Website แห่งแรกและแห่งเดียวในเมืองไทย ที่ให้บริการฤกษ์ยามชั้นสูงของโหราศาสตร์ภารตะจากคัมภีร์พระเวทของพราหมณ์อันศักดิ์สิทธิ์ และได้ผลตอบรับดีสูงสุดเป็นปีที่ 15 แล้ว WebSite ของเราให้การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในระดับสูงสุด ด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงจากยุโรป "SiteGuarding" บริการดูฮวงจุ้ย แก้ฮวงจุ้ย เสริมฮวงจุ้ย ด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปี***

สัตตกะ  คือ หมวด ๗

อปริหานิยธรรม ๗ อย่าง

ธรรมไม่เป็นที่ตั้งแห่งความเสื่อม  เป็นไปเพื่อความเจริญฝ่ายเดียว  ชื่อว่า  อปรหานิยธรรม  มี ๗ อย่าง

๑.  หมั่นประชุมกันเนื่องนิตย์

๒.  เมื่อประชุมก็พร้อมเพรียงกันประชุม  เมื่อเลิกประชุมก็พร้อมเพรียงกันเลิก  และพร้อมเพรียงกันทำกิจที่สงฆ์จะต้องทำ

๓.  ไม่บัญญัติสิ่งที่พระพุทธเจ้าไม่บัญญัติขึ้น  ไม่ถอนสิ่งที่พระองค์ทรงบัญัติไว้แล้ว  สมาทานศึกษาอยู่ในสิกขาบทตามที่พระองค์ทรงบัญญัติไว้

๔.  ภิกษุเหล่าใดเป็นผู้ใหญ่เป็นประธานในสงฆ์  เคารพนับถือภิกษุเหล่านั้น  เชื่อฟังถ้อยคำของท่าน

๕.  ไม่ลุอำนาจแก่ความอยากที่เกิดขึ้น

๖.  ยินดีในเสนาสนะป่า

๗.  ตั้งใจอยู่ว่า  เพื่อนภิกษุสามเณรซึ่งเป็นผู้มีศีล  ซึ่งยังไม่มาสู่อาวาส  ขอให้มา  ที่มาแล้วขอให้อยู่เป็นสุข

ธรรม ๗ อย่างนี้  ตั้งอยู่ในผู้ใด  ผู้นั้นไม่มีความเสื่อมเลย  มีแต่ความเจริญฝ่ายเดียว

อริยทรัพย์ ๗

ทรัพย์  คือคุณความดีที่มีอยู่ในสันดานอย่างประเสริฐ  เรียกอริยทรัพย์  มี ๗ อย่าง  คือ

๑.  สัทธา                เชื่อสิ่งที่ควรเชื่อ

๒.  สีล                    รักษา กาย วาจา ให้เรียบร้อย

๓.  หิริ                    ความละอายต่อบาปทุจริต

๔.  โอตตัปปะ         สะดุ้งกลัวต่อบาป

๕.  พาหุสัจจะ        ความเป็นคนเคยได้จินได้ฟังมาก  คือ จำทรงธรรมและรู้ศิลปวิทยามาก

๖.  จาคะ                สละให้ปันสิ่งขิงขิงตนให้แก่คนที่ควรให้ปปัน

๗.  ปัญญา             รอบรู้สิ่งที่เป็นประโยชน์ และไม่เป็นประโยชน์

สัปปุริสธรรม ๗ อย่าง

ธรรมของสัตบุรุษ  เรียกว่า  สัปปุริสธรรม  มี ๗ อย่าง

๑.  ธัมมัญญุตา  ความเป็นผู้รู้จักเหตุ เช่น  รู้จักว่า  สิ่งนี้เป็นเหตุแห่งสุข  สิ่งนี้เป็นเหตุแห่งทุกข์

๒.  อัตถัญญุตา  ความเป็นผู้รู้จักผล  เช่นรู้จักว่า  สุขเป็นผลแห่งเหตุอันใด  ทุกข์เป็นผลแห่งเหตุอันใด

๓.  อัตตัญญุตา  ความเป็นผู้รู้จักตนว่า  เราว่าโดยชาติตระกูล  ยศศักดิ์สมบัติบริวารความรู้และคุณธรรมเพียงเท่านี้ๆ แล้วประพฤติตนให้สมควรแก่ที่เป็นอยู่อย่างไร

๔.  มัตตัญญุตา  ความเป็นผู้รู้ประมาณ  ในการแสวงหาเครื่องเลี้ยงชีวิต  แต่โดยทางที่ชอบ และรู้จักประมาณในการบริโภคแต่พอควร

๕.  กาลัญญุตา  ความเป็นผู้รู้จักกาลเวลาอันสมควรในอันประกอบกิจนั้นๆ

๖.  ปริสัญญุตา  ความเป็นผู้รู้จักประชุมชนและกริยาที่ต้องประพฤติต่อชุมชนนั้นๆ ว่าหมู่นี้เมื่อเข้าไปหา  จะต้องทำกริยาอย่างนี้  จะต้องพูดแบบนี้ เป็นต้น

๗.  ปุคคลปโรปรัญญุตา  ความเป็นผู้รู้จักเลือกบุคคลว่า  ผู้นี้เป็นผู้ดี  ควรคบ  ผู้นี้เป็นคนไม่ดี ไม่ควรคบ  เป็นต้น

สัปปุรสธรรมอีก  ๗ อย่าง

๑.  สัตบุรุษประกอบด้วยธรรม  ๗ ประการ  คือ  มีศรัทธา  มีความละอายต่อบาป  มีความกลัวบาป  เป็นคนได้ยินได้ฟังมาก  เป็นคนมีความเพียร  เป็นคนมีสติมั่นคง  เป็นคนมีปัญญา

๒.  จะปรึกษาสิ่งใดกับใครๆ ก็ไม่ปรึกษาเพื่อจะเบียดเบียนตนและผู้อื่น

๓.  จะคิดสิ่งใดก็ไม่คิดเพื่อเบียดเบียนตนและผู้อื่น

๔.  จะพูดสิ่งใดก็พูดเพื่อไม่เบียดเบียนตนและผู้อื่น

๕.  จะทำสิ่งใดก็ไม่ทำเพื่อเบียดเบียนตนและผู้อื่น

๖.  มีความเห็นชอบ  มีเห็นว่า  ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว  เป็นต้น

๗.  ให้ทานโดยเคารพ  คือเอื้อเฟื้อแก่ของที่ตัวเองให้  และผู้รับทานนั้น  ไม่ทำอาการดุจทิ้งเสีย