Website แห่งแรกและแห่งเดียวในเมืองไทย ที่ให้บริการฤกษ์ยามชั้นสูงของโหราศาสตร์ภารตะจากคัมภีร์พระเวทของพราหมณ์อันศักดิ์สิทธิ์ และได้ผลตอบรับดีสูงสุดเป็นปีที่ 15 แล้ว WebSite ของเราให้การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในระดับสูงสุด ด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงจากยุโรป "SiteGuarding" บริการดูฮวงจุ้ย แก้ฮวงจุ้ย เสริมฮวงจุ้ย ด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปี***

 
Horasadpro 2
ประสบการณ์การดูดวงAstro Neemoจากประสบการณ์การตรวจดวงชะตามาหลายสิบปี ผ่านการอ่านดวงชะตามานับหมื่นๆดวง** เรื่องที่คนถามมามากที่สุดก็คือ การงาน การเงิน ความรัก และสุขภาพ แต่ก็ว่าไปแล้ว เรื่องงานคนถามมามากที่สุด เพราะหากงานดี เงินก็ต้องดี อาจจะช่วยเสริมด้านความรักก็เป็นไปได้ หรือเงินดี งานดี ไม่เหนื่อยมาก ก็เสริมเรื่องสุขภาพด้วยเช่นกัน
**(หมายเหตุ)หลายคนสงสัยว่าดูดวงมาแล้วนับหมื่นๆดวง คุณโวโอ้อวดหรือเปล่า อาจารย์จะเล่าให้ฟัง เมื่อหลายสิบปีก่อนยังไม่มีคอมพิวเตอร์ เวลาคำนวนดวงชะตาก็ต้องคำนวณด้วยมือ และเครื่องคิดเลข อาจารย์ทำมาต้งแต่ศึกษาโหราศาสตร์ใหม่ๆ โหรรุ่นก่อนๆรู้ดีว่าทำยังไง ตอนนั้นคำนวนไปกี่ดวงก็ไม่ทราบแต่ทำมาหลายปี 
 

ต่อมาพอมีคอมพิวเตอร์มีอินเตอร์เน็ต ก็ใช้โปรแกรม payakorn.com และไปโล่นแล่นด้วยความคึกคะนองในห้อง ปุจฉา-วิสัชนา นามแฝง Neemo เกือบ 10 ปี คำนวนดวงชะตามานับไม่ถ้วน  ต่อมาในปี 2000-2003 ก็เริ่มมี Pocket PC,windows Mobile ก็ใช้โปรแกรมโฮ๋ราสาด ของลุงบั๊ก อ.สุรพล พฤกษ์ไพบูลย์ ที่ริเริ่มพัฒนาโปรแกรมโหราศาสตร์ อาจารย์ก็ใช้เครื่องนี้คำนวณมาหลายปี  ต่อมามี Notebook และ PC ใช้กันแพร่หลายมากขึ้น มาลุงบั๊ก อ.สุรพล พฤกษ์ไพบูลย์ ก็พัฒนาโปรแกรม Horasad รุ่นแรก อาจารย์ก็ใช้มาหลายปี ต่อมาก็พัฒนาเป็น Horasad Pro ก็ใช้อีกหลายปี  สุดท้ายก็มาเป็นรุ่น Horasad Pro+Flash Drive ก็ใช้คำนวนดวงชะตามาโดยตลอด แต่เพิ่งจะเก็บข้อมูลดวงชะตา เฉพาะรุ่น Horasad Pro+Flash Drive ก็มีมากกว่าหมื่นดวงแล้ว แต่รุ่นก่อนหน้านั้นไม่ได้นับว่าเท่าไหร่
 
นอกจากนี้ก็ใช้โปรแกรมต่างประเทศ โปรแกรมโหราศาสตร์พระเวท(ภารตะ)ของอินเดีย โปรแกรมโหราศาสตร์จีนหลากหลายระบบ คำนวณดวงชะตาทั้งโหราศาสตร์จีน ฮวงจุ้ย โหราศาสตร์พระเวท(ภารตะ) มาหลายสิบปี ( ตั้งแต่มีอินเตอร์เน็ต) อันนี้ก็ดูดวงชะตามากมายนับไม่ถ้วนเช่นกัน แต่เท่าที่ผ่านมาการดูดวงของอาจารย์ไม่เคยเรียกร้องเงินทองเลยแม้แต่บาทเดียว เพราะตอนนั้นอาจารย์ยังทำงานให้กับบริษัทคอมพิวเตอร์ของไต้หวัน ตำแหน่ง country manager อาจารย์ยังพอมีเงินเดือนรายได้ประจำ ก็เลยดูฟรีมาตลอดนับสิบปี ทำให้ได้ประสบการณ์ดูดวงมาอย่างมากมาย มหาศาล ซึ่งตรงนี้สามารถทำให้ทดสอบหลักวิชาว่าอันไหนจริง อันไหนเทียม อันไหนมันเฟ้อจนเกินไปก็ตัดทิ้ง จนแยกแยะหลักวิชาออกมาได้ และได้เคล็ดวิชามาจำนวนมากจากประการณ์จริง
 
จนได้ข้อสรุปของดวงชะตา ไม่ว่าจะดูจากศาสตร์ไหน คำตอบจะต้องตรงกันทั้งหมด เพราะเป็นความจริงของชีวิตคนๆหนึ่งนั้นมีหนึ่งเดียว ไม่ใช่ว่าดูศาสตร์นี้บอกว่าคนนี้จะรวย แต่ดูอีกศาสตร์หนึ่งบอกว่าคนเดียวกันนี้จะจน นั่นหมายความว่ายังไม่เข้าถึงหลักวิชาอย่างแท้จริง จนทำให้การแปลความหมายของดวงชะตานั้นผิดพลาดแล้ว
 
ในเรื่องอาชีพก็เช่นเดียวกัน ในสมัยโบราณมีไม่เพียงกี่อาชีพ อย่างมากมีไม่เกิน 100 อาชีพ เช่น อาชีพทำนา อาชีพช่างไม้ อาชีพล่าสัตว์ อาชีพนักบวช อาชีพรับราชการ อาชีพครู ฯลฯ ดังนั้นคำภีร์โบราณที่ระบุอาชีพเอาไว้ เราต้องตีความให้ออก เพราะในปัจจุบันอาชีพมีนับหมื่นๆอาชีพ แล้วเราจะคัดกรองและพิจารณาเปรียบเทียบอย่างไร ให้เหลืออาชีพหลักๆเพียงอาชีพเดียว แล้วจึงออกคำพยากรณ์ ซึ่งหลายครั้งสามารถออกคำพยากรณ์ด้านอาชีพออกมาได้ละเอียดถึงกับระบุได้ว่า เช่น เป็นว่าเป็นวิศวกรเครื่อง วิศกรไฟฟ้า เครื่องกล คอมพิวเตอร์ หรือ อาชีพนักบัญชี อาชีพครู อาชีพรับราชการ แต่บางดวงก็มีอาชีพหลากหลายอาชีพ ซึ่งอาศัยจากการดูดวงชะตาที่มีดาวเพียง 9 ดวง กับ 12 ช่องเรือนชะตา กับการตีความหมายนับแสนนับล้านเรื่อง ที่จะต้องคัดกรองออกมาเหลือเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น
 
ในเรื่องเวลาเกิดก็เช่นเดียวกัน นาฬิกาตามบ้านเรือนเพิ่งจะมีใช้อย่างแพร่หลายไม่เกิน 100 ปี และที่ผ่านมานับพันปีไม่มีนาฬิกา แทบไม่มีใครทราบเวลาเกิดที่แน่นอนเลย นอกจากชนชั้นสูงหรือคนที่อยู่ในเมืองที่มีนาฬิกาแบบโบราณเอาไว้ใช้จับเวลา แต่โหราศาสตร์มีมากว่า 5000 ปีแล้วและในสมัยก่อนโหราจารย์ท่านใช้หลักอะไรในการวางลัคนาของดวงชะตาที่ไม่มีเวลาเกิด หรือเวลาเกิดไม่แน่นอน และจะพยากรณ์ดวงชะตาอย่างไร ซึ่งนี่แหละคือเคล็ดลับอันหนึ่งในวิชาโหราศาสตร์
 
มีหลายครั้งที่อาจารย์เวลาตรวจดูดวงชะตา ถึงแม้จะมีสูติบัตรบ่งบอกเวลาเกิดอย่างชัดเจนว่ากี่โมงกี่นาที อาจารย์ก็จะไม่เชื่อสูติบัตร แต่จะทำการสอบถามรายละเอียดในอดีตของเจ้าชะตาก่อน หรือแม้กระทั้งหน้าตา ผิวพรรณ ส่วนสูง ฯลฯ เพื่อค้นหาเวลาเกิดที่แท้จริง เพราะมีหลายราย เช่น มีผู้บริหารบริษัทใหญ่ท่านหนึ่ง มาดูดวงชะตา พร้อมบอกวันเดือนปีเกิด เวลาเกิด ที่แน่นอนจากสูติบัตร ว่าเกิด 9 โมง แต่อาจารย์ดูรูปร่างลักษณะต่างๆแล้วปรากฏว่าไม่ใช่ อาจารย์จึงบอกว่า สูติบัตรบันทึกเวลาเกิดผิด จริงๆท่านจะต้องเกิดประมาณ 8 โมง หากเกิด 9โมงตามสูติบัตร หน้าตาผิวพรณท่านจะไม่เป็นอย่างนี้ อีกทั้งฐานะยศศักดิ์ อำนาจบารมีก็จะไม่มีมากมายเช่นนี้
 
อาจารย์จึงขอพยากรณ์ตามเวลาที่อาจารย์คำนวนเองคือ 8 โมง ปรากฏว่าทำนายถูกต้องทั้งหมด ท่านผู้บริหารก็เลยแปลกใจ ผ่านไปอีก 2วัน ท่านก็โทรไปถามคุณแม่ซึ่งอายุมากแล้ว คุณแม่ก็ตอบว่าเกิดตอน 8 โมงจริงๆ แต่พยาบาลลงเวลาหลังจากคลอดไปแล้วเป็นชั่วโมงก็เลยลงเวลาในสูติบัตรเป็น 9 โมง ซึ่งในอดีตไม่ค่อยให้ความสำคัญกับการขานเวลาเกิดมากนัก เพราะคิดว่าไม่จำเป็น ดังนั้นก่อนจะพิจารณาดวงชะตา จำเป็นจะต้องตรวจให้ละเอียด สอบทานข้อมูลต่างๆในอดีตให้ตรงกับความเป็นจริง เพื่อที่จะได้นำมาประกอบการพยากรณ์ในอนาคตต่อไป
 
ยังมีอีกเรื่องที่พบบ่อยก็คือ ลัคนาไม่ตรงกัน คือผู้ที่มาตรวจดวงชะตาเคยไปดูดวงมาก่อนแล้วจากอาจารย์ท่านอื่น ท่านคำนวนแล้วเป็นลัคนาราศีเมษ แต่มาตรวจดวงกับอาจารย์ อาจารย์กลับบอกว่าเป็นราศีพฤษภ นี่คือปัญหาการใช้ปฏิทินโหรที่แตกต่างกัน และวิธีการวางลัคนาที่แตกต่างกัน ซึ่งในเมืองไทยมีการใช้ปฏิทินต่างกันอยู่ 2 ระบบ คือระบบสุริยาตรแบบไทยโบราณ กับระบบดาราศาสตร์(ลาหิรี)แบบอินเดีย ซึ่งทำให้ลัคนาและดวงดาวต่างๆ คลาดเคลื่อนไม่ตรงกัน และอาจารย์โหรทั้งสองฝ่ายต่างก็ว่าตัวเองถูกต้อง และก็พยากรณ์ได้แม่นยำถูกต้องเช่นกันทั้งสองระบบ
 
แต่ปัญหาข้างต้นกลับไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรที่จะต้องมาถกเถียงกัน ใครเรียนระบบไหนมาก็พยากรณ์ไปตามนั้น รับรองว่าไม่ผิดพลาดหากเข้าใจทฤษฎี เรื่องระบบเรือนชะตา คนจำนวนมากมักมีลัคนาคาบเกี่ยวกัน 2 ราศี เพราะจุดลัคนากินองศากว้าง 15 องศาหน้าหลัง จุดลัคนาไปอยู่ราศีไหนมากกว่า 15 องศาเราทำนายราศีนั้นเป็นหลัก และจุดองศาลัคนาอยู่ราศีไหนน้อยกว่า 15 องศาก็ทำนายราศีนั้นเป็นรอง ทำนายทั้งสองราศีผสมผสานกันอย่างมีเทคนิค ส่วนเรื่องดวงดาวสถิตย์ต่างราศีกันก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะตามทฤษฎีดาวทุกดวงจะส่งกำลังไปราศีข้างหน้าหนึ่งราศีเสมอ ยกเว้นดาวพักรจะส่งกำลังกลับกัน เมื่อเราเข้าใจในทฤษฎีนี้แล้ว ไม่ว่าดาวจะอยู่ราศีไหนก็ทำนายได้เสมอ และนำมาใช้กับลัคนาได้เช่นกัน และนี่คือคำตอบและเหตุผลที่ว่า ทำไมปฏิทินสองระบบ ลัคนาและดวงดาวอยู่ต่างราศีกันจึงทำนายได้แม่นยำเหมือนกัน
 
การพิจารณาดวงชะตา เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ไปในตัว โดยมีดาว 9 ดวงและราศีทั้ง 12 ราศี การพยากรณ์ก็คล้ายกับการเล่นหมากรุก ซึ่งต้องพิจารณาทั้งกระดานทั้งสองฝ่าย แล้วนำมาวิเคราะห์ ประเมินผล แล้วค่อยเดินหมาก การพยากรณ์ก็เช่นกันก็ต้องดูทั้งกระดาน ไม่ใช่ดูดาวทีละดวงหรือดูดาวเพียงดวงเดียวแล้วออกคำพยากรณ์ แบบนี้โอกาสพลาดมีอยู่สูงมาก
 
 
เมื่อ 10 กว่าปีก่อน พอมั่นใจในวิชาว่ามีจริง ใช้ได้จริง ทดสอบได้ ครูอาจารย์ ท่านก็บอกว่าให้ลาออกจากงาน ให้มาทำงานด้านโหราศาสตร์ เพื่อช่วยเหลือคน ทั้งดูดวง ดูฤกษ์มงคล ดูฮวงจุ้ย ทำพิธีกรรมตั้งศาลยกเสาเอก วางศิลาฤกษ์ และพิธีบวงสรวงต่างๆ ฯลฯ สุดท้ายก็กลายมาเป็น Astro Neemo จนถึงทุกวันนี้.....