Website แห่งแรกและแห่งเดียวในเมืองไทย ที่ให้บริการฤกษ์ยามชั้นสูงของโหราศาสตร์ภารตะจากคัมภีร์พระเวทของพราหมณ์อันศักดิ์สิทธิ์ และได้ผลตอบรับดีสูงสุดเป็นปีที่ 15 แล้ว WebSite ของเราให้การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในระดับสูงสุด ด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงจากยุโรป "SiteGuarding" บริการดูฮวงจุ้ย แก้ฮวงจุ้ย เสริมฮวงจุ้ย ด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปี***

 

 

 


สังฆกรรมส่วนของพระภิกษุสงฆ์



คำถวายผ้ากฐิน
อิมัง ภันเต, สะปะริวารัง, กะฐินะจีวะระทุสสัง, สังฆัสสะ,
โอโณชะยามะ  สาธุ โน ภัณเต,  สังโฆ,  อิมัง สะปะริวารัง, 
กะฐินะจีวะระทุสสัง,  ปะฏิคคัณหาตุ,  ปะฏิคคะเหตวา จะ, 
อิมินา,  ทุสเสนะ,  กะฐินัง,  อัตถะระตุ,  อัมหากัง,
ทีฆะรัตตัง,  หิตายะ,  สุขายะ,
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ
(คำแปล)
ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ  ข้าพเจ้าทั้งหลาย  ขอน้อมถวาย  ซึ่งผ้ากฐินจีวรกับทั้งบริวารทั้งหลายเหล่านี้ แด่พระสงฆ์   ขอพระสงฆ์จงรับ  ซึ่งผ้ากฐินจีวรกับทั้งบริวารทั้งหลายเหล่านี้  ของข้าพเจ้าทั้งหลาย  ครั้นรับแล้ว   จงกรานกฐิน  ด้วยผ้าผืนนี้   เพื่อประโยชน์  และความสุข แก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย 
และสัตวะทั้ง ๓๑ ภูมิ ให้ถึงซึ่งมัคค ๔ ผล ๔ พระนิพพาน ๑ โดยเฉียบพลันในปัจจุบันชาตินี้เทอญ

คำอุปโลกน์กฐินแบบ ๒ รูป
ผ้ากฐินทานกับทั้งผ้าอานิสังสบริวารทั้งปวงนี้  เป็นของ ....... พร้อมด้วย ....... ผู้ประกอบด้วยศรัทธาอุตสาหะพร้อมเพรียงกันนำมาถวาย แด่พระภิกษุสงฆ์ผู้อยู่จำพรรษาถ้วนไตรมาสในอาวาสนี้
ก็แลผ้ากฐินทานนี้เป็นของบริสุทธิ์ ดุจเลื่อนลอยมาโดยนภากาศ แล้วแลตกลงในที่ประชุมสงฆ์  จะได้จำเพาะเจาะจง ลงว่าเป็นของพระภิกษุรูปใดรูปหนึ่งก็หามิได้ มีพระบรมพุทธานุญาตไว้ว่า  ให้พระสงฆ์ทั้งปวงยอมอนุญาตให้แก่ภิกษุรูปหนึ่ง  เพื่อจะทำซึ่งกฐินัตถารกิจ ตามพระบรมพุทธานุญาต และมีคำพระอรรถกถาจารย์ ผู้รู้พระบรมพุทธาธิบาย สังวรรณนาไว้ว่า ภิกษุรูปใดประกอบด้วยศีลสุตาธิคุณ มีสติปัญญาสามารถ รู้ธรรม ๘ ประการ มีบุพกิจ เป็นต้น  ภิกษุรูปนั้นจึงสมควร เพื่อจะกระทำกฐินัตถารกิจ ตามพระบรมพุทธานุญาตได้   
บัดนี้ พระสงฆ์ทั้งปวง จะพิจารณาเห็นสมควรแก่ภิกษุรูปใด จงพร้อมกันยอมอนุญาตให้แก่ภิกษุรูปนั้น เทอญ.

รูปที่ ๒
ผ้ากฐินทาน กับทั้งผ้าอานิสังสบริวารทั้งปวงนี้ ข้าพเจ้าพิจารณาเห็นสมควรแก่ .......  เป็นผู้มีสติปัญญาสามารถเพื่อกระทำกฐินัตถารกิจ  ให้ถูกต้องตามพระบรมพุทธานุญาตได้ ถ้าพระภิกษุรูปใดเห็นไม่สมควรจงทักท้วงขึ้นในท่ามกลางระหว่างสงฆ์  (หยุดนิดหนึ่ง)    ถ้าเห็นสมควรแล้วไซร้จงให้สัททสัญญาสาธุการขึ้นให้พร้อมกันเทอญ.
(พระสงฆ์ทั้งปวงนั้นอนุโมทนาพร้อมกันว่า "สาธุ")

คำอุปโลกน์กฐินแบบ ๔ รูป
ผ้ากฐินทานกับทั้งผ้าอานิสังสบริวารทั้งปวงนี้  เป็นของ ............... ผู้ประกอบด้วยศรัทธาอุตสาหะน้อมนำมาถวาย แด่พระภิกษุสงฆ์ผู้อยู่จำพรรษาถ้วนไตรมาสในอาวาสนี้
ก็แลผ้ากฐินทานนี้ เป็นของบริสุทธิ์  ดุจเลื่อนลอยมาทางนภากาศ  แล้วแลตกลงในที่ประชุมสงฆ์  จะได้จำเพาะเจาะจง ลงว่าเป็นของพระภิกษุรูปใดรูปหนึ่งก็หามิได้ มีพระบรมพุทธานุญาตไว้ให้แก่ภิกษุผู้มีจีวรอันเก่า หรือจีวรทพพลภาพ หรือภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง ซึ่งมีสติปัญยาสามารถกระทำกฐินัตถารกิจ มิให้เพี้ยนผิด ต้องตามวินัยนิยมบรมพุทธานุญาต
เมื่อได้กรานกฐินแล้วไซร้ อานิสังสคุณจะพึงบังเกิดมี ๕ ประการ คือ อยู่ปราศจากไตรจีวรได้ ไม่ต้องอาบัติด้วยทุติยกฐินสิกขาบท ๑ เก็บอติเรกจีวรไว้ได้ ไม่ต้องอาบัติด้วยปฐมกฐินสิกขาบท ๑ ฉันคณโภชน์ปรัมปรโภชน์ได้ ไม่ต้องอาบัติด้วยคณโภชนะและปรัมปรโภชนะสิกขาบท ๑  เข้าไปในละแวกบ้านได้ ไม่ต้องอาบัติด้วยอนามันตจาริกสิกขาบท ๑ จีวรลาภที่บังเกิดขึ้นในอาวาสจะเป็นของภิกษุผู้ได้กรานกฐินแล้ว ๑ ทั้งจีวรกาลจะยืดออกไปอีก ๔ เดือน ตลอดเหมันตฤดู ดังนี้
บัดนี้ พระสงฆ์ทั้งหลายจะมีความยินยอมพร้อมกันรับกฐินนี้หรือไม่  ถ้ามีความยินยอมพร้อมกันรับกฐินนี้แล้วไซร้ จงให้สัททสัญญา สาธุการขึ้นให้พร้อมกัน เทอญ
(สาธุ)

รูปที่ ๒
สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงอนุญาตกฐินัตถารกิจนั้น ให้เป็นการเฉพาะบุคคล สงฆ์ก็ดี คณะก็ดี จะกรานกฐินไม่ได้ แต่เพราะอนุโมทนาแห่งสงฆ์และคณะและอัตถารกิจแห่งบุคคล  กฐินเป็นอันสงฆ์อันคณะบุคคลกรานได้ ก็แลผ้ากฐินทานนี้ ควรแก่ภิกษุผู้มีจีวรเก่า หรือมีจีวรอันทุพพลภาพ หรือภิกษุรูปใดจะมีอุตสาหะและสามารถทำจีวรกรรม ในวันเดียวนี้ ให้เป็นกฐินัตถารกิจ ต้องตาม พระบรมพุทธานุญาตมิให้วิธีวินัยนิยมทั้งปวงเคลื่อนคลาดได้
บัดนี้ พระสงฆ์ทั้งปวงจะเห็นสมควรแก่พระภิกษุรูปใด จงพร้อมกันยอมอนุญาตให้แก่ภิกษุรูปนั้น เทอญ
(ไม่ต้องสาธุ)
รูปที่ ๓
ผ้ากฐินทาน กับทั้งผ้าอานิสังสบริวารทั้งปวงนี้ ข้าพเจ้าพิจารณาเห็นสมควร แด่.............. ผู้เป็น ........... ในวัดนี้  ซึ่งเป็นพหุสูตทรงธรรม ทรงวินัย เป็นผู้ชี้แจงชักนำให้สพรหมจารีสงฆ์บริษัทรื่นเริง เป็นผู้ให้โอวาทานุศาสน์แก่ภิกษุสามเณรและคฤหัสถ์ เป็นผู้ทรงกฐินมาติกาฉลาดรู้ในวินัยกรรม จะไม่ให้วินัยนิยมนั้นๆ กำเริบได้ และเป็นผู้มีสติปัญญาสามารถ อาจกระทำกฐินัตถารกิจ ให้ต้องตามพระบรมพุทธานุญาตได้
เพราะฉะนั้น ข้าพเจ้าจึงพิจารณาเห็นว่า พระสงฆ์ทั้งปวงจะยินยอมพร้อมกันถวายผ้ากฐินทาน กับทั้งผ้าอานิสังสบริวารทั้งปวงนี้แด่ ...................  ถ้าพระภิกษุรูปใดเห็นไม่สมควร จงทักท้วงขึ้นในท่ามกลางสงฆ์ (หยุดนิดหนึ่ง) ถ้าเห็นสมควรแล้วไซร้ จงสัททสาธุการขึ้นให้พร้อมกัน เทอญ.

รูปที่ ๔
ผ้ากฐินทาน กับทั้งผ้าอานิสังสบริวารทั้งปวงนี้ ถ้าแลพระสงฆ์บริษัทมีเอกฉันทานุมัติ พร้อมกัน ยอมถวายแด่................................... แล้ว ขอพระสงฆ์จงอย่าได้ถือเอาผ้าไตรจีวร ซึ่งเป็นบริวารแห่งผ้ากฐินตามลำดับ ผ้าจำพรรษาเลย จงถวายแด่ .................................... ด้วยอปโลกนวาจานี้ ส่วนผ้ากฐินทานนั้น ถึงพระสงฆ์ทั้งปวงจะยินยอมพร้อมกันถวายด้วย อปโลกนวาจาก็ไม่ขึ้น ต้องถวายด้วยญัตติทุติยกรรมวาจา ตามพระบรมพุทธานุญาต
เพราะฉะนั้น ขอพระสงฆ์จงทำกรรมสันนิษฐานว่า จะถวายผ้ากฐินทานนั้น แด่......................... ด้วยญัตติทุติยกรรมวาจาอันไม่กำเริบ ตามสมควรแก่สถานะ ณ กาลบัดนี้ เทอญ ฯ
(สาธุ)



คำสัตตาหะ
ภิกษุผู้จำพรรษาแล้ว มีกิจจำเป็นต้องไปค้างที่อื่น ท่านให้ทำสัตตาหะกับภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง แล้วไปค้างที่อื่นได้ ๗ ราตรี

สัตตาหะกะระณียัง กิจจัง เม อัตถิ
ตัสมา มะยา คันตัพพัง
อิมัสมิง สัตตาหัพภันตะเร นิวัตติสสามิ.

พิธีการกรานกฐิน

แบบกรรมวาจาสวดให้ผ้ากฐิน
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ     
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ ฯ

สุณาตุ เม ภันเต สังโฆ, อิทัง สังฆัสสะ กะฐินะทุสสัง อุปปันนัง,   ยะทิ สังฆัสสะ ปัตตะกัลลัง, สังโฆ อิมัง กะฐินะทุสสัง อายัสมะโต (อิตถันนามัสสะ) ทะเทยยะ, กะฐินัง อัตถะริตุง, เอสา ญัตติ ฯ
สุณาตุ เม ภันเต สังโฆ, อิทัง สังฆัสสะ กะฐินะทุสสัง อุปปันนัง, สังโฆ อิมัง กะฐินะทุสสัง อายัสมะโต   (อิตถันนามัสสะ) เทติ, กะฐินัง  อัตถะริตุง, ยัสสายัสมะโต ขะมะติ อิมัสสะ กะฐินะทุสสัสสะ อายัสมะโต (อิตถันนามัสสะ)  ทานัง, กะฐินัง อัตถะริตุง, โส ตุณหัสสะ, ยัสสะ นักขะมะติ, โส ภาเสยยะ ฯ
ทินนัง อิทัง สังเฆนะ กะฐินะทุสสัง, อายัสมะโต (อิตถันนามัสสะ) กะฐินัง อัตถะริตุง, ขะมะติ สังฆัสสะ ตัสมา ตุณหี, เอวะเมตัง ธาระยามิ ฯ

หมายเหตุ ในวงเล็บ (อิตถันนามัสสะ)  ให้ใส่ชื่อผู้ครองกฐินแทน

เมื่อสวดจบแล้ว ทำบุพพกรณ์เสร็จแล้ว ผ้ากฐินนั้นทำเป็นจีวรชนิดใด พึงปัจจุทธรณ์ (ถอน) จีวรชนิดนั้นของเดิมแล้วอธิษฐานจีวรใหม่โดย ชื่อนั้น กระทำโดยพระภิกษุองค์ครองกฐิน

วิธีถอน (ธรรมเนียมโบราณ) ท่านให้ยกผ้าเก่าทับผ้าใหม่แล้วกล่าวคำถอนว่า
" อิมํ สงฺฆาฏิ ปจฺจุทธรามิ,
อิมํ อุตฺตราสงฺคํ ปจฺจุทธรามิ,
อิมํ อนฺตรวาสกํ ปจฺจุทธรามิ."
(จะถอนผืนใด พึงกล่าวแต่ผืนนั้นโดยเฉพาะ)

วิธีอธิษฐาน (ธรรมเนียมโบราณ) ท่านให้ยกผ้าใหม่ทับผ้าเก่าแล้วกล่าวคำอธิษฐานว่า
" อิมํ สงฺฆาฏิ อธิฏฐามิ,
อิมํ อุตฺตราสงฺคํ อธิฏฐามิ,
อิมํ อนฺตรวาสกํ อธิฏฐามิ."
(จะอธิษฐานผืนใด พึงกล่าวแต่ผืนนั้นโดยเฉพาะ)

การ กรานกฐิน พระภิกษุองค์ครองกฐินหันหน้าไปทางพระประธาน กราบพระประธานองค์แทนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า กล่าวนะโม ๓ ครั้ง แล้วว่ากรานกฐินให้สงฆ์ได้ยินทั่วกัน จะกรานผ้าสังฆาฏิ อุตตราสงค์ หรืออันตรวาสก ผืนใดผืนหนึ่งก็ได้ คำกรานว่าดังนี้
"อิมาย สงฺฆาฏิยา กฐินํ อตฺถรามิ"   (อิมายะ สังฆาฏิยา กะฐินัง อัตถะรามิ) 
(คำแปล)  ข้าพเจ้ากรานกฐิน ด้วยผ้าสังฆาฏิผืนนี้
"อิมาย อุตตราสงฺเคน กฐินํ อตฺถรามิ" (อิมินา อุตตะราสังเคนะ กะฐินัง อัตถะรามิ)
(คำแปล)  ข้าพเจ้ากรานกฐิน ด้วยผ้าอุตตราสงค์ผืนนี้
"อิมาย อนฺตรวาสเกน กฐินํ อตฺถรามิ" (อิมินา อันตะระวาสะเกนะ กะฐินัง อัตถะรามิ)
(คำแปล)  ข้าพเจ้ากรานกฐิน ด้วยผ้าอันตรวาสกผืนนี้

เมื่อกรานจะพึงทำอย่างไรด้วยจีวรนั้นท่านมิได้กล่าวไว้ แต่โดยอาการที่ทำกันมา มือจับหรือลูบผ้านั้นด้วย ในขณะเปล่งคำกรานนั้นๆ ครั้นกรานเสร็จแล้ว พึงหันหน้ามาหาสงฆ์ทั้งปวง ประนมมือกล่าวว่า
"อตฺถตํ ภนฺเต สงฺฆสฺส กฐินํ
ธมฺมิโก กฐินตฺถาโร อนุโมทถ"
(คำแปล) "ท่านเจ้าข้า กฐิน ของสงฆ์ กรานแล้ว การกรานกฐินเป็นธรรม ขอท่านทั้งหลายอนุโมทนาเถิด"
ภิกษุเหล่านั้น พึงประนมมือ กล่าวคำอนุโมทนาว่า

"อตฺถตํ ภนฺเต สงฺฆสฺส กฐินํ
ธมฺมิโก กฐินตฺถาโร อนุโมทาม"
(คำแปล) "แน่ะเธอ  กฐินของสงฆ์ กรานแล้ว การกรานกฐินเป็นธรรม เราทั้งหลายขออนุโมทนา"
ผู้อนุโมทนาที่พรรษามากกว่าผู้กรานพึงว่า
"อาวุโส" แทน "ภันเต"
เมื่อว่าพร้อมกันถึง "ภันเต"
พึงนิ่งเสีย เพียงเท่านี้ เป็นเสร็จพิธีกรานกฐิน