มีสิ่งดี ๆเกิดขึ้นกับเราตามความมุ่งหมายของฤกษ์ชนิดนั้น ๆ แต่หากในขณะนั้นเราเกิดอารมณ์ไม่ดี หงุดหงิด โมโห ทะเลาะกับคนอื่น ไม่พอใจ ฯลฯ ก็จะทำให้พลังงานของฤกษ์ฟ้า+ฤกษ์ดินไม่สามารถเข้ามาผสานกับดวงชาตาของเราได้ ทำให้ใช้ฤกษ์ยามไม่ได้ผลและเป็นการทำลายผลของฤกษ์ยามมงคลนั้นให้เสียไป ดังนั้นก็ต้องระวังให้มาก
หากมีเจ้ากรรมนายเวรมาขัดขวางไม่ให้เราใช้ฤกษ์ชั้นสูงนี้ ก็มักจะแฝงตัวมากับคนที่รู้จักแล้วทักว่าวันนี้ไม่ดีนะ จนเราเกิดความสงสัยว่าฤกษ์ที่ได้มานี้ดีจริงหรือไม่ อันความสงสัยนี้เองก็จะทำให้จิตเราสบสัน ซัดส่ายขณะทำพิธีตามฤกษ์จนให้พลังของฤกษ์ยามไม่สามารถผสานพลังกับตัวเราได้อย่างสมบูรณ์ หรือบางรายโดนทักก็ยกเลิกไป แล้วไปหาฤกษ์ในระบบอื่น ๆ ซึ่งเป็นฤกษ์ชั้นสองหรือชั้นสาม (ซึ่งมักจะไม่โดนทัก)
และอีกปัจจัยหนึ่งที่จะทำลายผลของฤกษ์ยามได้มากเช่นเดียวกันก็คือ ดวงชาตา วาสนา โชคเคราะห์ของคนที่อยู่ใกล้ๆกับตัวเราในขณะใช้ฤกษ์ยามนั้น ดวงชาตาของคนไม่ดีที่อยู่ใกล้ๆก็จะส่งผลทำลายฤกษ์ยามมงคลของเราได้อย่างรุนแรงเช่นกัน เพราะตอนนั้นเป็นการผสานพลังงานของฤกษ์ยามของฟ้าดิน หากมีคนอื่น ๆอยู่ใกล้ๆก็จะส่งพลังแทรกเข้ามาสู่ตัวเราได้ง่าย หากเป็นคนดวงไม่ดีมาอยู่ใกล้ๆแล้วก็ยิ่งต้องถอยห่าง คนจีนมักจะเรียกว่าดวงชง ก็คือความหมายนี้
ตัวอย่างเช่น วันนี้ท่านจะไปออกรถใหม่ แต่ท่านนำเพื่อนที่เคยประสบอุบัติเหตุ หรือมีดวงอุบัติเหตุไปร่วมออกรถใหม่ด้วย รถของท่านก็อาจจะต้องประสบอุบัติเหตุตามดวงของเพื่อนด้วย หรือคนเคยติดคุก ติดตะราง เคยล้มเหลวในชีวิต(ยังไม่พื้นตัว) คนมีคดีความ คนดวงแตก แม่หม้าย พ่อหม้าย คนพิการ คนบ้านแตก คนอกตัญญู คนไร้ศีลธรรม ฯลฯ ก็ถือว่าเป็นดวงทำลายผลของฤกษ์มงคลทั้งสิ้น ดังนั้นก็ต้องสำรวจตรวจตราให้รอบคอบไม่ควรให้มาใกล้ตัวเรามากจนเกินไปหรือมาเป็นประธานในการทำพิธีมงคลต่าง ๆ แต่ถ้ามาเป็นแขกโบราณท่านไม่ห้าม
แต่ในทางกลับกัน หากเราได้คนดี มีศีลธรรม มียศศักดิ์ มีตำแหน่ง มีฐานะ มาร่วมทำพิธีในการมงคลต่าง ๆของเรา ก็จะยิ่งเป็นการเสริมดวง เสริมบารมีของเราให้เจริญยิ่งๆขึ้นไป สมัยโบราณถือกันมากโดยเฉพาะพิธีแต่งงาน ซึ่งคนที่จะมาสวมมงคลให้กับคู่บ่าวสาวนั้นจะต้องเป็นผู้ที่มียศศักดิ์ มีฐานะ มีชีวิตครอบครัวที่อบอุ่น มีลูกหลานดี ก็จะถือว่าจะช่วยเสริมมงคลให้กับคู่บ่าวสาวมากยิ่งขึ้น