ติดต่อสอบถาม กรุณาแอด Line @astroneemo

  • Slider 1
  • Slider 2
  • Slider 3
  • Slider 4
  • Slider 5
  • Slider 6
  • Slider 7
  • Slider 8

Website แห่งแรกและแห่งเดียวในเมืองไทย ที่ให้บริการฤกษ์ยามชั้นสูงของโหราศาสตร์ภารตะจากคัมภีร์พระเวทของพราหมณ์อันศักดิ์สิทธิ์ และได้ผลตอบรับดีสูงสุดเป็นปีที่ 15 แล้ว WebSite ของเราให้การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในระดับสูงสุด ด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงจากยุโรป "SiteGuarding" บริการดูฮวงจุ้ย แก้ฮวงจุ้ย เสริมฮวงจุ้ย ด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปี***

บทที่ 9

พยากรณ์เหตุการณ์จร

˜

โหราศาสตร์ภารตะ มีวิธีพยากรณ์ระยะเวลาของเหตุการณ์จรที่ปรากฏอยู่แล้วในชะตากำเนิดเช่น  การสมรส  การเกิดและตายของบุตร  ความมรณะของบิดามารดา  การได้และเสียเงิน  ผลสำเร็จในเรื่องทรัพย์สิน  การเสียชื่อเสียงและการได้ชื่อเสียงดีขึ้นและผลของเหตุการณ์ต่าง ๆ มากมายที่เกิดขึ้นในระหว่างชีวิต  ในคัมภีร์ภารตะภาคมหาทศาและภาคพยากรณ์  มีข้อความที่ให้ประโยชน์ในการพยากรณ์จรในระยะต่าง ๆ โดยครบถ้วน  ในตำราเล่มเล็กนี้กล่าวไว้เป็นสังเขปให้นักศึกษาได้เข้าใจความหมายต่าง ๆ พอสมควร.

ทศาในคัมภีร์โหราศาสตร์ภารตะมีมากหลายอย่าง  แต่ละอย่างท่านโหราจารย์แต่สมัยโบราณกาลได้กำหนดไว้ให้ใช้เฉพาะแก่แต่ละลักษณะของดวงชะตา เช่นวิมโสตรีทศา  โษทโสตรีทศา  ทวาทโสตรีทศา  อัสโตตรีทศา ฯลฯ  เป็นต้น  ท่านโหราจารย์ผู้ชำนาญทางทศาได้กล่าวไว้ว่า  ทศาที่ได้ผลปรากฏใกล้เคียงความเป็นจริงมากที่สุด ได้แก่วิมโสตรีทศา  ในวิธีของทศานี้มีระยะเวลาครองอายุ 9 ระยะในระยะหนึ่ง ๆ มีดาวเคราะห์เป็นเจ้าการ  ในตารางต่อไปนี้เป็นกำหนดระยะเวลาเป็นจำนวนปี  สำหรับระยะหนึ่ง ๆ ที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของดาวเคราะห์เจ้าการอันเนื่องมาแต่กลุ่มดาวนักษัตร.


บาท  ราศีเมษ              บาท ราศีสิงห์             บาท ราศีธนู

4  อัสวินี                                4  มาฆะ                                               4  มูละ                                   เกตุ      7   ปี

4  ภาระนี                              4  บุพพะ                               4  ปุระพาษาธ                      ศุกร์   20   ,,

1  กฤตติกา                            1  อุตตรา                               1  อุตตราษาธ                       อาทิตย์ 6  ,,

ราศีพฤษภ                   ราศีกันย์                      ราศีมกร

3  กฤตติกา                            3  อุตตรา                              3  อุตตราษาธ                       อาทิตย์

4  โรหิณี                               4  หัสตะ                               4  สราวนะ                           จันทร์  10       ปี

2  มฤคศิระ                           2  จิตตะ                                 2  ธนิษฎ                               อังคาร   7        ,,


ราศีมิถุน                      ราศีตุลย์                      ราศีกุมภ์

2  มฤคศิระ                           2  จิตตะ                                2  ธนิษฎ                               อังคาร

4  อาริทระ                            5  สวาดิ                                 4  สตะภิษ                             ราหู  18           ,,

3  ปุนารพาสุ                        3  วิสาขะ                              3  ปุรพาภัทร์                        พฤหัสบดี 16  ,,


ราศีกรกฎ                     ราศีพฤศจิก                 ราศีมีน

1  ปุนารพาสุ                        1  วิสาขะ                             1  ปุรพาภัรทร์                      พฤหัสบดี       ,,

4  ปุษยมิ                                4  อนุราช                              4  อุตตราภัทร์                      เสาร์  19         ,,

4  อัลเลษะ                            4  เชษฏ                                 4  เรวดี                                  พุธ  17           ,,


ในระยะเวลาของดาวเคราะห์เจ้าการที่ได้ชื่อว่ามหาทศาหรือทศาแบ่งเป็นส่วน ส่วนย่อยออกเป็นอนุทศาหรือภุกถิส  แล้วยังเป็นส่วนย่อยเป็นจุลทศาต่อไปอีกหลายชั้นจนได้จำนวนเวลาเพียงชั่วหายใจเข้าออก   แต่ที่ได้ผลดีจริง ๆ เพียงอนุทศาก็พอสมความต้องการแล้ว.

ทศาแรกที่เจ้าครองอายุเมื่อเกิดได้จากกลุ่มดาวนักษัตฤษ์  ที่ดาวเคราะห์จันทร์เสวยเมื่อเกิด  ระยะเวลาของทศาแรกที่เข้าครองอายุคำนวณได้จากทีฆันดรหรือสผุสหรือทีสถิตของดาวเคราห์จันทร์เมื่อเกิด  ในชะตาตัวอย่างจันทร์อยู่ในราศีธนูได้ 22 องศา 35 ลิปดา  ในตารางจะเห็นว่าในราศีธนูมี 4 บาทของมูละ 4 บาทของประพาษาธ  และ 1 บาทของอุตตราษาธ  บาท 1 มีระยะ 3 องศา  ลิปดา  ดังนั้น 4 บาทของมูละเท่ากับ 13 องศา  20 ลิปดา  และ (ทีฆันดรของจันทร์)  22 องศา  35 ลิปดา

ลบด้วย 13 องศา 20 ลิปดา  (ระยะของมูละ)  เหลือ 9 องศา 15 ลิปดา  จำนวนที่เหลือนี้เป็นจำนวนที่จันทร์ผ่านเข้าในปุรพาษาธเมื่อเกิด  ในตารางแสดงว่านักขัตฤกษ์ปุรพาษาธมีดาวเคราะห์ศุกร์เป็นเจ้าการ 20 ปี  ฤกษ์หนึ่ง 13 องศา 20 ลิปดาจะหาจำนวนเวลาของ 9 องศา 15 ลิปดาที่จันทร์ผ่านไปแล้วในฤกษ์ปุรพาษาธเมื่อเกิด.

13  องศา  20  ลิปดา  (800 ลิปดา)                                  20  ปี

1  ลิปดา (20 X 12 X 30) ÷ 800                              =    9  วัน

9  องศา 14 ลิปดา  (555 ลิปดา)  (9 X 555) ÷ 30 ÷ 12 = 13 ปี  10 เดือน  15 วันนี้เป็นจำนวนดุลยภาคก่อน เกิดหรืออดีตกาลที่ผ่านไปแล้วก่อนเกิดและตั้งแต่เกิดได้จำนวนเวลาดุลยภาค  ตั้งแต่เกิดหรืออนาคตกาล  (20 ปี – 13 ปี 10 เดือน 15 วัน)  =  6 ปี 1 เดือน 15 วัน   เป็นอนาคตกาลของทศาศุกร์  คือเป็นจำนวนเวลาของมหาทศาศุกร์ที่จะครองอายุตั้งแต่เกิด  และสิ้นสุดลงเมื่ออายุได้ 6 ปี 1 เดือน 15 วัน.

ในมหาทศาหนึ่งมีอนุทศาแทรกเป็นระยะครบ 9 ระยะ  จำนวนเวลาของระยะแทรกระยะหนึ่ง ๆ ได้จากจำนวนสัมพันธ์ตามอัตราของกำลังดาวเคราะห์เจ้าการมหาทศา ลาวเคราะห์เจ้าการอนุทศาทีแทรก  เมื่อได้มหาทศาแล้วต้องหาอนุทศาต่อไปดังนี้  เอากำลังดาวเคราะห์อนุทศา (เป็นปี) คูณกำลังดาวเคราะห์มหาทศา (เป็นปี)  ได้ผลลัพธ์เท่าไรเป็นจำนวนวัน  สมมุติว่าต้องการอนุทศาของเสาร์ในมหาทศาของพุธกำลังของดาวเคราะห์เสาร์ 19 ปี ของพุธ 17 ปี  เอา 19 คูณ ได้ 323 ตัดเลข 3 ตัวสุดท้ายออกเหลือข้างหน้า 32 เดือน เอา 3 คูณ 3 ตัวสุดท้ายที่ตัดออกได้ 9 เป็นวัน = 32 เดือน  หรือ 2 ปี 8 เดือน 9 วัน.

อดีตกาลของมหาทศาที่ผ่านพ้นไปแล้วก่อนเกิดมีจำนวนเวลาของอนุทศาผ่านไป แล้วด้วย  เมื่อเกิดจะอยู่ในระยะเวลาของอนุทศาอะไร  ให้หาจำนวนเวลาของแต่ละอนุทศาในมหาทศาที่ครองอายุเมื่อเกิด  แล้วบวกต่อ ๆ กันไปตามลำดับจนได้จำนวนใกล้

เคียงกับจำนวนอดีตกาล  เอาอตีตกาลหักออกเหลือเป็นอนาคตกาลเฉพาะของอนุทศาเมื่อเกิด.

ตัวอย่าง : หาอนาคตกาลเฉพาะของอนุทศาเมื่อเกิด  ในเมื่ออนาคตกาลของมหาทศาศุกร์ยังอยู่อีก 6 ปี 1 เดือน 15 วัน.

มหาทศาศุกร์ 20 ปี อดีตกาล 13 ปี 10 เดือน 15 วันอนาคตกาล 6 ปี 1 เดือน 15 วัน.

อนุทศา                  ศุกร์                 ในมหาทศาศุกร์       3     ปี        4      เดือน     0      วัน

,,                        อาทิตย์                     ,,              ,,         1      ,,       0         ,,         0        ,,

,,                         จันทร์                       ,,              ,,         1      ,,       8         ,,         0        ,,

,,                         อังคาร                      ,,              ,,         1      ,,       2         ,,         0        ,,

อนุทศา                  ราหู                 ในมหาทศาศุกร์       3     ปี        0      เดือน     0      วัน

,,                        พฤหัสบดี              ,,               ,,         2      ,,       8         ,,         0        ,,

,,                        เสาร์                     ,,              ,,         3      ,,       2         ,,         0        ,,

ได้ 16 ปี 0 เดือน 0 วัน

ดังนั้น 16 ปี ลบด้วย 13 ปี 10 เดือน 15 วันได้ 2 ปี 1 เดือน 15 วัน  คือเป็นอนาคตกาลของอนุทศาเสาร์  ในมหาทศาศุกร์เมื่อเกิด  หรือเมื่อเกิดอยู่ในอนุทศาเสาร์ของมหาทศาศุกร์จนถึง อายุ 2 ปี 1 เดือน 15 วัน.


การวินิจฉัย มีสิ่งพิจารณามากหลายที่จะต้องถือเอาเป็นข้อสังเกตในการวินิจฉัยผลของมหาทศาและอนุทศา  จะต้องพิจารณาน้ำหนักของผลต่าง ๆ ที่เนื่องจากดาวเคราะห์ด้วยความระมัดระวังอย่างรอบคอบ  ถ้าเมื่อประสบผลที่เข้ากันไม่ได้ต้องยับยั้งการลงความเห็นไว้ก่อน  แล้วพิจารณาหาเหตุผลอื่น ๆ ต่อไปอย่างละเอียด เช่น เมื่อจะพยากรณ์เหตุการณ์ในระยะเวลาครองอายุของทศานั้น ๆ คงจะต้องพิจารณาเครือสัมพันธ์ระหว่างดาวเคราะห์เจ้ามหาทศาและเจ้าอนุทศา ฯลฯ เป็นการลำบากอย่างยิ่ง ที่จะกำหนดผลเฉพาะอย่างหนึ่งอย่างใดให้แน่นอนตายตัวลงไปให้ใช้ได้ทั่วไปทั้งหมด  การ

ลงความเห็นจะทำได้ต่อเมื่อได้พิจารณากำลังและการสัมพันธ์ในลักษณะต่าง ๆ ของดาวเคราะห์แล้ว  การพยากรณ์ต้องสนใจในลักษณะประเภท  ชนิดของบุคคลที่ให้พยากรณ์ภายใต้เงื่อนไขที่อาจเป็นไปได้ในชีวิตและร่างกายของบุคคลนั้น  ในทฤษฎีทั่ว ๆ ไปจะกล่าวได้เพียงว่า  ในระหว่างทศาของดาวเคราะห์ใด  ดาวเคราะห์นั้นจะให้ผลเกี่ยวเนื่องจากเรือนที่ครองหรือเป็นเกณฑ์  หากว่าเจ้าเรือนอยู่ในที่ดีเช่นเป็น  เกษตรอุจจ์มูลตรีโกณหรือเรือนมิตร  หรือร่วมด้วยโยคการกหรือมีกำลังดีอย่างอื่น ๆ จะให้ผลดีในระหว่างทศาของดาวเคราะห์นั้น  เช่นถ้าตนุลัคน์มีกำลังแรงในระหว่างทศาของตนุลัคน์เจ้าชะตามีความสุขทั้งกายและใจทรัพย์สินจะเพิ่มพูนขึ้น  ถ้าหากว่าตนุลัคน์เป็นนิจจ์หรือร่วมด้วยเจ้าเรือนที่ 3 หรือที่ 11 ในระหว่างทศาของตนุลัคน์เจ้าชตาจะรับทุกข์ทรมาน  เพราะความเจ็บป่วย  ปราศจากความสุขและอยู่ในความระทมทุกข์.

ตัวอย่าง : วินิจฉัยทศาของพฤหัสบดีในดวงชะตานี้.


พฤหัสบดี เป็นเจ้าเรือนที่ 2 และที่ 11 สถิตในเรือนที่ 10 พฤหัสบดีเป็นเจ้าเรือนที่ 2 ดีทางทรพัย์สินพฤหัสบดีในชะตานี้มีจันทร์ (เจ้าเรือนที่ 6)  และเสาร์  (ตนุลัคน์และเจ้าเรือน 12)  ทีเล็ง  อังคารเป็นเจ้าเรือนที่ 3 และที่ 10 ในระหว่างทศาของพฤหัสบดีผลที่ได้จากพฤหัสบดี คือ ผลส่วนใหญ่เป็นผลของเรือนที่ 2 (ทรัพย์สินครอบครัวและอิทธิพล)  และจะให้ผลเนื่องจากเรือนที่ 1 ที่ 6 และที่ 3 ด้วย เช่นเจ้าชะตาจะรับผลดีโชคดีมากมายในการอาชีพคนในครอบครัวจะเพิ่มขึ้นเพราะพฤหัสบดีเป็นการกของปุตะ  เจ้าชะตาจะออกเดินทางโดดเดี่ยวโดยลำพังเพราะพฤหัสบดีอยู่ในเรือนที่ 10 เพราะจันทร์เป็นเจ้าเรือนที่ 6 เสาร์เป็นตนุลัคน์เล็งพฤหัสบดี  เจ้าชะตาอาจเสียชื่อเสียงเกิดความร้อนใจทุกข์ใจ  (ทั้งในอนุทศาของพฤหัสบดีด้วย)  เรือนที่ 4 เป็นเจ้าการของทรัพย์สินที่ดินการศึกษา ฯลฯ

พฤหัสบดีรับเกณฑ์เล็งของจันทร์และเสาร์จาก เรือนที่ 4 ดังนั้นเจ้าชะตาจะได้ซื้อ  บ้านเรือน และที่ดิน.

ตามข้างบนนี้จะเห็นได้ว่าดาวเคราะห์สามารถให้เกิดผลได้ต่าง ๆ โดยยึดหลักเจ้าเรือน  เกณฑ์ที่สถิตและการสัมพันธ์  ดังนั้นในการตีความหมายผลของทศาและอนุทศาจะต้องปฏิบัติด้วยความระวังอย่างกวดขัน  ในการวิเคราะห์คุณภาพและปริมาณของผลที่ได้จากดาวเคราะห์ในทศาของดาวเคราะห์นั้น  เจ้าทศามีคุณภาพและปริมาณของผลที่ได้จากดาวเคราะห์ในทศาของดาวเคราะห์นั้น  เจ้าทศามีคุณภาพของตัวเองปรากฏอยู่แล้ว  แต่จะต้องเปลี่ยนแปลงไปโดยธรรมชาติของเรือน  ธรรมชาติลักษณะของเกณฑ์ที่สถิตที่เป็นผลดีและไม่เป็นผลดีของเจ้าทศา  ในนวางส์จักรและส่วนย่อยอื่น ๆ เหล่านี้ต้องพิจารณาให้ทั่วถึง  เหตุชนิดเดียวกันนี้ใช้ได้เหมือนกันในการหาผลของอนุทศา  ในเรื่องหลังนี้อย่างไรก็ดีก็จะต้งอยกเอาเครือสัมพันธ์ถาวร  และเครือสัมพันธ์ในดวงชะตาขึ้นพิจารณาระหว่างดาวเคราะห์เจ้ามหาทศา (ทศานาถ)  และดาวเคราะห์เจ้าอนุทศา (ภุกถินาถ)  และกรณีอื่น ๆ ที่จะช่วยในการวินิจฉัยเช่น :

1.  ระหว่างทศาของเจ้าเรือนที่ 6 และที่ 8 ให้ผลเป็นอันตราย  เว้นแต่ดาวเคราะห์นั้น  ๆ จะได้ศุภผลอื่น ๆ .

2.  ผลของดาวเคราะห์เจ้าทศาจะแรงขึ้นในเวลาที่อาทิตย์ผ่านราศีที่ดาวเคราะห์นั้นสถิต  หรือราศีที่เป็นเรือนเกษตรของดาวเคราะห์นั้น.

3. ดาวเคราะห์ที่ให้ผลในทศาหนึ่งได้  ให้ผลโดยอาศัยความหมายจากเจ้าเรือน  การสัมพันธ์ที่สถิต  และการเป็นเกณฑ์.

4.  ผลของดาวเคราะห์เจ้าทศาที่ปรากฏอยู่แล้ว  จะเปลี่ยนแปลงไปโดยผลของการโคจรของดาวเคราะห์นั้น.

5.  ระหว่างทศาของเจ้าเรือนที่ 5 และที่ 9 กล่าวว่าให้ผลดี.

6.  จะประสบผลร้าย  เมื่อเจ้าอนุทศาและเจ้ามหาทศาสถิตอยู่ในที่เป็น 6 และ 8 หรือ 12 และ 2 จากกันตามลำดับ.

7.  จะต้องถือเอาผลต่าง ๆ ของดาวเคราะห์ดังที่ได้อธิบายมานี้อยู่ในข่ายของการพิจารณาด้วยดี  ทั้งเครือสัมพันธ์ธรรมชาติ  (เครือสัมพันธ์ถาวร)  และเครือสัมพันธ์

ชั่วคราว  ในดวงชะตาด้วยเหมือนกัน  เช่นอาทิตย์และศุกร์  ถึงแม้ว่าเป็นศัตรูโดยธรรมชาติ  แต่ถ้าอาทิตย์อยู่ในราศี สิงห์  ศุกร์  อยู่ในราศีตุลย์  ถ้าเป็นเช่นนี้อยู่ในฐานะมิตรชั่วคราวที่ดีโดยที่ครองราศีที่ 3 และที่ 11 แก่กันและกัน  การวินิจฉัยจะต้องกระทำดังนั้นแต่จะต้องเข้าใจไว้ว่าผลของการเป็นมิตรชั่วคราวนั้นไม่อยู่ในฐานะเหนือ  การเป็นศัตรูในกฎถาวร.

ระหว่างทศาของเจ้าเรือนที่ 2 เจ้าชะตาได้สมความหวัง ได้ผลสำเร็จในเรื่องครอบครัว  ถ้ายังไม่ได้แต่งงานจะได้แต่งงาน  ได้ผลประโยชน์และผลดีต่าง ๆ .

ระหว่างทศาของดาวเคราะห์ที่มีกำลังแรง และเป็นเจ้าเรือนที่ 3 เจ้าชะตามีความหวังในความช่วยเหลือจากพี่น้อง  และร่วมงานกับญาติ  ได้รับเกียรติและความเห็นชอบด้วยจากผู้อื่น.

ระหว่างทศาของเจ้าเรือนที่ 4 ช่วยเหลือเครือญาติ  ได้ยานพาหนะ  ที่ดินและที่บ้านเรือนและฐานะสูงขึ้น.

ระหว่างทศาของเจ้าเรือนที่ 5 ความสำราญ  ได้บุตร  ความเจริญทั่วไป.

ระหว่างทศาของเจ้าเรือนที่ 6  สุขกายใจเพราะสุขภาพสมบูรณ์  มีผลดีเหนือศัตรูและผลดีในการเป็นความ.

ระหว่างทศาของเจ้าเรือนที่ 7  ได้แต่งงานถ้ายังไม่ได้แต่งงาน  หรือมีความสุขเพราะการแต่งงาน  พอใจในการเดินทาง  ครอบครัวมีความสุข.

ระหว่างทศาของเจ้าเรือนที่ 8  ได้ปลดเปลื้องหนี้สิน  เกิดความดีงามและผลดีทั่ว ๆ ไป.

ระหว่างทศาของเจ้าเรือนที่ 9  ความเจริญสมบูรณ์  ได้หลาน ความสุขและทรัพย์สิน.

ระหว่างทศาของเจ้าเรือนที่ 10 ความเจริญของการอาชีพ  เดินทางโดดเดี่ยวโดยลำพังได้ชื่อเสียง  มีความหวังและสำเร็จในความปรารถนา.

ระหว่างทศาของเจ้าเรือนที่ 11  ทรัพย์สินเพิ่มพูน  ความสุขทางบ้าน  ได้ผลดีต่าง ๆ.

ระหว่างทศาของเจ้าเรือนที่ 12  จ่ายทรัพย์โดยความปรารถนาดี  พอใจในทางศีลธรรม.

ผลที่กล่าวมานี้จะเป็นผลดีต่อเมื่อดาวเคราะห์นั้นมีกำลังแรงและเป็นศุภผล  ถ้าดาวเคราะห์นันอ่อนไม่มีกำลังและไม่ได้ศุภผล  การพยากรณ์จะต้องเปลี่ยนไป  รวมความว่าถ้าดาวเคราห์นั้นมีกำลังก็ได้ผลดี  ถ้าดาวเคราะห์นั้นเสียกำลังก็รับผลร้าย  เช่นถ้าเจ้าเรือนที่ 6 อยู่ในที่ไม่เป็นคุณจะให้เกิดโรค  หนี้สิน  และศัตรูปองร้าย ฯลฯ  ดาวเคราะห์เจ้าเรือนอื่น ๆ ถ้าเป็นเจ้าเรือนที่ 6 ก็พยากรณ์ได้อย่างเดียวกัน.

ได้กล่าวมาแล้วถึงธรรมชาติต่าง ๆ ที่ได้จากดาวเคราะห์เช่น อุปนิสัย  ลักษณะ  โรคภัย ฯลฯ  จะต้องกำหนดเอาลักษณะธรรมชาติต่าง ๆ เหล่านี้โดยสมควรแก่ดาวเคราะห์ที่สัมพันธ์เกี่ยวข้องในทศานั้น ๆ ราหูหรือเกตุให้ผลดีหรือร้ายสุดแท้แต่เรื่องที่เนื่องจากธรรมชาติของดาวเคราะห์ที่สัมพันธ์ด้วย  หรือดาวเคราะห์เจ้าเรือนที่ราหูหรือเกตุไปสถิตอยู่

ต่อไปนี้เป็นผลบางอย่างที่เห็นได้ง่าย ในทศาต่าง ๆ.


ทศาอาทิตย์ 6 ปี

ถ้าอาทิตย์เป็นอุจจ์ให้ความหมายถึงปัญญาและความคิด  ได้เงินได้ชื่อเสียงและความสุขอาทิตย์อยู่ในที่ดีในเรื่องเกษตรของตัวเองหรือ ร่วมกับเจ้าเรือนที่ 9 หรือที่ 10 ได้ผลประโยชน์ได้ทรัพย์สินได้เกียรติ  อาทิตย์ร่วมเจ้าเรือนที่ 5 อาทิตย์ได้บุตรสัมพันธ์แก่เจ้าเรือนที่ 2 มีทรัพย์ได้เงิน  ทรัพย์สมบัติเป็นหลักฐานมั่นคง  ได้รับความกรุณาจากผู้มีอิทธิพลอาทิตย์เป็นนิจจ์  หรือที่ 8 หรือ ร่วมด้วยดาวร้าย  จะเกิดโรคร้ายสูญเสียทรัพย์สิน  เดือนร้อนเพราะงานที่ทำ  ถูกลงโทษและเจ็บป่วย.

ถ้าอาทิตย์ เป็นมหาอุจจ์ ในทศาของอาทิตย์ จะได้สัตว์พาหนะวัวควายและทรัพย์สินโดยไม่รู้ตัว  จะต้องเดินทางไปทางทิศตะวันออกบ่อย ๆ จะไปพักในต่างประเทศจะเป็นปากเสียงกับมิตรและญาติ  พอใจในการเดินทางเที่ยวเตร่  พอใจในหญิงงาม  ถ้าอาทิตย์  เป็นมูลตรีโกณ  ได้บุตรใหม่  รับความนิยมนับถือจากบุคคลชั้นสูง  ได้เงิน

และสัตว์พาหนะวัวควาย  ได้อำนาจและผลสำเร็จทางการเมือง  ถ้าอาทิตย์เป็นเกษตรรับความนิยมจากพระราชาและสุภาพชน  อยู่ในความยุติธรรม  ได้บุตรหรือชื่นชมอยู่ด้วยเด็ก ๆ ถ้าอาทิตย์เป็นนิจจ์ เสื่อมโทรมถึงความยากจน  ลำบากเพราะศัตรูเสมอ  กิจการล้มเหลว  เสียพี่น้องและมิตร  เกิดความเดือนร้อนและความสัมพันธ์ในชีวิต  ถ้าอาทิตย์เป็นประ  ทุกข์ใจ  เสียภรรยาสามี  สูญเสียทรัพย์สมบัติเงินทอง  ถ้าอาทิตย์ร่วมตนุลัคน์จะได้ลาภดีในครึ่งหลังของระยะทศา  งานในหน้าที่เจริญดี  เพลิดเพลินในการเดินทางด้วยยานพาหนะ  ถ้าอาทิตย์ อยู่ในเรือนที่ 2 หรือเรือนที่ 7 จะประสบอุบัติเหตุ  จะเจ็บป่วย  และเกิดผลร้ายอื่น ๆ.


ทศาจันทร์ 10 ปี

ถ้าจันทร์ร่วมลัคน์ ได้ทรัพย์สินและความสุข  ชื่อเสียงมั่นคง  ในเรือนมิตรรายได้ดี  การศึกษาดีและสำเร็จผลต่าง ๆ ด้วยดี  ร่วมอุจจ์  สุขสำราญและความพอใจร่วมดาวเคราะห์มีกำลัง ได้ความสุขและผลสำเร็จ  ถ้าเป็นอุจจ์ ชื่อเสียงดีขึ้น  ได้รวบรวมทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก  สุขกาย  สบายใจ  เป็นเกษตร ได้ทรัพย์สินเพิ่มขึ้น  ผลสำเร็จในการเป็นความ  ได้ทรัพย์โดยไม่นึกหมาย  เดินทาง  เป็นมูลตรีโกณได้รับความนิยมจากบุคคลสูงสุด  มีลาภมาก  ได้ที่ดิน  มีความสุขสำราญและเพลิดเพลินด้วยการสมาคมระหว่างเพศ  ในเรือนศัตรู ไม่มีเพื่อน  ตกต่ำเพราะครอบครัว  เสียเงิน  เสียชื่อเสียง  ร่วมดาวร้าย ทุกข์ร้อนและสูญเสียเพราะอัคคีภัย  โจรภัย  และการเป็นความ ร่วมอาทิตย์ เป็นปากเสียงกับเพื่อนบ้านและญาติ  เสียบิดามารดาและทรัพย์สมบัติ  ในราศีพฤศจิก ให้เกรงภัยจากผู้นำในการเมือง  เครือญาติถูกทำลาย  พลาดความหวังในทุก ๆ สิ่ง  สูญเสียทรัพย์สิน  เสียเสรีภาพและเกียรติ  เกิดปัญหายุ่งยาก  และจิตใจปราศจากความสุข.

ทศาอังคาร 7 ปี

อังคารในเรือนมิตร ได้ทรัพย์ที่ดินร่วมอุจจ์  รายได้ดี  ชื่อเสียงดี  เป็นเกณฑ์จากดาวดี เสียผลไม่มีความสุข  เป็นเกณฑ์จากดาวร้าย จะปราศจากยศหรือฐานะ  ร่วมนิจจ์ จิตใจและกายไม่ปกติ  ในเรือนศัตรู ไม่มีความสุขเพราะการถกเถียงทะเลาะวิวาท  ผู้มีอำนาจเหนือไม่พอใจ  และร่างกายอ่อนแอ  ในเรือนที่ 1 จะเดือดร้อนลำบากและขโมย และพิษร้าย  ในเรือนที่ 2 เป็นที่พอใจของผู้อื่น  ได้ฐานะดี  แต่จะเกิดโรคที่หน้าหรือนัยน์ตา  ในเรือนที่ 3 มีความสุขและความหวัง  ในเรือนที่ 4 เสียหลักฐาน  เศร้าโศก  ทะเลาะวิวาท  ในเรือนที่ 5 เสียเงิน  เสียบุตรหลาน  เกิดอุบัติเหตุแก่เด็ก ๆ ในเรือนที่ 6 ทะเลาะวิวาท  เสียใจ  เป็นหนี้  เกิดศัตรู  ในเรือนที่ 7 ไม่พอใจในสามีภรรยา  เกิดโรคปัสสาวะพิการและกระเพาะปัสสาวะ  ในเรือนที่ 8 จะถูกของร้อนหรือเป็นฝี  เสียหลักฐาน  ต้องเดินาง  ในเรือนที่ 9 ประพฤติการอันไม่สมควรต่อบิดา  สูญเสีย  และถึงความอันตราย  ในเรือนที่ 10 เกิดความท้อใจเพราะความล้มเหลว   ผลดีหรือผลร้ายในการอาชีพ  สุดแท้แต่อังคารมีกำลังดีหรือไม่มีกำลัง  ในเรือนที่ 11 ได้ความนับถือ  เกิดลาภ  และผลสำเร็จ  ในเรือนที่ 12 เสียลาภผล และบุตรหลาน.

ทศาราหู 18 ปี

ราหู  ในเรือนที่ 1 ความป่วยไข้  เพื่อนญาติมีความสุข  ในเรือนที่ 2 เสียที่ดินและทรัพย์สิน  ลำบากในการเงิน  อาหารเลว  ในเรือนที่ 3 ได้ความนับถือความพอใจ  เด็ก ๆ สุขสบาย  ได้ทรัพย์สิน  สามีภรรยาพี่น้องสุขสบายดี  ในเรือนที่ 4 จะเสียมารดาหรือมารดาจะป่วย  เกิดความเดือดร้อนทรมานมากมาย  ในเรือนที่ 5 เศร้าใจ  ในเรือนที่ 6 ครอบครัวจะทุกข์ร้อนเพราะ ขโมย  ไฟ  ผู้มีอำนาจ  และความยุ่งเหยิงวุ่นวายอื่น ๆ ในเรือนที่ 7 ระวังอันตรายจากสัตว์เลื้อยคลาน  ภรรยาสามีรเดือดร้อน  ในเรือนที่ 8 เสียทรัพย์สินเงินทองมาก  เกิดความเสียหายต่าง ๆ ใน

เรือนที่ 9 เสียลาภ  เสียผล  เสียบิดาหรือบิดาจะเจ็บ  ต้องใช้จ่ายมาก  ในเรือนที่ 10 สนใจในศีลธรรม  สนใจในเรื่องลี้ลับ  ในเรือนที่ 11 ดีทุกสิ่งทุกอย่างทุกเรื่อง  ผู้มีอำนาจช่วยเหลือ  ในเรือนที่ 12 ได้พบสิ่งที่ไม่พอใจ  เสียหายโดยไม่คาดหมาย.

ราหูจะไม่ได้ผลร้ายเสมอไปถ้าได้อยู่ในเรือนของดาวศุภเคราะห์  โดยผลสะท้อนจากดาวนั้น  จะทำให้ราหูมีกำลังดีแล้วให้ผลดีแน่นอน  เช่นในชะตาตัวอย่างจะเห็นว่าในทศาของราหู ๆ จะให้ผลดีแน่  เพราะราหูอยู่ในเรือนที่ 2 และพฤหัสบดีเจ้าเรือนที่ 2 อยู่ในเรือนที่ 10 ราหูเป็นเกณฑ์  โดยอังคารจากเรือนที่ 7 ราหูจะให้ผลของพฤหัสบดี  ที่เล็งเรือนที่ 4 ดังนั้นเจ้าชะตาจะสำเร็จการศึกษา  (เรือนที่ 4)  ในระยะทศาราหู  ได้บุตร  (เพราะพฤหัสบดีเป็นปุตะการก)  ได้แต่งงาน  (เกณฑ์ของอังคารจากเรือนที่ 7)  จะได้เริ่มประกอบการอาชีพ  (พฤหัสบดี ในเรือนที่ 10)  ราหูเป็นอนุทศาที่ 2 ในมหาทศาอังคาร  ดังนั้นจะได้ศุภผลที่เห็นแน่ชัดสมความจริง.


ทศาพฤหัสบดี 16 ปี

ถ้าพฤหัสบดี  เป็นมหาอุจจ์  ได้ทรัพย์สิน  ได้ความสุข  ราชวงศ์จะนิยมชื่อเสียงดี  เป็นอุจจ์  เดินทางเพื่อความดี  แต่จะเหน็ดเหนื่อยกระวนกระวาย  โชคดีทั่วไปเป็นนิจจ์  ท้อใจ  เสียใจรับใช้ญาติพี่น้อง  เป็นเกษตร  ได้บุตร  ผลสำเร็จในการกระทำทุกอย่าง  เครือญาติและครอบครัวเพิ่มขึ้น  ชื่อเสียงกว้างขวาง  มีความสุข   ในเรือนที่ 1 สุขภาพสมบูรณ์  ได้ทรัพย์สิน  ในเรือนที่ 2 เพิ่มรายได้  เกียรติสูง  ครอบครัวสุขสบาย  ในเรือนที่ 3 ร่วมความสุขสำราญด้วยญาติพี่น้องและครอบครัว  ผลสำเร็จในกิจการ  ในเรือนที่ 4 ได้ความนิยมนับถือ  ได้ที่ดินบ้านเรือน  ความสุขทั่วไป  ในเรือนที่ 5 ผลดีในสำนักงาน  แต่ไม่สู้จะดีนักสำหรับเด็ก ๆ ในเรือนที่ 6 ได้ถ่ายถอนหนี้สิน  ศัตรูทำร้ายมิได้  ในเรือนที่ 7 เดินทางหรือออกเที่ยวโดยสันโดษ  แต่งงาน (ถ้ายังไม่ได้แต่งงาน)  ในเรือนที่ 8 เสียบ้านเรือนที่พักพิงอาศัย  เกิดโรค  จิตใจไม่เป็นสุข  มีศัตรูมากขึ้น  ในเรือนที่ 9 ได้ความรู้สูงขึ้น  ได้ทรัพย์  ได้บุตร

หลาน  โชคดีทั่วไป  ในเรือนที่ 10 ผลสำเร็จในการอาชีพ  สุขสำราญด้วยครอบครัว  ในเรือนที่ 11 ได้ที่ดิน  เป็นปากเสียงระหว่างครอบครัว  ในเรือนที่ 12 รับทุกข์ทรมาน  และเกิดความลำบากยากเข็ญ.


ทศาเสาร์ 19 ปี

ทศานี้แสดงความหมายคือความบกพร่องเสียหาย  ความคิดไม่ปลอดโปร่ง  เสียเกียรติและเสียทรัพย์สิน  ผู้มีอำนาจไม่พอใจ  ผลอย่างนี้จะพยากรณ์ได้ต่อเมื่อเสาร์ในดวงชะตาไม่ให้คุณ  เสาร์ในราศีมกร ได้ที่ดินมากขึ้น  ได้ทรัพย์สิน  เป็นมิตรกับผู้มีชื่อเสียง  ในราศีกุมภ์ เดินทางไปหัวเมืองทิศตะวันตก  ผลสำเร็จในการเป็นความสุขภาพดี  ในเรือนศัตรู ทะเลาะวิวาท  เสียหลักฐาน  ผู้มีอำนาจไม่พอใจ  ในเรือนมิตร สุขสำราญทั่วไป  ในเรือนที่ 1 ร่างกายอ่อนเพลีย  สมองพิการ  เสียเงิน  ในเรือนที่ 2 ระทมทุกข์  สายตาไม่ปกติ  ผู้มีอำนาจไม่พอใจ  ถ้าเสาร์รับผลร้ายอย่างแรงจิตใจไม่ปกติ  ในเรือนที่ 3 เสียพี่น้องจะป่วย  จิตใจเลื่อนลอย  ได้เงิน  ในเรือนที่ 4 เสียมารดาหรือมารดาจะป่วย  การเป็นความไม่ได้ผลดี  การสอบไล่ไม่ได้ผล  ในเรือนที่ 5 เสียบุตรหรือเด็ก ๆ จิตใจอ่อนเพลีย  เสียทรัพย์สิน  ร้อนใจเพราะคนไข้  ในเรือนที่ 6 เดือนร้อนเพราะศัตรู  เกิดโรคร้าย  ในเรือนที่ 7 ระทมทุกข์ เสียหาย ความคิดความเห็นขัดกันระหว่างสามี – ภรรยา  กลุ่มใจร้อนใจในสุขภาพของภรรยา  สามี  ในเรือนที่ 8 ไม่เป็นผลดีทั่วไป  ในเรือนที่ 9 เสียบิดามารดา  เสียลาภผล  ในเรือนที่ 10 เข้าใจผิดและทะเลาะวิวาทกับผู้ร่วมงาน  ลักษณะของผลสุดแท้แต่เสาร์มีกำลังดีหรือกำลังอ่อน  ในเรือนที่ 11 ความสุขสำราญ ได้ลาภ ได้ผล  และความดีอื่น ๆ ในเรือนที่ 12 ความโศกเศร้าและอันตรายที่หนักแน่น


ทศาพุธ 17 ปี

ถ้าพุธ  เป็นอุจจ์ รายได้ดี  สนใจในการศาสนาและศีลธรรม  ช่วยเหลือผู้อื่นได้ที่ดินและชื่อดี เป็นนิจจ์ ทะเลาะวิวาท  เสียธุรกิจ  เสียชื่อเสียง  เสียทรัพย์สมบัติของ

เดิม  ร่วมศุภเคราะห์ มีความสุขมาก  แต่งงาน  เกิดบุตร  ผลดีในการค้า  ร่วมบาปเคราะห์ เสียชื่อเสียง  เป็นปากเสียงกับเพื่อนและญาติ  ตกต่ำกว่าผู้อื่น ในราศีมิถุน ผลสำเร็จในการศึกษาชั้นสูง  สำเร็จการอาชีวะศึกษาขั้นสุดท้าย  ชื่อและทรัพย์สินดี  ความสุขสำราญจากสามีภรรยาและบุตร  ทำพิธีสมรส  ในราศีกันย์ ความนิยมจากราชสำนัก ความสุขในชีวิต  สุขภาพสมบูรณ์  บำเพ็ญการกุศล  ได้ลาภโดยไม่รู้ตัว  ในเรือนที่ 1 สุขภาพ  ชื่อเสียง  ผลประโยชน์  การศึกษา  การยกย่องดี  ในเรือนที่ 2 ผลดีทางทรัพย์สินครอบครัวสุขสบาย  และปลดเปลื้องหนี้สิน  ในเรือนที่ 3 ทำการวิธีมงคลที่บ้าน  ได้เพชรพลอดได้ชื่อเสียง  แต่งงานกับญาติ  ในเรือนที่ 4 ได้บ้านเรือนใหม่  แต่ไม่สำเร็จผลอย่างอื่น  ในเรือนที่ 5 ได้บุตร ได้การศึกษา มีรายได้ มีความสุข เพื่อนฝูงกว้างขวางสนใจศึกษาไสยศาสตร์แลมนต์คาถา  ในเรือนที่ 6, 8, 12 เกิดโรคเส้นประสาท  ศัตรูมากขึ้นทะเลาะวิวาท  จิตใจระส่ำระสาย  เดือดร้อนเรื่องทีอยู่  ทางการปกครองไม่พอใจและมุ่งร้ายระวังอันตรายจาก ไฟ ขโมย โจร  การเมืองและที่อยู่ในต่างเมือง  ในเรือนที่ 7 ได้ ภรรยา สามี การศึกษาได้ผลดี  พบปะกับมิตรเก่าหรือผู้ที่คุ้นเคยกัน  และมีความสุขสำราญ  ในเรือนที่ 9 ได้ทำงานใหญ่  โน้มน้อมจิตใจเข้าในทางศาสนา  ในเรือนที่ 10 สุขสบาย  ชื่อเสียงดีขึ้น  ในเรือนที่ 11 ทำการสาธารณกุศลทำการค้าได้ที่ดินบ้านเรือน  ถ้าพุธอยู่ในเรือนที่ 6, 8, 12 ให้ผลร้าย.


ทศาเกตุ 7 ปี

ถ้าเกตุเป็นอุจจ์ ให้ผลเป็นที่พอใจ  ถ้ามิฉะนั้นให้ผลตรงข้าม  อยู่ในเรือนที่ 1 จะเป็นไข้  เสียชื่อเสียง  เศร้าใจ  เจ็บปวดบาดแผล  ถูกของมีคม  ในเรือนที่ 2 หมดเปลืองทรัพย์  จิตใจเศร้าหมอง  เจ็บนัยน์ตา  ครอบครัวอยู่ในความทุกข์โศก  ถูกเพื่อนบ้านรบกวน  ในเรือนที่ 3 สุขสบาย  แต่จะทะเลาะวิวาทกับพี่น้อง  ในเรือนที่ 4 ให้เกรงขโมย  ไฟ  การเป็นความ  ความทุกข์ต่าง ๆ มารดาลำบาก  ในเรือนที่ 5 ใช้จ่ายมาก เสียบิดาและบุตรหลาน เสื่อมจากศีลธรรม  ในเรือนที่ 6 ระวังอันตรายจากพิษร้าย  ยาพิษ  ไฟ  ขโมย  แต่ได้ลาภดีและผลดีอย่างอื่น ๆ ในเรือนที่ 7 จิตใจ

และร่างกายไม่มีสุข  เสียสามี  ภรรยาและบุตร  ทะเลาะกับญาติ  ในเรือนที่ 8 ภรรยา  สามีและตัวเองจะเจ็บป่วยหวาดกลัวในสิ่งที่ไม่ควรกลัว  ในเรือนที่ 9 เสียผล  เสียประโยชน์การค้าไม่มีกำไรร่างกายไม่ปกติ  สนใจและปฏิบัติทางศาสนากิจอย่างเคร่งครัด  ในเรือนที่ 10 ได้ยานพาหนะผลดี  ในการเป็นความ  ในเรือนที่ 11 ชื่นชมยินดีในกิจขุระแลใกล้ชิดกับพี่น้อง  ศัตรูไม่มีโอกาสทำอันตราย  ในเรือนที่ 12 ความเจ็บป่วย  การเดินทางและผลร้ายต่าง ๆ.


ทศาศุกร์ 20 ปี

เป็นที่คาดหมายกันว่าศุกร์ให้ผลดีเสมอ  ตรงข้ามกับผลร้ายของเสาร์  ทัศนะนี้ไม่แน่นอนเสมอไปออกจะคลาดเคลื่อนจากปรากฏการที่เป็นจริงอยู่บ้าง  ไม่ว่าในเรื่องผลของดาวเคราะห์ศุกร์ดาวเคราะห์หรือผลของดาวเคราะห์อื่น ๆ เพราะผลที่ดาวเคราะห์อำนวยให้นั้นต้องอาศัยอิทธิพลที่ปรากฏในดวงชะตาซึ่งอยู่เหนือธรรมชาติของดาวเคราะห์นั้น  สุดแท้แต่ดาวเคราะห์นั้นได้สถิตอยู่ในที่เป็นคุณหรือเป็นโทษในดวงชะตากำเนิด  หมายความว่าการที่ดาวเคราะห์ใดจะให้ผลดีร้ายอย่างใดนั้นอยู่ใต้อำนาจอิทธิพลของดวงชะตา  ไม่มีดาวเคราะห์ใดเคยให้ผลอย่างเดียวเสมอไป  ผลของดาวเคราะห์ย่อมปะปนกันทั้งดีและร้าย  จะแรงอ่อนกว่ากันอย่างไรนั้นสุดแท้แต่ลักษณะของที่สถิตและความสัมพันธ์ต่าง ๆ ในดวงชะตา.

ถ้าศุกร์  อยู่ในราศีพฤษภ ได้ความสะดวกสบายและความโอนอ่อนผ่อนตามในชีวิตเดินทางไปต่างประเทศ  เจตนาแรงกล้าในศีลธรรมและยุติธรรม  ได้ที่ดินบ้านเรือน  ยานพาหนะ  ร่วมสมาคมกับหญิงงาม  จะเกิดกามโรค  ในราศีตุลย์ รับความอุปการะจากพระราชาหรือราชวงศ์ ได้ชื่อเสียง ได้ทรัพย์สิน เป็นระยะเวลาที่เกิดความรู้สึกในความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่สุด  เป็นอุจจ์ ละทิ้งความสนุกสนานเพลิดเพลิน  ทรัพย์สินเพิ่มพูนมั่งคั่ง  เป็นนิจจ์ เกิดความยุ่งยาก  ไร้ผล  เกิดความทุกข์ร้อนเพราะครอบครัว  ในเรือนมิตร ทำความดีแก่ผู้อื่น สนใจในวิจัตรศิลปะ  จะถูกชักนำให้มัวเมาในกามราคะ  ในเรือนศัตรู เจ็บป่วย สุขภาพของภรรย  สามีและเด็กเสื่อมโทรม

เป็นปากเสียงกับเพื่อนและญาติ  ใช้จ่ายเปลือง  ในเรือนที่ 1 สุขกาย ชื่อเสียงดีขึ้น  ในเรือนที่ 2 ทุกคนนิยมในการงาน ลาภดี ใช้จ่ายในทางดี ในเรือนที่ 3 ให้ความสมบูรณ์แก่พี่น้องและเพื่อนบ้าน  ในเรือนที่ 4 ได้ผลประโยชน์ดี  ความสุข  ที่ดิน  ยานพาหนะ  ความนับถือ  ความมั่นคงสมบูรณ์  และความสุขความเจริญอื่น ๆ ในเรือนที่ 5 ได้ชื่อเสียง  เกียรติ  บุตร ทองคำ ทีดิน สมความปรารถนา ในเรือนที่ 6 เจ็บป่วย เดือนร้อนเพราะขโมยและความเข้าใจผิด ฯลฯ ในเรือนที่ 7 ลาภดี ครอบครัวสุขสบาย ในเรือนที่ 8 เป็นกามโรค ต้องเดินทางโดยไม่จำเป็น เที่ยวบริโภคอาหารของผู้อื่น  ในเรือนที่ 9 รับใช้ผู้มีอำนาจและได้รับผลดีจากผู้นั้น เป็นระยะเวลาที่ดีทุกอย่าง  ในเรือนที่ 10 ได้โชคลาภ เกียรติและการศึกษา เพื่อนใหม่ เงิน ในเรือนที่ 11 สุขสำราญอยู่ด้วยเด็ก ๆ และทรัพย์สิน  มีความเจริญทุกอย่าง  ในเรือนที่ 12 ถูกปลดจากตำแหน่งหน้าที่หรือสูญเสียทรัพย์สิน  หรือขาดทุนเสียหารในการค้า  หรือกิจการถูกล้มเลิก  หรือถูกอิจฉาฤษยาและอาฆ่ามาทร้ายโดยไม่เป็นผู้ผิด  หรือถูกแกล้ง เบียดเบียนโดยไม่เป็นธรรม เกิดความทุกข์ร้อน เดินทางไปต่างประเทศ ทะเลาะวิวาท โดยไม่มีเรื่องสมควร.

ได้อธิบายมาแล้วในตอนต้นของบทนี้ว่าผลต่าง ๆ เป็นลักษณะทั่วไป  ฉะนั้นจะต้องระวังในการนำมาใช้  ผลอย่างใดที่ผิดแปลกไม่เหมาะสมเข้ากันไม่ได้กับสภาพของดาวเคราะห์นั้น ๆ ในดวงชะตา  เมื่อได้พิจารณาดวงชะตาอย่างละเอียดแล้วต้องตัดทิ้งหรือละเว้นเสีย  ผลในทศาที่กล่าวมาแล้วนี้ให้ไว้พอเป็นสังเขป  เมื่อนักศึกษาได้ตรวจสอบดวงชะตาหาสภาพของดาวเคราะห์โดยรอบคอบแล้ว  ก็จะอยู่ในฐานะที่ดีที่สุดที่จะพิจารณาธรรมชาติของอิทธิพล  ซึ่งจะนำมาพยากรณ์ในระยะทศานั้น ๆ.

ในอนุทศา (ภุกติ)  เจ้าอนุทศามีอิทธิพลเหมือนกับในทศาที่ได้กล่าวมาแล้วในเรื่องนี้อย่างไรก็ดีจะต้องเอาอิทธิพลของดาวเคราะห์เจ้าทศาทั้ง 2 (มหาทศาและอนุทศา) ร่วมเข้าด้วยกัน  ทั้งจะต้องถือเอาเครือสัมพันธ์ระหว่างดาวเคราะห์เจ้าทศาทั้ง 2 ด้วย.

ข้อความละเอียดในผลของอนุทสามีในคัมภีร์ภารตะภาคมหาทศาและภาคพยากรณ์.