หมวด: ดาวเคราะห์และดาวอุปเคราะห์ ในโหราศาสตร์พระเวท
จำนวนผู้อ่าน: 1750

Upagrahas effect Part 2

ในบทนี้ผู้เขียนจะกล่าวถึงอิทธิพลของดาวอุปเคราะห์ในกลุ่ม ธูมะก่อนเป็นอันดับแรก และสิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับดาวอุปเคราะห์ในดวงชะตาก็คือ ดาวอุปเคราะห์แม้จะเป็นเพียงแค่เงาแต่ก็สามารถที่จะก่อให้เกิดการทำลายล้างและทำอันตรายต่อเรือนที่ดาวอุปเคราะห์เหล่านั้นสถิตย์ 

แต่มหาฤษี ปะราศะระ ท่าน กล่าวไว้ว่ามีบางตำแหน่งในดวงชะตา ซึ่งสามารถทำให้ดาวอุปเคราะห์ร้ายให้โทษรุนแรงเหล่านี้กลับกลายเป็นให้ผลดีได้ก็มีอยู่

และหากเราศึกษาต่อไปเราจะก็เห็นว่าดาวอุปเคราะห์ 3 ใน 5 ดวงของกลุ่มธูมะนั้นจะมีอิทธิพลในด้านดีและส่งเสริมเรือนที่ดาวอุปเคราะห์นั้นสถิตย์ แต่สำหรับดาวอุปเคราะห์ที่เหลือนั้น ก็จะเป็นไปตามหลักการทั่วไปที่ระบุไว้ว่าดาวอุปเคราะห์ ส่วนใหญ่แล้วจริงๆก็คือ"ดาวบาปเคราะห์"ที่มองไม่เห็น

อ้างอิงจากทฤษฎีทั่วไปของของโหราศาสตร์พระเวท กล่าวไว้ว่าดาวบาปเคราะห์ มักจะให้ผลดีหากสถิตย์อยู่ในเรือนอุปจัย ซึ่งก็คือเรือนที่ 3, 6 และ 11 ซึ่งเรือนอุปจัยเหล่านี้จริงๆก็คือเรือนแห่งปัญหาและอุปสรรค ความกดดันและความตึงเครียด และการที่มีดาวบาปเคราะห์สถิตเรือนอุปจัยนั้น ก็จะสามารถให้พลังแก่เราในการจัดการกับปัญหาและอุปสรรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ส่วนดาวอุปเคราะห์ให้บาปผลรุนแรงนั้นก็อาจจะกลับกลายเป็นให้ผลดีได้เช่นกัน เช่น ถ้าหากสถิตย์อยู่ใกล้กับเรือนที่ 10 ในพื้นดวงชะตา ซึ่งเรือนที่ 10 ถือว่าเป็นตำแหน่งที่ทรงอิทธิพลต่อดวงชะตามากที่สุด

 

ผลดี-ร้ายของดาวอุปเคราะห์ธูมะมีดังนี้

1.ธูมะ(धूम) เป็นบุตรของพระอังคาร ความหมายของ ธูมะ ในภาษาสันสกฤต หมายถึง ควัน, หมอก, ควัน, ธูป, และนักบุญ และต่อไปนี้จะกล่าวถึงผลดี ผลร้ายของ ธูมะ ที่สถิตในเรือนต่างๆ ในดวงชะตา ซึ่งอ้างอิงจากคัมภีร์พฤหัตปะราศะระ โหราศาสตรา อัธยายะที่ 25 ได้กล่าวไว้ดังนี้

เรือนที่ 1 : เจ้าชะตาจะมีอุปนิสัยห้าวหาญ ประกอบกับมีนัยน์ตางดงาม แต่มักขาดสติ  อุปนิสัยเหี้ยมโหดไร้ความปรานี จิตใจชั่วร้าย และมักจะมีอารมณ์ชั่ววูบเสมอ

เรือนที่ 2 : เจ้าชะตาบางคนมักจะเจ็บป่วยด้วยโรคภัยรุมเร้าเสมอๆ แต่เจ้าชะตาบางคนจะมั่งคั่ง เจ้าชะตาบางคนพิการไร้แขนขา เจ้าชะตาบางคนต้องพบกับอัปยศอดสูในวงศ์ตระกูล เจ้าชะตาบางคนฉลาดมีไหวพริบและเจ้าชะตาบางคนจะเป็นขันที หรือ ผิดเพศ

เรือนที่ 3 :เจ้าชะตาจะเลียวฉลาด กล้าหาญ ร่าเริง มีวาทะอันคมคาย ประกอบด้วยมนุษย์สมบัติ เป็นสุภาพบุรุษและมั่งคั่งด้วยทรัพย์สมบัติ

เรือนที่ 4:เจ้าชะตาจะเสียใจเพราะสูญเสียคู่ชีวิต แต่มีความรู้และเชี่ยวชาญในศาสตร์ทั้งหลาย

เรือนที่ 5 : เจ้าชะตาจะมีบุตรลูกหลานน้อย อัตคัดขันสน ไร้ทรัพย์สิน ไม่มีทั้งมิตรและแม้แต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่จะช่วยเหลือก็จะไม่มี

เรือนที่ 6: เจ้าชะตาจะเข้มแข็ง แข็งแกร่ง สามารถพิชิตศัตรู ที่เก่งกาจให่สยบราบคาบ อีกทั้งจะมีชื่อเสียงโด่งดัง และปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ

เรือนที่ 7: เจ้าชะตาจะเป็นคนสิ้นเนื้อประดาตัว ไร้ค่า มีตัณหาราคะรุนแรง ชอบประพฤติผิดประเวณี ชะตาชีวิตอับเฉา

เรือนที่ 8 : เจ้าชะตาจะเป็นคนใจร้อน แต่ไม่มีความกล้าหาญ ไม่มีความซื่อสัตย์จริงใจ มักจะไม่ลงรอยกับผู้อื่นเสมอ เป็นคนใจแข็งกระด้าง และเห็นแก่ตัว

เรือนที่ 9 : เจ้าชะตาจะมีบุตรหลานดีและมั่งมีโภคทรัพย์ มั่งคั่ง มีเกียรติ จิตใจดี มีศีลธรรม มีอัธยาศัยดี ชอบชี้แนะอบรมสั่งสอนผู้คนให้ทำความดี มีญาติพี่น้องดี และเป็นคนประพฤติตามขนบธรรมเนียมที่ดีงาม ไม่นอกลู่นอกทาง

เรือนที่ 10 :เจ้าชะตาจะมีบุตรหลานดีและมีโภคทรัพย์มาก มีความสุขสำราญใจ มีปัญญามาก รักความสัตย์จริง

เรือนที่ 11: เจ้าชะตาจะมั่งคั่งร่ำรวยเงินทอง มีรูปงาม รู้ศิลปะทั้งปวง รู้จักประมาณตน และเป็นศิลปินนักร้องที่มีความสามารถ

เรือนที่ 12: เจ้าชะตาจะเป็นขาดศีลธรรม หมกมุ่นอยู่กับบาป สนใจแต่เรื่องชู้สาว ติดอบายมุข ไร้ซึ่งความเมตตาและเจ้าเล่ห์เพทุบาย

ให้สังเกตว่าคุณสมบัติในด้านดีของ ธูมะ จะแสดงผลในเรือนที่ 3 และ 6 และ หากธูมะสถิตย์ในเรือนที่ 9, 10 และ 11 ธูมะก็จะสามารถส่งผลดีได้มากที่สุดในดวงชะตา

จากผลดีผลร้ายข้างต้นเราก็จะเห็นว่า ผลของดาวอุปเคราะห์นั้นมีพลังรุนแรงและส่งอิทธิพลต่อดวงชะตาได้อย่างมากมายเพียงไร และก็มีผลไม่น้อยไปกว่าดาวเคราะห์ทั้ง 9 ที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบัน และดาวอุปเคราะห์ทั้งหลายนั้นในโหราศาสตร์พระเวทก็ได้ใช้กันมานานนับนับพันๆปีมาแล้ว และหากเราได้ศึกษาในเรื่องดาวอุปเคราะห์นี้ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น ก็เท่ากับได้เติมเต็มและต่อยอดความรู้ทางโหราศาสตร์ระบบนิรายนะของเราให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น

------------------------------------------------------------------------------